๑. งัวควายจ๊างม้า ต๋ายแล้วเขาหนัง กระดูกมันยังเอาใจ๊ก๋านได้ จ๋าลวงสุด ปุ๋มและไส้ คนยังเอาไปกิ๋นอิ่มต๊อง มนุษย์เฮาต๋ายสหายปี้น้อง ไผบ่ห่วงข้องอาลัย สุดแต่ดูดพั๋วะ ก็ยังขว้างไกล๋ กลั๋วจั๊กเป๋นภัย ผีจั๊กหลอกได้
ความหมาย…วัวก็ดี ช้างก็ดี ม้าก็ดี ตายแล้วกระดูกเขาหนังของมันยังเอาไปทำประโยชน์ได้ แม้ที่สุด กระเพาะไส้หรือเครื่องในของมัน ยังเอาทำอาหารกินได้ แต่มนุษย์เราตาย มีใครบ้างที่เป็นห่วง เก็บเอามากินมาใช้บ้าง สุดท้ายก็เอาไปทิ้งเสียไกล ๆ ถ้าเก็บไว้ในบ้านก็กลัวจะเป็นภัยและผีหลอกได้
๒. หันเปิ้นมี อย่าไปใคร่ได้ หันเปิ้นฮ้าย อย่าไปดูแคลน
ความหมาย…เห็นเพื่อนมีอย่าอยากได้ของเขา เห็นเพื่อนยากไร้อย่าดูหมิ่นเหยียดหยาม
๓. หันว่ามีเงินแสนอย่าอวดอ้าง หันว่าได้ขี่จ๊างอย่าได้ลืมดิน
ความหมาย…หากมั่งมีเงินทองจำนวนมาก ๆ อย่าอวดว่าตัวมีใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย และอย่าลืมความเป็นคนทุกข์คนยากหรือคนไม่มีอันจะกินมาก่อน
๔. หันเปิ้นเตียวตี๋น อย่าได้ประมาท จ๊างสี่ตีนยังฮู้พลาดตกขุม
ความหมาย…เห็นเพื่อนเดินเท้าอย่าได้ดูถูก ช้างสี่เท้ายังรู้พลาดตกบ่อตกหลุม
๕. หันคนชุมอย่าไปผ่อ หันเป๋นต่ออย่าได้ไปกล๋าย
ความหมาย…เห็นคนชุมนุมกันอย่าได้ไปดู เพราะกลัวจะเกิดเรื่อง ถ้าเห็นรังต่อรังแตนอย่าย่างกรายเข้าไปใกล้เดี๋ยวมันต่อยเอา
๖. มีลูกมีหลานอย่าไปถามฆ่า มีจ๊างมีม้าอย่าไปถามฟัน
ความหมาย…อย่าเป็นคนใจคอโหดร้ายทารุณ
๗. ผัวเมียกั๋นอย่าอู้นันเมื่อค่ำ อย่าไปปากด่วนจ๋าแข็ง หื้อฮักแปงกั๋นใฝ่ห้อย เหมือนน้ำอ้อนสูนต๋าล
ความหมาย…เป็นคู่ผัวตัวเมียกัน เวลาพูดเจราจากันในเวลากลางคืน อย่าพูดกันเสียงดังมากนักคนอื่นจะรำคาญ ให้รักใคร่ปองดอกกันเอาไว้ ให้มันเกิดความหวานฉ่ำ เหมือนน้ำอ้อยผสมน้ำตาล
๘. อย่าไปด่าหลานขำขันข้าว อย่าไปว่าหื้อเจ้าข้าและครูบา อย่าไปนินทาพ่อแม่ ทั้งเฒ่าแก่และลุงอาว
ความหมาย..อย่าดุด่าหรือสั่งสอนลูกหลานเวลาทานข้าวและเวลาจะนอนหลับ เพราะจะทำให้คนที่ถูกด่าว่ากล่าวนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะคิดมาก อย่าว่าวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายและคนใช้ ตลอดจนถึงพระสงฆ์องค์เจ้า อย่านินทาพ่อแม่และคนเฒ่าคนแก่ พี่ป้า น้าอา มันไม่ดีจะเป็นบาปติดตัว
๙. หื้อหันยาวดีกว่าสั้น หื้อมืนต๋ากว้างผ่อตางไกล๋
