ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

***ความรู้เรื่องยาเสพติด***


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,143 ครั้ง
Advertisement

***ความรู้เรื่องยาเสพติด***

Advertisement

ความรู้เรื่องยาเสพติด

๑. ความหมายของยาเสพติด
            ยาเสพติด  หมายถึง สารใดก็ตามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือสารที่สังเคราะห์ขึ้น เมี่อนำเข้าสู้ร่างกายไม่ว่าจะโดยวิธีรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยวิธีการใด ๆ แล้ว ทำให้เกิดผลต่อร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ยังจะทำให้เกิดการเสพติดได้ หากใช้สารนั้นเป็นประจำทุกวัน หรือวันละหลาย ๆ ครั้ง
            ลักษณะสำคัญของสารเสพติด จะทำให้เกิดอาการ และอาการแสดงต่อผู้เสพดังนี้
                ๑.  เกิดอาการดื้อยา หรือต้านยา และเมื่อติดแล้ว ต้องการใช้สารนั้นในประมาณมากขึ้น
                ๒.  เกิดอาการขาดยา ถอนยา หรืออยากยา เมื่อใช้สารนั้นเท่าเดิม ลดลง หรือหยุดใช้
                ๓.  มีความต้องการเสพทั้งทางร่างกายและจิตใจ อย่างรุนแรงตลอดเวลา
                ๔.  สุขภาพร่างกายทรุดโทรมลง เกิดโทษต่อตนเอง  ครอบครัว  ผู้อื่น  ตลอดจนสังคม และประเทศชาติ


๒. ประเภทของยาเสพติด
            ยาเสพติด แบ่งได้หลายรูปแบบ ตามลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

               ๑.  แบ่งตามแหล่งที่เกิด  ซึ่งจะแบ่งออกเป็น  ๒  ประเภท คือ
                    ๑.๑  ยาเสพติดธรรมชาติ  (Natural  Drugs) คือยาเสพติดที่ผลิตมาจากพืช เช่น  ฝิ่น กระท่อม  กัญชา  เป็นต้น
                   ๑.๒  ยาเสพติดสังเคราะห์  (Synthetic  Drugs)  คือยาเสพติดที่ผลิตขึ้นด้วยกรรมวิธีทางเคมี  เช่น เฮโรอีน  แอมเฟตามีน  เป็นต้น
                ๒.  แบ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒  ซึ่งจะแบ่งออกเป็น ๕ ประเภท คือ
                    ๒.๑  ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑  ได้แก่ เฮโรอีน  แอลเอสดี  แอมเฟตามีน หรือยาบ้า  ยาอีหรือยาเลิฟ
                    ๒.๒  ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๒  ยาเสพติดประเภทนี้สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้  แต่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์    และใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น ได้แก่  ฝิ่น  มอร์ฟีน  โคเคน หรือโคคาอีน  โคเคอีน  และเมทาโดน
                    ๒.๓  ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่  ๓   ยาเสพติดประเภทนี้เป็นยาเสพติดให้โทษที่มียาเสพติดประเภทที่  ๒   ผสมอยู่ด้วย มีประโยชน์ทางการแพทย์   การนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น หรือเพื่อเสพติด จะมีบทลงโทษกำกับไว้  ยาเสพติดประเภทนี้ ได้แก่
ยาแก้ไอ  ที่มีตัวยาโคเคอีน  ยาแก้ท้องเสีย ที่มีฝิ่นผสมอยู่ด้วย  ยาฉีดระงับปวดต่าง ๆ เช่น มอร์ฟีน  เพทิดีน  ซึ่งสกัดมาจากฝิ่น
                    ๒.๔  ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่  ๔  คือสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒   ยาเสพติดประเภทนี้ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดโรคแต่อย่างใด  และมีบทลงโทษกำกับไว้ด้วย  ได้แก่น้ำยาอะเซติคแอนไฮไดรย์ และ อะเซติลคลอไรด์  ซึ่งใช้ในการเปลี่ยนมอร์ฟีนเป็นเฮโรอีน  สารคลอซูไดอีเฟครีน  สามารถใช้ในการผลิตยาบ้าได้ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอีก ๑๒ ชนิด  ที่สามารถนำมาผลิตยาอีและยาบ้าได้
                  ๒.๕  ยาเสพติดให้โทษประเภทที่  ๕  เป็นยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าข่ายอยู่ในยาเสพติดประเภทที่ ๑ ถึง ๔  ได้แก่  ทุกส่วนของพืชกัญชา  ทุกส่วนของพืชกระท่อม   เห็ดขี้ควาย เป็นต้น


