ผู้คนทั่วโลกต่างยกย่อง มิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกาว่า เป็นเฟิร์สต์ เลดี้ยุคใหม่ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เธอคือต้นแบบแห่งความสำเร็จของชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่ "มิเชล" เป็น "มิเชล" อย่างทุกวันนี้ได้ ก็เพราะการเลี้ยงดูฟูมฟักของ "แมเรียน โรบินสัน" มารดาผู้เป็นแบบอย่างของหญิงแกร่งที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ขัน และมีมุมมองชีวิตที่น่าทึ่งไม่มีใครเหมือน
นับเป็นครั้งแรกที่แม่ลูกเฟิร์สต์แฟมิลี่แห่งทำเนียบขาวเปิดบ้านไวท์เฮาส์ให้สัมภาษณ์ถึงความรัก ความผูกพันที่มีต่อกัน ระหว่างที่พูดคุยเห็นได้ชัดถึงความสนิทสนมใกล้ชิดระหว่างแม่ลูกคู่นี้ ทั้งคู่หยอกล้อกันเป็นระยะๆ และผลัดกันบอกเล่าความรู้สึกในช่วงเวลาที่เปี่ยมด้วยความหมายยิ่ง สำหรับผู้หญิงผิวดำทั้งโลก เมื่อผู้หญิงผิวสีอย่าง "มิเชล โอบามา" กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา ทั้งๆที่บรรพบุรุษของเธอเคยเป็นทาสรับใช้คนผิวขาวแถบเซาท์ แคลิฟอร์เนีย มาหลายทศวรรษ
รู้สึกยังไงบ้างคะ ที่ได้เป็นเฟิร์สต์ เลดี้ผิวสีคนแรกของอเมริกา
มิสซิสโอบามา : รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง และรู้สึกได้ถึงเกียรติอันสูงส่งเมื่อก้าวเข้าไปในทำเนียบขาว อย่างน้อยๆก็ทำให้เกิดความรู้สึกถึงภาระหน้าที่ใหญ่หลวงที่รออยู่ข้างหน้า สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือ ทำยังไงก็ได้ให้แน่ใจว่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้คน เป็นภริยาที่ยืนเคียงข้างสนับสนุนการทำงานของสามี "บารัก โอบามา" ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญคือ เป็นแม่ที่ดีของลูกสาวทั้งสอง "ซาช่า" และ "มาเลีย"
จากครอบครัวธรรมดาๆ กลายเป็นครอบครัวเบอร์หนึ่งของประเทศ ต้องปรับตัวเยอะไหมคะ
มิสซิสโอบามา : ก็ไม่ถึงกับลำบากยากเย็นอะไร โชคดีที่ฉันมีคุณแม่คอยช่วย ท่านจะย้ายเข้ามาอยู่ในทำเนียบขาวเพื่อช่วยดูแลหลานทั้งสองคน คุณแม่เป็นเหมือนเชียร์ลีดเดอร์ที่คอยให้กำลังใจลูกๆ นอกจากนี้ ฉันยังมีเพื่อนๆและครอบครัวคอยหนุนหลัง ไม่ว่าจะทำอะไรจึงไม่รู้สึกโดดเดี่ยว
วางแผนไว้หรือยังคะว่า ทำอย่างไรให้เกิดสมดุลระหว่างครอบครัวกับงาน
มิสซิสโอบามา : เรื่องนี้เป็นบทบาทสำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิงยุคใหม่ ผู้หญิงต้องพยายามรักษาบาลานซ์ระหว่างการเลี้ยงลูกให้ดีและทำงานให้มีประสิทธิภาพ แต่บอกตรงๆว่า การทำทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกันเป็นภาระที่หนักอึ้ง ผู้หญิงเราไม่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคนี้ตามลำพัง เราต้องการกำลังใจและแรงสนับสนุนจากครอบครัวรวมถึงผู้คนรอบข้าง โชคดีมากๆที่ฉันมีคุณแม่อยู่เคียงข้าง และยังมีเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวที่พร้อมแบ่งเบาภาระ ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ได้ทำงานเต็มเวลา แต่ก็ทำงานหนักมาก เพราะต้องรับบทเฟิร์สต์ เลดี้ แต่ยังโชคดีที่มีตัวช่วยอยู่เยอะ
