ออมสินหนุน“ช.พ.ค.5”ปลดหนี้ครู ลั่นคุ้มครองชีวิต-ทายาทมีหลักประกัน
ธนาคารออมสิน หนุนเงินกู้ ช.พ.ค.5 ตกรายละ 6 แสนบาท ช่วยปลดนี้ครู แจงคุ้มครองชีวิต ทายาทมีหลักประกันหากผู้กู้เสียชีวิตทุกกรณี
ความคืบหน้าภายหลังมีกระแสข่าวกู้เงินช.พ.ค. บังคับให้ครูต้องทำประกันชีวิตนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 ธนาคารออมสินได้เปิดให้บริการสินเชื่อ “โครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิก ช.พ.ค. โครงการ 5” ให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 6 แสนบาทต่อราย ชำระคืนเงินกู้ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี เอ็มแอลอาร์ (ปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 5.85 ต่อปี) ปรากฏว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. สนใจเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้จัดโครงการช่วยเหลือครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นสมาชิก ช.พ.ค. โดยการจัดหาแหล่งเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้สมาชิกนำไปใช้จ่ายในยามจำเป็น ซึ่งได้ร่วมกับธนาคารออมสิน เปิดให้บริการเริ่มตั้งแต่ปี 2548 คือ สินเชื่อโครงการ ช.พ.ค. 2, 3 และ 4 ในวงเงินกู้รายละ 2 แสนบาท ในกรณีที่สมาชิกผู้กู้เสียชีวิตทายาทจะได้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 7 แสนบาท ซึ่งหลังจากหักเงินกู้โครงการ ช.พ.ค. 2 แสนบาทแล้ว ทายาทยังเหลือเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ อีก 5 แสนบาท
นายวรวิทย์กล่าวต่อว่า ขณะที่โครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. 5 (เงินกู้ช.พ.ค.5) สกสค. ร่วมกับ ธนาคารออมสิน กำหนดวงเงินกู้เพิ่มขึ้นเป็น 6 แสนบาท หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่า ทำให้ สกสค.กังวลว่าทายาทอาจจะไม่ได้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ฯ หากผู้กู้เสียชีวิต ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ช.พ.ค. ที่ต้องการให้ทายาทผู้กู้มีหลักประกันชีวิต สกสค.จึงกำหนดเงื่อนไขทำประกันชีวิต เพื่อสิทธิประโยชน์จะตกสู่ทายาทของสมาชิกต่อไป
สำหรับเบี้ยประกันชีวิตเงินกู้ช.พ.ค.5 ต่างจากเบี้ยประกันชีวิตในโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครูฯ ที่ธนาคารออมสินดำเนินการอยู่ เนื่องจาก วงเงินคุ้มครองชีวิตในโครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตครูฯ จะลดลงตามวงเงินสินเชื่อคงเหลือ ขณะเงินกู้ ช.พ.ค. 5 วงเงินคุ้มครองจะคงที่ตลอดสัญญาเงินกู้ อีกทั้งไม่ต้องตรวจสุขภาพก่อน และยังให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี
“ธนาคารออมสิน เชื่อมั่นว่าเจตนารมณ์การส่งเสริมคุณภาพชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษาของธนาคารออมสินจะทำให้กลุ่มครูฯ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คงความเป็นทรัพยากรบุคคลอันล้ำค่าที่จะส่งเสริมให้การศึกษาของประเทศพัฒนาเจริญก้าวหน้า ขณะเดียวกันก็เกิดการหมุนเวียนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติได้อย่างยั่งยืน” นายวรวิทย์ กล่าว
http://www.komchadluek.net