                ๓.  แบ่งตามการออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท  ซึ่งแบ่งออกเป็น ๔ ประเภท คือ
                    ๓.๑  ยาเสพติดประเภทกดประสาท  ได้แก่   ฝิ่น   มอร์ฟีน   เฮโรอีน   สารระเหย  และยากล่อมประสาท
                    ๓.๒  ยาเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท  ได้แก่  แอมเฟตามีน  กระท่อม และ โคคาอีน
                    ๓.๓  ยาเสพติดประเภทหลอนประสาท  ได้แก่  แอลเอสดี  ดีเอ็มพี  และ เห็ดขี้ควาย
                    ๓.๔  ยาเสพติดประเภทออกฤทธิ์ผสมผสาน    กล่าวคือ  อาจกดกระตุ้น หรือ หลอนประสาทได้พร้อม ๆ กัน  ตัวอย่างเช่น  กัญชา
                ๔.  แบ่งตามองค์การอนามัยโลก  ซึ่งแบ่งออกได้เป็น  ๙  ประเภท คือ
                    ๔.๑  ประเภทฝิ่น  หรือ  มอร์ฟีน   รวมทั้งยาที่มีฤทธิ์คล้ายมอร์ฟีน  ได้แก่ ฝิ่น  มอร์ฟีน  เฮโรอีน   เพทิดีน
                    ๔.๒  ประเภทยาปิทูเรท  รวมทั้งยาที่มีฤทธิ์ทำนองเดียวกัน ได้แก่  เซโคบาร์ปิตาล  อะโมบาร์ปิตาล  พาราลดีไฮด์  เมโปรบาเมท ไดอาซีแพม เป็นต้น
                    ๔.๓  ประเภทแอลกอฮอล  ได้แก่  เหล้า   เบียร์  วิสกี้
                    ๔.๔  ประเภทแอมเฟตามีน  ได้แก่  แอมเฟตามีน  เมทแอมเฟตามีน
                    ๔.๕  ประเภทโคเคน  ได้แก่  โคเคน  ใบโคคา
                    ๔.๖  ประเภทกัญชา  ได้แก่  ใบกัญชา  ยางกัญชา
                    ๔.๗  ประเภทใบกระท่อม
                    ๔.๘  ประเภทหลอนประสาท  ได้แก่ แอลเอสดี  ดีเอ็นที  เมสตาลีน  เมลัดมอนิ่งกลอรี่   ต้นลำโพง  เห็ดเมาบางชนิด
                    ๔.๙  ประเภทอื่น ๆ  นอกเหนือจาก  ๘  ประเภทข้างต้น  ได้แก่  สารระเหยต่าง ๆ  เช่น ทินเนอร์  เบนซิน  น้ำยาล้างเล็บ  ยาแก้ปวด  และบุหรี่


๓. วิธีการเสพยาเสพติด
            กระทำได้หลายวิธี ดังนี้คือ
                    ๓.๑  สอดใต้หนังตา
                    ๓.๒  สูบ
                    ๓.๓  ดม
                    ๓.๔  รับประทานเข้าไป
                    ๓.๕  อมไว้ใต้ลิ้น
                    ๓.๖  ฉีดเข้าเหงือก
                    ๓.๗  ฉีดเข้าเส้นเลือด
                    ๓.๘  ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
                    ๓.๙  เหน็บทางทวารหนัก


๔. ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในประเทศไทย  ได้แก่
                    ๔.๑  ยาบ้า
                    ๔.๒  ยาอี  ยาเลิฟ  หรือ เอ็กซ์ตาซี
                    ๔.๓  ยาเค
                    ๔.๔  โคเคน
                    ๔.๕  เฮโรอีน
                    ๔.๖  กัญชา
                    ๔.๗  สารระเหย
                    ๔.๘  แอลเอสดี
                    ๔.๙  ฝิ่น
                    ๔.๑๐  มอร์ฟีน
                    ๔.๑๑  กระท่อม
                    ๔.๑๒  เห็ดขี้ควาย