ความหมาย…ให้เห็นยาวดีกว่าเห็นสั้น คือเรื่องใดเกิดขึ้นกับตัวเราหรือหมู่คณะที่จะเป็นอันตรายทำให้แตกความสามัคคีกันก็อย่าเห็นดีด้วย ให้ลืมตากว้าง ๆ ดูหนทางหรือดูเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่าหลับตา คือ ไม่รับรู้เรื่องราวอะไร
๑๐. ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า มันจ๊างต๋ายกาลูกแต้ง มันจ๊างแห้งแล้งเมื่อปายหลัง
ความหมาย…เรื่องราวที่มันเกิดขึ้นภายในหมู่บ้านหรือในบ้าน อย่าได้นำไปแฉให้คนอื่นฟัง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นข้างนอกหมู่บ้าน อย่าได้นำเอามาเผยแพร่ให้คนภายในบ้านได้รับทราบ มันไม่ดี จะทำให้เกิดการทะเลาะ เกิดการวิวาทกัน จะตายทั้งสองฝ่ายทั้งลูกและแม่ และจะนำความเดือดร้อนมาภายหลัง
๑๑. อย่าตุ้มผ้าลายหื้อหมามันเห่า อย่าไปค้นกำเก่าเอามาเถียงกั๋น
ความหมาย..หมามันเห็นของลาย ๆ มันนึกว่าเสือมันย่อมเห่า อย่าค้นคำเก่าหรือเรื่องล่วงแล้วเอามาวิพากวิจารณ์ ย่อมจะเกิดการทะเลาะถกเถียงกัน หมู่คณะจะแตกร้าวกัน
๑๒. ของกิ๋นบ่มัก บ่จ้างขับจ๋ำ ของกิ๋นบ่ลำ บ่จ้างก๋ำป้อน
ความหมาย…ของกินที่ไม่ชอบ ไม่รู้จะบังคับข่มขืนและจะมาบอกให้กลืนมะพร้าวทั้งกะลาก็เป็นไปไม่ได้ นั่นหมายความว่า เรื่องราวต่าง ๆ ที่เราไม่ชอบ ไม่รับรู้จะมาบังคับให้รับรู้ก็เหมือนกับให้เรากลืนมะพร้าวทั้งกะลา ทั้งเปลือก ย่อมเป็นไปไม่ได้
๑๓. เก็บผักผลไม้ บ่ดีเก็บไกล๋ เก็บต๋มตัวคันได ปอแก๋งปอนึ้ง
ความหมาย..เราจะทำการทำงาน ทำมาค้าขาย อย่าให้เหินห่างจากบ้านมากนัก หรือว่าอย่าโหมงานหนักจนเกินกำลัง จงทำแต่พอเหมาะพอควรกับพละกำลัง เช่นเดียวกับการหาเก็บผักผลไม้ ก็ให้เก็บที่ใกล้บ้านหรือตามรั้วบ้านพอกินอิ่มก็ใช้ได้
๑๔. เปิ้นว่าเสือ ตั๋วว่าพระเจ้า บ่ดีเน้อปี้น้อง
ความหมาย…ท่านเตือนว่าอย่าทำอย่างนั้นนะอย่าทำอย่างนี้นะ เช่น อย่าริเที่ยวสำส่อน ระวังโรคเอดส์เราก็ว่ามันเรื่องเล็ก (อย่าอวดเก่ง) ทำนองที่ว่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว นั่นเอง
๑๕. คนเฮามนุษย์ อย่าไปหัวแข็ง หื้อร่ำเปิดแยง ต๋ามธรรมพระเจ้า
ความหมาย…เราเป็นมนุษย์ชื่อว่าผู้มีจิตใจสูงย่อมมีความรู้สึกนิดคิด อย่าทำเป็นคนหัวแข็งดื้อด้านว่ายาก สอนยากให้พิจารณาดูให้ละเอียดตามธรรมะคำสั่งสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๑๖. อย่าเคร่งอย่ายาน ป๋านกล๋างเนอเจ้า อย่าได้มัวเมาต่ำจ้า
