ตัวละครฝ่ายหญิงในเรื่องนี้ต่างมีความเฉลียวฉลาดปรากฏให้เห็นเสมอ ดังที่เราเห็นแล้วว่าทั้งนางสุวรรณมาลีและนางละเวงวัณฬาล้วนมีความเชี่ยวชาญในการวางกลศึกอันแยบคาย แต่หากจะพูดถึงตัวละครที่มีปัญญาอย่างโดเด่นในเรื่องนี้ นางวาลี กลายเป็นชื่อแรกที่นักวรรณคดีนึกถึง
นางวาลี เป็นตัวละครที่มีปัญญาอย่างหาตัวจับได้ยาก ทั้งคำพูดและการกระทำของนางต่างสนับสนุนความเฉลียวฉลาดได้เป็นอย่างดี แม้นางจะมีรูปกายที่ไม่น่าพิสมัย จนอายุย่างสามสิบสี่แล้วก็ไม่มีชายใดปรารถนาแต่งงานด้วย แต่เพราะมีเชื้อสายพราหมณ์จึงได้เรียนรู้ศิลปวิทยาการมา นางจึงเชื่อว่าตนจะเป็นสนมเอกของพระอภัยมณีได้ ด้วยเชื่อมั่นในสติปัญญาของตน ดังที่ได้ทูลพระอภัยมณีว่า
นางทูลว่าข้าน้อยนี้รูปชั่ว ก็รู้ตัวมั่นคงไม่สงสัย
แต่แสนงามความรู้อยู่ในใจ เหมือนเพ็ชรไพฑูรย์ฝ้าไม่ราคี
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์อีกหลายตอน อาทิ ตอนที่นางออกอุบายจนทำให้นางสุวรรณมาลีสึกออกมาแต่งงานกับพระอภัยมณีได้ เพราะนางวาลีเข้าใจความรู้สึกนางสุวรรณมาลี จึงบอกให้พระอภัยมณีกำหนดวันอภิเษกไว้ เมื่อข่าวแพร่ออกไป นางสุวรรณมาลีที่ยังบวชอยู่ก็เข้าใจว่าพระอภัยมณีจะอภิเษกกับนางวาลี นางสุวรรณมาลีจึงยอมสึกออกมาในที่สุด การแสดงปัญญาครั้งนี้ทำให้นางวาลีได้รับความยำเกรงจากคนทั่วไป ดังเนื้อความในคำกลอนว่า
ไม่ถึงครู่รู้รอบขอบนิเวศน์ พระทรงเดชชื่นชมสมประสงค์
เห็นวาลีปรีชาปัญญายง ถอดเครื่องทรงสังวาลย์ประทานนาง
นางดีใจได้ประทานสังวาลย์เพ็ชร์ เป็นบำเหน็จหน้าก่ำดั่งน้ำฝาง
ทุกกระทรวงหลวงแม่เจ้าสาวสุรางค์ คิดเกรงนางวาลีด้วยปรีชา
นอกจากนี้ยังมีตอนที่นางวางแผนการรบจนชนะอุศเรน และใช้ปัญญาคารมทำให้อุศเรนต้องอกแตกตาย ( ดังเนื้อความในวรรคทองที่ว่า “จะพลิกพลิ้วชิวหาเป็นอาวุธ ประหารบุตรเจ้าลังกาให้อาสัญ” เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นความฉลาดและรอบรู้ของนางได้อย่างชัดเจน
แม้นางจะมีรูปกายที่ไม่น่าชื่นชมอย่างใครใคร ทว่าปัญญาของนางกลับสุกสว่างงดงามจนชนะใจพระอภัยมณีได้ ความงามในที่นี้เป็นความงามจากภายใน ย่อมไม่แปลกหากจะไม่เห็นความงามนั้นด้วยสายตาธรรมดา ปัญญาของนางวาลีอาจเทียบได้กับรูปทองของพระสังข์ ที่มีเฉพาะสายตาพิเศษของนางรจนาเท่านั้นที่จะมองผ่านความอัปลักษณ์ของรูปเงาะเข้าไปได้
สุนทรภู่ได้แสดงทัศนะทำนองเดียวกันในนิราศเมืองเพชรไว้ว่า “แม้เดี๋ยวนี้มีหญิงไม่ทิ้งผัว ถึงรูปชั่วฉันจะรักให้หนักหนา” สะท้อนให้เห็นผู้หญิงในอุดมคติของสุนทรภู่ว่า ไม่จำเป็นต้องมีรูปสมบัติที่งดงามก็ได้ เพราะความงามที่แท้จริงนั้นคือความดีที่อยู่ในจิตใจต่างหาก
ที่มา nokbindeaw.spaces.live.com