๕. สาเหตุของการติดยาเสพติด
            มีหลายประการ ดังนี้คือ
                    ๕.๑  อยากลอง อยากรู้ อยากเห็น อยากสัมผัส ซึ่งเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งของมนุษย์  โดยคิดว่า "ไม่ติด"  แต่เมื่อลองเสพเข้าไปแล้วมักจะติด
                    ๕.๒  ถูกเพื่อนชักชวน  ส่วนใหญ่พบในกลุ่มเยาวชน ทำตามเพื่อน  เพราะต้องการ การยอมรับจากเพื่อนฝูง หรือถูกชักจูงว่าใช้แล้วทำให้สมองปลอดโปร่ง  หรือใช้แล้วทำให้ขยันจึงเหมาะแก่การเรียน และการทำงาน
                    ๕.๓  ถูกหลอกลวง  โดยอาศัยรูปแบบสีสันสวยงาม  ทำให้ผู้รับไม่อาจทราบได้ว่า สิ่งที่ตนได้รับเป็นยาเสพติด
                    ๕.๔  ใช้เพื่อลดความเจ็บปวดทางกาย  อันเนื่องมาจากโรคภัยไข้เจ็บ  จนเกิดการติดยา เพราะใช้เป็นประจำ
                    ๕.๕  เกิดจากความคนอง และขาดสติยั้งคิด ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นยาเสพติด แต่อยากแสดง ความเก่งกล้า อวดเพื่อน จึงชวนกันเสพจนติด
                    ๕.๖  ภาวะสิ่งแวดล้อมรอบตัว เอื้ออำนวยที่จะส่งเสริม  และผลักดันให้หันเข้าหายาเสพติด เช่น  ครอบครัวแตกแยก สมาชิกในครอบครัวขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน ภาวะเศรษฐกิจบีบบังคับให้ทำเพื่อความอยู่รอด  อยากรวยเร็ว หรือพักอาศัยอยู่ ในแหล่งที่มีการเสพและค้ายาเสพติด


๖. โทษ/พิษภัย ของยาเสพติด
            การใช้ยาเสพติด  มีโทษและพิษภัยรอบตัว นอกจากจะส่งผลกระทบในทางไม่ดีโดยตรงต่อตัวผู้เสพแล้ว ทั้งทางร่างกายและจิตใจ  ยังส่งผลกระทบทางอ้อมไปยังครอบครัวผู้เสพ ตลอดจนเศรษฐกิจ  สังคม และประเทศชาติอีกด้วย


