ปัจจุบันเทคโนโลยี่และสภาพสังคมมีความก้าวหน้าไปไกล แต่จิตใจและการกระทำของคนปัจจุบัน ยิ่งก้าวไกลไปกว่าอีก สมัยโบราณคนจะทำความผิดจะต้องแอบลักทำ เพื่อมิให้คนเห็น กลัวบาปกรรม และกฎหมาย แต่คนในปัจจุบันต้องกระทำโดยเปิดเผย เพื่อความโก้เก๋ ไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย ไม่ละอายต่อบาปกรรม และถือว่าเป็นค่านิยมที่ทันสมัยเสียอีก ดังเช่นนักเรียนยกพวกตีกัน จี้ ปล้น และลักทรัพย์กันอย่างอุกอาจ แม้ในเวลากลางวัน
คนโบราณท่านจึงมีคติสอนใจ เพื่อเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตน หากใครทำตามก็จะมีความเจริญ รุ่งเรือง และเป็นมงคลแก่ตนเอง ดังที่พระท่านว่า "ธัมโม หเว รักขติ ธัมมจารี " ธรรมย่อมรักษาผู้ปฏิบัติธรรม เช่น
... ลูกศิษย์สมภาร ลูกหลานเจ้าวัด...
ลูกหลานผู้มีอำนาจห้ามแตะ ส่วนมากที่มีเรื่องกับชาวบ้าน หรือสร้างความวุ่นวายในหมู่บ้านชุมชนมักจะเป็นลูกของผู้มีอำนาจในท้องถิ่นนั้น ๆ เสียส่วนใหญ่
..โคนไม่ถึงทราย ปลายไม่ถึงน้ำ หรือ
เวลากินเหมือนหมาลักสาร เวลาทำงานเหมือหมาเลียน้ำร้อน..
คนทุกวันชอบความสุขสบาย งานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้ อยากรวยแต่ไม่อยากทำงาน อยากมีเงินเดือนสูง แต่ขี้เกียจเรียน สังคมไทย จึงนิยมเล่นหวย เล่นการพนัน เล่นพนันฟุตบอล กันมากเพราะได้เงินมาง่าย ๆ และใช้จ่ายง่ายสบายมือเช่นกัน
..ช่างกลึง พึ่งช่างชัก ช่างสลัก พึ่งช่างเขียน ช่างรู้ พึ่งช่างเรียน ช่างติเตียน ไม่พึ่งใคร..
การทำงานทุกอย่าง จะต้องพึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน จะต้องทำงานเป็นทีม แต่คนไทย ไม่นิยมทำงานเป็นทีม ชอบโชว์เดี่ยว ประเภทข้าฯมาคนเดียว แต่ถ้าทำความชั่วจะรวมทีมกันได้ดี เช่น ทีมดื่มเหล้า ทีมเล่นการพนัน และที่สุดทีมยกพวกตีกัน รวมกันได้ง่ายจริง ๆ เหมือนกับช่างติ ไม่ต้องพึงใคร และก็มีมากเฃ่นกันในสังคมไทย...ไม่รู้จะบ่นให้ใครฟัง .!!!
... แม้จะเป็นคติโบราณ แต่หากนำมาย้อนคิดพินิจให้ดี คำโบราณก็มีคุณค่าเสมอ ...สำคัญอยู่ที่คนสมัยนี้จะเห็นคุณค่าอยู่หรือไม่...เป็นเรื่องน่าคิด