ความหมาย…การกระทำอะไรสักอย่างหนึ่งอย่าได้ตึงจนเกินไปและอย่าให้หย่อนยานจนเกินไป ทำให้พอดีหรือพอปานกลางเหมือนกับสายพิณ ถ้าหย่อนเกินไป ดีดฟังก็ไม่ไพเราะ ถ้าตึงเกินไปดีดฟังเสียงไพเราะ แต่อาจขาดง่าย ฉะนั้น จึงดีดแต่เพียงพอดี ดีดฟังเท่าไรก็ไม่เบื่อ แถมทนทานอีกต่างหาก
๑๗. เลี้ยงหมาหวังไว้กิ๋นดูก เลี้ยงลูกหวังไว้กิ๋นแฮง ปลูกเต้าปลูกแต๋งหวังไว้กิ๋นหน่วย
ความหมาย…เราทำการอะไรไว้ก็ย่อมหวังผลตอบแทนเป็นธรรมดา เหมือนเลี้ยงหมาไว้ให้มันแทะกระดูกวัวกระดูกควาย เลี้ยงลูกก็หวังไว้ให้ช่วยแรงงาน เหมือนเราปลูกแตงหวังกินลูกกินผลของมันฉันใด คนเราทำอะไรก็ต้องหวังผลเช่นนั้น
๑๘. เปิ้งปี้เจ็บต้อง เปิ้งน้องเจ็บใจ๋ เปิ้งป้าเปิ้งอาไผบ่ได้
ความหมาย…ออกปากพึ่งพี่พี่ก็อ้างว่าปวดท้อง ขอพึ่งน้องก็อ้างว่าปวดหัว พึ่งน้าพึ่งอาพึ่งใครไม่ได้ หลักศาสนาว่าให้พึ่งตัวเอง (อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ)
๑๙. กำกึ๊ดดี เหล็กจีย่อมเป๋นพร้าโต้ กำกึ๊ดโล้ พร้าโต้ย่อมเป๋นเหล็กจี๋
ความหมาย…ความคิดดี มีความฉลาดสามารถเอาสว่านซึ่งเป็นของเล็กทำให้เป็นมีดอีโต้ใช้การได้ แต่ถ้าความคิดไม่ดี ขาดความฉลาด ก็จะทำให้มีดอีโต้ กลายเป็นสว่านเล็ก ๆ คือเสื่อมลงนั่นเอง แต่คนฉลาดนักปราชญ์ท่านกล่าวไว้แม้หนูตายตัวเดียว สามารถสร้างฐานะให้เป็นเศรษฐีได้ เพราะรู้ในกรรมวิธี
๒๐. ต๋าอยู่หน้า ผ่อหน้าบ่หัน
ความหมาย…เรื่องของคนอื่นหรือความบกพร่องของคนอื่นนั้น เรามองเห็นได้ชัด แต่เรื่องของตน หรือความบกพร่องของตนแล้วย่อมจะมองไม่เห็น เข้าทำนองที่ว่า โทษคนอื่นแลเห็นเป็นภูเขา โทษของเราแลไม่เห็นเท่าเส้นขน
๒๑. อย่าหายใจฮ่วมฮูดังเปิ้น
ความหมาย…การจะทำอะไรสักอย่างอย่าหวังพึ่งแต่คนอื่นอยู่ร่ำไป เพราะบางครั้งก็พึ่งได้บางครั้งก็พึ่งไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราพึ่งตัวของเราดีกว่า (อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ)
๒๒. จิ๊กปิ๊กไหนก็ป้อ จ้อหว้อไหนก็ควัก
ความหมาย…คนที่มั่งมีศรีสุข ไม่อดไม่อยากไม่เดือนร้อน การจะทำอะไรก็เป็นดีไปหมด และก็ยิ่งมีเพิ่มทวีคูณ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะกรรมเก่าที่ทำไว้ได้มาอุดหนุน ที่ว่าจ้อหว้อไหนก็ควักนั้น ก็หมายความว่า คนที่ไม่มี ก็ไม่มีอะไรเอาเสียเลย จะทำอะไรก็มีอันเป็นไปร้อยแปด พันประการ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะกรรมเก่าไม่มาอุดหนุน แถมคอยซ้ำเติมอีกต่างหาก
๒๓. เอาคนอื่นเป๋นดีไปตางหน้า ละป้อแม่ไว้เป๋นหย่อมหญ้าอยู่ตางหลัง
