ข้อเท็จจริงได้ความว่า ...วันหนึ่งเวลากลางวัน จำเลยซึ่งเป็นข้าราชการครูปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงเรียน ได้กระทำชำเราและอนาจารเด็กนักเรียน ผู้เสียหาย (อายุ ๘ ปี) อายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึงเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ของโรงเรียนดังกล่าว และเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแลของจำเลย โดยจำเลยได้ลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้ว แต่การกระทำไม่บรรลุผล เนื่องจากอวัยวะเพศของผู้เสียหายเล็ก และจำเลยสำเร็จความใคร่เสียก่อน อวัยวะเพศของจำเลยจึงไม่สามารถล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายได้
ชั้นพิจารณาของศาล จำเลยให้การปฏิเสธ และระหว่างพิจารณา มารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เสียหาย ยื่นคำร้องของเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗,๒๘๕ ประกอบมาตรา ๘๐ จำคุก ๘ ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษายืน
จำเลยฏีกาขอให้ยกฟ้อง หรือลดโทษ
ศาลฎีกาเห็นว่า... เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่ศาลล่างได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงดังกล่าว และใช้ดุลพินิจในการกำหนดโทษไว้ชอบด้วยเหตุผลแล้ว และไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของศาลล่าง ฏีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระอันควรแก่การพิจารณา ไม่รับคดีไว้พิจารณาพิพากษา มีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ (คำพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๗๙/๒๕๕๒)
เรื่องนี้นำเสนอเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หากยามใดเราพ่ายแพ้ใจตัวเอง ยามนั้นชะตาชีวิตก็จะประสบกับความหายนะ ดังกรณีดังกล่าว ...จะได้ไม่หน้ามืด