๗. วิธีสังเกตุอาการผู้ติดยาเสพติด
              จะสังเกตว่าผู้ใดใช้หรือเสพยาเสพติด  ให้สังเกตจากอาการและการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกาย และจิตใจดังต่อไปนี้
                    ๗.๑  การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย  จะสังเกตได้จาก
                        ๗.๑.๑   สุขภาพร่างกายทรุดโทรม  ซูบผอม  ไม่มีแรง  อ่อนเพลีย
                        ๗.๑.๒  ริมฝีปากเขียวคล้ำ  แห้ง  และแตก
                        ๗.๑.๓  ร่างกายสกปรก  เหงื่อออกมาก  กลิ่นตัวแรงเพราะไม่ชอบอาบน้ำ
                        ๗.๑.๔  ผิวหนังหยาบกร้าน  เป็นแผลพุพอง  อาจมีหนองหรือน้ำเหลือง คล้ายโรคผิวหนัง
                        ๗.๑.๕  มีรอยกรีดด้วยของมีคม  เป็นรอยแผลเป็นปรากฏที่บริเวณแขน  และ/หรือ ท้องแขน
                        ๗.๑.๖  ชอบใส่เสื้อแขนยาว  กางเกงขายาว  และสวมแว่นตาดำเพื่อปิดบังม่านตาที่ ขยาย
                    ๗.๒  การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจ  ความประพฤติและบุคลิกภาพ  สังเกตุได้จาก
                        ๗.๒.๑  เป็นคนเจ้าอารมย์  หงุดหงิดง่าย  เอาแต่ใจตนเอง  ขาดเหตุผล
                        ๗.๒.๒  ขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่
                        ๗.๒.๓  ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
                        ๗.๒.๔  พูดจากร้าวร้าว  แม้แต่บิดามารดา  ครู อาจารย์  ของตนเอง
                        ๗.๒.๕  ชอบแยกตัวอยู่คนเดียว ไม่เข้าหน้าผู้อื่น  ทำตัวลึกลับ
                        ๗.๒.๖  ชอบเข้าห้องน้ำนาน ๆ
                        ๗.๒.๔  ใช้เงินเปลืองผิดปกติ  ทรัพย์สินในบ้านสูญหายบ่อย
                        ๗.๒.๕  พบอุปกรณ์เกี่ยวกับยาเสพติด  เช่น  หลอดฉีดยา  เข็มฉีดยา  กระดาษตะกั่ว
                        ๗.๒.๖  มั่วสุมกับคนที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด
                        ๗.๒.๗  ไม่สนใจความเป็นอยู่ของตนเอง  แต่งกายสกปรก ไม่เรียบร้อย ไม่ค่อยอาบน้ำ
                        ๗.๒.๘  ชอบออกนอกบ้านเสมอ ๆ  และกลับบ้านผิดเวลา
                        ๗.๒.๙  ไม่ชอบทำงาน  เกียจคร้าน  ชอบนอนตื่นสาย
                        ๗.๒.๑๐  มีอาการวิตกกังวล   เศร้าซึม   สีหน้าหมองคล้ำ
                    ๗.๓  การสังเกตุอาการขาดยา  ดังต่อไปนี้
                        ๗.๓.๑  น้ำมูก  น้ำตาไหล หาวบ่อย
                        ๗.๓.๒  กระสับกระส่าย  กระวนกระวาย  หายใจถี่  ปวดท้อง  คลื่นไส้  อาเจียน  เบื่ออาหาร  น้ำหนักลด  อาจมีอุจาระเป็นเลือด
                        ๗.๓.๓  ขนลุก  เหงื่อออกมากผิดปกติ
                        ๗.๓.๔  ปวดเมื่อยตามร่างกาย  ปวดเสียวในกระดูก
                        ๗.๓.๕  ม่านตาขยายโตขึ้น  ตาพร่าไม่สู้แดด
                        ๗.๓.๖  มีอาการสั่น  ชัก  เกร็ง  ไข้ขึ้นสูง  ความดันโลหิตสูง
                       ๗.๓.๗  เป็นตะคริว
                        ๗.๓.๘  นอนไม่หลับ
                        ๗.๓.๙  เพ้อ  คลุ้มคลั่ง  อาละวาด  ควบคุมตนเองไม่ได้

 
๘. การตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย
            การตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย  แบ่งออกเป็น ๒ ขั้นตอน
                     ๘.๑  การตรวจขั้นต้น : ราคาถูก ได้ผลเร็ว มีชุดตรวจสำเร็จรูป  ความแม่นยำในการตรวจปานกลาง  สดวกในการนำไปตรวจนอกสถานที่
                     ๘.๒  การตรวจขั้นยืนยัน : เป็นการตรวจที่ให้ผลแม่นยำ แต่ใช้เวลาตรวจนาน ค่าใช้จ่ายสูง


