ไม้ดอกไม้ประดับ โดย ศาตราจารย์สมเพียร เกษมทรัพย์
นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นต้นมา ประชาชนชาวไทยได้ตื่นตัวและให้ความสนใจในความสวยงามของไม้ดอกไม้ประดับกันมาก ทั้งนี้เพราะรัฐบาลได้จัดให้มีพระราชพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในมหามงคลสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในระหว่างเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ทุกหน่วยงานของกระทรวง ทบวง กรม ตลอดจนห้างร้าน บริษัทเอกชนทั่วประเทศ ได้พร้อมใจกันตกแต่งประดับประดาสถานที่ด้วยไม้ดอกไม้ประดับ พร้อมทั้งตั้งโต๊ะหมู่บูชาสักการะด้วยเครื่องหอม ธูปแพเทียนแพ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ ทำให้วงการไม้ดอกไม้ประดับคึกคัก และก่อให้เกิดรายได้แก่เกษตรกรอย่างมาก
สถานที่ที่ตื่นตาตื่นใจที่สุดน่าจะได้แก่ สวนหลวง ร.๙ สวนสาธารณะแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมูลนิธิสวนหลวง ร.๙ โดยความร่วมมือของกรุงเทพมหานครและประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นราชสักการะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ใน พ.ศ. ๒๕๓๐ มีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั้งไม้ต้น ไม้พุ่ม และไม้เถา รวมทั้งตกแต่งบริเวณสวน ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ ๕๐๐ ไร่ จัดแบ่งเป็น ๖ บริเวณ คือ บริเวณเฉลิมพระเกียรติ สวนพฤกษศาสตร์ ตระพังแก้วเก็บน้ำ สวนรมณีย์ สวนน้ำ และสนามราษฎร์ ในบริเวณสวนรมณีย์มีการปลูกไม้ดอกล้มลุกนานาชนิดจำนวนหลายหมื่นต้นอย่างประณีตบรรจงยิ่ง และใช้วิธีการที่ทำให้ไม้ดอกทุกชนิดจำนวนดังกล่าวนั้นออกดอกพร้อมเพรียงกันทุกต้น ในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ตามที่ได้กำหนดไว้ ที่โดดเด่นและมีความหมายที่สุดคือ สีเหลืองทองของดอกดาวเรือง (เป็นพันธุ์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ส่งเสริม) และเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนอกจากนั้นทุกมุมเมืองของกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณโดยรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และถนนราชดำเนินซึ่งกองสวนสาธารณะ กรุงเทพมหานคร ได้นำต้นดาวเรืองนับแสนกระถางมาวางตกแต่งไว้บนเกาะกลางถนนและรอบๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมทั้งประดับประดาด้วยไฟราวสีต่างๆดูระยิบระยับตระการตายิ่ง
ประชาชนที่ได้มีโอกาสเข้าชมพรรณไม้งามในทุกๆ บริเวณของสวนหลวง ร.๙ ในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ต่อเนื่องถึงเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ต่างก็ยังติดตาตรึงใจในภาพอันงดงามวิจิตรตระการตาของไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิดเหล่านั้น และปรารถนาจะได้พบเห็นภาพอันสวยงามเช่นนั้นตลอดไป หลายๆ คนได้แวะเวียนไปชมมากกว่า ๑ ครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่ได้พบกับความงามดังที่เคยเห็น ทั้งนี้เพราะไม้ดอกดังกล่าว โดยเฉพาะไม้ดอกล้มลุกได้ทยอยกันเหี่ยวแห้ง ร่วงโรย และตายไปในที่สุด คงเหลือไว้เฉพาะไม้เถา ไม้พุ่ม และไม้ใหญ่ยืนต้นหรือไม้ต้น แต่เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ในเวลาต่อมาคณะกรรมการมูลนิธิสวนหลวง ร.๙ ได้ดำเนินการจัดงาน พรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร. ๙ ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกๆ ปีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสชื่นชมความงามของไม้ดอกไม้ประดับได้ยาวนานมากขึ้น
ขอบคุณที่มาจาก สนุกดอทคอม