เกาะแก้วพิสดาร : เกาะสวาท-หาดสวรรค์
๏ พอเห็นเงาเขาขวางอยู่กลางน้ำ |
พิลึกล้ำกว่าคีรีที่ไหนไหน |
จึงถามนางเงือกน้อยกลอยฤทัย |
เกาะอะไรแก้วตาตรงหน้าเรา ๚ |
๏ นางเงือกน้ำบอกสำคัญว่านั่นแล้ว |
คือ เกาะแก้วพิสดาร เป็นชานเขา |
พระฟังนางสร่างโศกค่อยบรรเทา |
จึงว่าเราเห็นรอดไม่วอดวาย ๚ |
ก่อนที่นางเงือกจะพาพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรมาถึง เกาะแก้วพิสดาร นี้ พ่อเงือกและแม่เงือกก็ได้ถูกนางผีเสื้อสำเร็จโทษจับกินไปด้วยความแค้นเรียบร้อยแล้ว นางเงือกจึงมีความโศกเศร้านักอยากจะตายตามพ่อและแม่ไป แต่พระอภัยไม่ยอมให้ตาย
๏ พงศ์กษัตริย์ตรัสห้ามด้วยความรัก |
หวังจะหักอาดูรให้สูญหาย |
โอ้น้องแก้วแววตาจะลาตาย |
แสนเสียดายดังใครล้วงเอาดวงใจ ๚ |
อืมมม์ ... ที่ไม่ยอมให้นางเงือกตายนั้นก็ทั้งห่วงชีวิตและคิดถึงคะนึงหาน่ะครับ
๏ นางมัจฉานารีของพี่เอ๋ย |
เจ้าทรามเชยอยู่ที่นี่หรือที่ไหน |
พี่มาเยือนเพื่อนยากฝากอาไลย |
สายสุดใจจงขึ้นมาหาพี่ชาย ๚ |
๏ ฝ่ายเงือกน้อยสร้อยเศร้าให้เหงาง่วง |
อยู่ในห้วงหุบวลชลสาย |
ได้ฟังคำฉ่ำชื่นค่อยฟื้นกาย |
จึงแหวกว่ายสายสมุทรผุดขึ้นมา ๚ |
นางเงือกเองก็เหลือตัวตนคนเดียว เมื่อยินน้ำเสียงอันอ่อนโยนของพระอภัยก็อุ่นใจนัก ยิ่งพระอภัยรุกเร้าเกี้ยวพาราสี ออดอ้อนอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่รู้ว่าจะแข็งใจไปได้อย่างไร
๏ จะปกป้องครองคู่ไม่รู้ร้าง |
ไม่เว้นว่างวายประโลมโฉมมัจฉา |
ประสายากฝากรักกันสองรา |
แก้วกานดาดวงจิตต์อย่าบิดเบือน ๚ |
๏ นางเงือกน้ำคำนับอัภิวาท |
เชิงฉลาดเหมือนมนุษย์นั้นสุดเหมือน |
จึงตอบคำทำกระบวนแกล้งชวนเชือน |
พระมาเยือนเยี่ยมนี้น้องดีใจ ๚ |
แต่นางเงือกก็อิดเอื้อนทำนองว่าตนเองเป็นมัจฉาอยู่ในน้ำไม่คู่ควร แต่พระอภัยฯ ก็ตามตื้อ
๏ ประเวณีมีทั่วทุกตัวสัตว์ |
ไม่จำกัดห้ามปรามตามวิไสย |
นาคมนุษย์ครุฑาสุราไลย |
สุดแต่ใจปรองดองจะครองกัน ๚ |
๏ เจ้ากับพี่นี้ก็เห็นเป็นกุศล |
จึงหนีพ้นมารมาไม่อาสัญ |
จะเคียงคู่ชูชื่นทุกคืนวัน |
โอ้จอมขวัญไนยนาได้ปรานี ๚ |
๏ พลางอิงแอบแนบน้องประคองเคล้า |
ค่อยต้องเต้าเต่งอุรามารศรี |
พระเชยปรางทางฉะอ้อนอ่อนอินทรีย์ |
ร่วมฤดีเดือนหงายสบายใจ ๚ |
๏ สมพาสเงือกเยือกเย็นเหมือนเล่นน้ำ |
ค่อยเฉื่อยฉ่ำชื่นชมด้วยสมหมาย |
สัมผัสพิงอิงแอบเป็นแยบคาย |
ไม่เคลื่อนคลายคลึงเคล้าเยาวมาลย์ ๚ |
๏ จนดาวเดือนเลื่อนลับพยับฟ้า |
จึงโลมลาลับหลังยังสถาน |
แต่เช้าค่ำไปมาอยู่ช้านาน |
จะประมาณเจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลา ๚ |