๙. การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด
            การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด  หมายถึง การดำเนินงานเพื่อแก้ไขสภาพร่างกาย และจิตใจของผู้ติดยาเสพติดให้เลิกจากการเสพ  และสามารถกลับไปดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติ  การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด  แบ่งออกเป็น ๓  ระบบคือ
                    ๙.๑  ระบบสมัครใจ  หมายถึง  ผู้ติดยาเสพติดสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลต่าง ๆ ทั้งของภาครัฐและเอกชน
                    ๙.๒  ระบบต้องโทษ  หมายถึง  ผู้ติดยาเสพติดที่กระทำความผิดและถูกคุมขัง  จะได้รับการบำบัดรักษา ในสถานพยาบาลที่กำหนดได้ตามกฎหมาย  เช่น  ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ  กรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมหรือสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง  กระทรวงยุติธรรม
                    ๙.๓  ระบบบังคับบำบัด  หมายถึง  ผู้ที่ทางราชการตรวจพบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย จะต้องถูกบังคับบำบัดตาม  พ.ร.บ.  ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๓๔  ในสถานพยาบาลที่จัดขึ้นตาม  พ.ร.บ.  ดังกล่าว เป็นระยะเวลา ๖ เดือน และขยายได้จนถึงไม่เกิน  ๓  ปี  ระบบนี้ยังไม่เปิดใช้ในขณะนี้ การบำบัดรักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มี ๔ ขั้นตอน คือ
                    ๙.๑  ขั้นเตรียมการก่อนบำบัดรักษา  (Pre - admission)  เพื่อศึกษาประวัติภูมิหลังของผู้ติดยาเสพติดทั้งจากผู้ขอรับการรักษา และครอบครัว
                    ๙.๒  ขั้นถอนพิษยา  (Detoxification)  เป็นการบำบัดรักษาอาการทางกายที่เกิดจากการใช้ยาเสพติด โดยผู้ขอรับการรักษา  สามารถเลือกใช้บริการแบบผู้ป่วยนอก หรือผู้ป่วยใน ก็ได้ตามสดวก
                    ๙.๓  ขั้นการฟื้นฟูสมรรถภาพ  (Rehabilitation)  เป็นการบำบัดรักษาเพื่อปรับเปลี่ยน  ลักษณะนิสัย  บุคลิกภาพ  พฤติกรรม  เพื่อให้รู้จักตนเอง และมีความเข้มแข็งในจิตใจ เพื่อให้ผู้รับการบำบัดมีความเชื่อมั่นในการกลับไปดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ โดยไม่หวนกลับไปเสพซ้ำอีก
                    ๙.๔  ขั้นติดตามดูแล  (After - case)  เป็นการติดตามดูแลผู้เลิกยาเสพติดที่ได้ผ่านการบำบัดครบทั้ง ๓ ขั้นตอนข้างต้นแล้ว  เพื่อให้คำแนะนำ  แก้ไขปัญหาและให้กำลังใจผู้เลิกยาเสพติด  ให้ดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขในสังคมได้ยิ่งขิ้น

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 923 วันที่ 25 มิ.ย. 2552


***ความรู้เรื่องยาเสพติด***

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

อิ่ม..ไม่อ้วน..ทำได้ไง?

อิ่ม..ไม่อ้วน..ทำได้ไง?


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
ดื่มนมเปรี้ยวไม่ทำให้ผอม

ดื่มนมเปรี้ยวไม่ทำให้ผอม


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
Best Practices ระบบเรียนรู้

Best Practices ระบบเรียนรู้


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
ก็แค่..สิ่งสมมุติ!!

ก็แค่..สิ่งสมมุติ!!


เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผู้หญิง & ผู้ชาย ...

ผู้หญิง & ผู้ชาย ...

เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ฟังเพลงลูกกรุงเก่าหาฟังยาก....รื่นหูสบายใจ..ผ่อนคลายอารมณ์
ฟังเพลงลูกกรุงเก่าหาฟังยาก....รื่นหูสบายใจ..ผ่อนคลายอารมณ์
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

ความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความรู้พื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

หยุด....เพื่อพ่อได้ไหม     พ่อของเราเหนื่อยมามากแล้ว
หยุด....เพื่อพ่อได้ไหม พ่อของเราเหนื่อยมามากแล้ว
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย

แบบทรงผม ผมหน้าม้า ผมสั้น
แบบทรงผม ผมหน้าม้า ผมสั้น
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

อากาศร้อนๆ...บทเพลงเย็นๆ...เพื่อคุณ
อากาศร้อนๆ...บทเพลงเย็นๆ...เพื่อคุณ
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำ 4 ข้อ ก็สุขได้
ทำ 4 ข้อ ก็สุขได้
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
8 ยุทธวิธี ออกจากเงินเดือนที่ไม่พอใช้
เปิดอ่าน 27,005 ครั้ง

ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
ลายมือนักธุรกิจเงินล้าน
เปิดอ่าน 16,336 ครั้ง

ฟังก์ชันของ exponential
ฟังก์ชันของ exponential
เปิดอ่าน 42,376 ครั้ง

ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน
เปิดอ่าน 41,655 ครั้ง

ประเภทของระบบภาพกราฟิก
ประเภทของระบบภาพกราฟิก
เปิดอ่าน 21,190 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