ความหมาย…คนบางคนนั้นไปได้ดิบได้ดี หรือไปเป็นคนมีทรัพย์สมบัติบริวารเจริญงอกงามไพบูลย์ แต่ว่าละทิ้งพ่อแม่ให้ได้รับความทุกข์ยากลำบากอยู่ทางหลังไม่เหลียวดูแลพ่อแม่เป็นอกตัญญูไม่รู้คุณของพ่อแม่
๒๔. ไม้เต้าคนเฒ่า ยังดีกว่าลูกต้าเนรคุณ
ความหมาย…ลูกหลานเนรคุณนั้นร้ายกว่าสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ยังสู้ไม้เท้าของคนแก่ไม่ได้ เพราะไม้เท้านั้นพึ่งได้กันหกล้ม หรืออันตรายต่าง ๆ ได้ เช่น กันหมาดุจะมาทำร้าย ลูกหลานบางคนเป็นอย่างนี้จริง ๆ
๒๕. เสียมบ่คม ใส่ด้ามหนัก ๆ ความฮู้บ่นัก หื้อหมั่นฮ่ำหมั่นเฮียน
ความหมาย…สิ่งของอะไรก็แล้ว เมื่อว่ามีคมดีแล้วหรือไม่ค่อยมีเท่าไร ก็ต้องพยายามฝนหรือลับบ่อย ๆ ดังนั้น การทำงานจะให้เกิดความชำนาญแล้ว ก็ต้องทำบ่อย ๆ เหมือนกับคนที่ไม่มีความรู้ก็ต้องพยายามศึกษาหาความรู้ อย่ามัวแต่ขี้เกียจขี้คร้านไม่สนใจ และมักอ้างว่าหนาวนัก ร้อนนัก หิวนัก อย่างนี้เป็นต้น ย่อมจะไม่ประสบความสำเร็จ
สุภาษิต คือ คำพูดที่ถือเป็นคติ มีความลึกซึ้ง ใช้สั่งสอน ถือเป็นการวางแนวและแสดงค่านิยมของมนุษย์มาแต่โบราณกาล เช่น สุภาษิตสอนหญิง สุภาษิตพระร่วง ก็มีข้อความสั่งสอนที่แสดงค่านิยมของสมัยนั้น ๆ ไว้อย่างชัดเจน ตลอดจนพุทธภาษิตคำสั่งสอนตามแนวทางพระพุทธศาสนา เช่น
"รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี (สุภาษิต)
"บุคคลย่อมล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร" (พุทธศาสนาสุภาษิต)
คำพังเพย เป็นคำเปรียบเทียบเรื่องต่าง ๆ เพื่อใช้ติชม ซึ่งสะท้อนถึงความคิด ความเชื่อถือ และค่านิยม อันเป็นลักษณะของคนไทย เช่น ค่านิยมในการยกย่องผู้มีอาวุโส เคารพครูบาอาจารย์ และนิยมความสุภาพอ่อนโยน เช่น
"พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง"
หมายความว่า พูดไปไม่มีประโยชน์นิ่งเสียดีกว่า
สำนวน คือ ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นโดยมีความหมายพิเศษ ไม่ครงกับความหมายที่ใช้ตามปกติ ทั้งนี้อาจจะเป็นคำที่มีความหมายโดยนัย หรือความหมายในเชิงเปรียบเทียบ เป็นลักษณะคำพูดที่รวมใจความยาว ๆ ให้กะทัดรัด บางสำนวนอาจหมายถึงสุภาษิตและคำพังเพยด้วย เช่น
"ป้ามาลีรู้ตื้นลึกหนาบางของคุณนายสุรีย์หมด"
หมายความว่า รู้ความเป็นมาอย่างละเอียดhttp://www.baanjomyut.com/10000sword/literary_style/index.htmlhttp://www.choosuwan.com/supasid/supasid.html