คิดไว้หรือยังคะว่า จะใช้บทบาทสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำประโยชน์อะไรเพื่อผู้หญิง
มิสซิสโอบามา : ฉันอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้หญิงอเมริกันให้มีชีวิตพื้นฐานที่ดี ได้รับความรัก ความเข้าใจจากผู้คนรอบข้าง โดยเฉพาะผู้ชายที่อยู่รอบตัว ทั้งพ่อ ลุง หรือสามี เพราะความรักความเข้าใจจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ผู้หญิงมีพละกำลังในการสู้ชีวิตและสร้างสรรค์สิ่งดีๆเพื่อครอบครัว นอกจากเรื่องการดูแลความเป็นอยู่ อาหารการกิน และสุขภาพแล้ว ฉันยังอยากลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้าน สร้างเครือข่ายผู้หญิงในชุมชน ที่จะสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สิ่งที่ฉันอยากจะพูดยังรวมถึงเรื่องค่านิยม และรูปแบบความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชาย ต้องเป็นสัมพันธภาพที่เท่าเทียมกัน ไม่กดขี่ข่มเหงเพศหญิง
ถามคุณแม่บ้างนะคะ เคยคิดไหมว่าลูกสาวจะประสบความสำเร็จขนาดนี้
คุณแม่แมเรียน : บอกตรงๆว่าตื้นตันใจและภูมิใจกับลูกสาวคนนี้มาก สำหรับแม่รู้อยู่แล้วว่า "มิเชล" จะต้องมีอนาคตไกล ต้องขอชมว่า เธอรับบทเฟิร์สต์ เลดี้ได้อย่างสง่างามและทรงเกียรติมาก
คาดหวังว่าลูกสาวจะเป็นเฟิร์สต์ เลดี้แบบไหนคะ
คุณแม่แมเรียน : ก็หวังว่า "มิเชล" จะได้ทำในสิ่งที่เธอปรารถนา เพราะเป้าหมายที่เธอตั้งใจจะทำมีความสำคัญและมีความหมายต่อตัวเธอมาก เป็นการทำเพื่อผู้หญิงผิวสีและผู้หญิงทุกชนชั้นทั่วโลก "มิเชล" ก็คือ "มิเชล" ไม่ว่าจะทำอะไรเธอต้องทำให้สำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อเลยว่าเธอจะสามารถทำทุกอย่างที่แม่คิดว่าจะไหวเหรอ เธอเป็นผู้หญิงที่อะเมซซิ่งจริงๆ
ในฐานะแม่ที่เลี้ยงลูกจนได้ดี มีอะไรฝากบอกถึงคุณแม่ผิวสีในอเมริกา
คุณแม่แมเรียน : พี่น้องของฉันมักจะติดปากเรียกลูกว่า ลิตเติล พีเพิล เพราะไม่ว่าลูกจะโตแค่ไหน พวกเขาก็ยังเป็นเด็กในสายตาเราอยู่ดี สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรปลูกฝังลูกๆก็คือ ความสามารถในการคิดและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ฉันเป็นแม่ประเภทที่ไม่เคยบงการลูกๆ ไม่ว่าจะทำอะไรต้องปล่อยให้พวกเขาตัดสินใจเลือกเอง ตั้งแต่ลูกอายุ 5 ขวบก็รู้จักแยกแยะเหตุผลแล้ว ฉันจะไม่เคยห้ามลูก แต่จะบอกว่าลองคิดดูเองแล้วกัน ตอนที่ลูกชายคนโตตัดสินใจเรื่องบางอย่างไม่ได้ เขาเคยหันมาถามฉันว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่หรอกหรือที่จะบอกลูกๆว่าควรทำอะไร...ฉันหันไปมองหน้าลูกชายแล้วก็ส่ายหัว บอกไปว่า ไม่หรอก ลูกต่างหากที่ต้องตัดสินใจเลือกทางเดินเอง!!
มิสซิสโอบามา : (หัวเราะ) ฉันว่าแม่ทำถูกแล้วล่ะ!! แต่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าลูกๆอย่างพวกเราจะเข้าใจในความหวังดีของพ่อแม่ การมีลูกถือเป็นการลงทุนมหาศาล เราต้องอุทิศตัวเองตั้งแต่วันแรก จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต การเป็นพ่อแม่คนต้องอาศัยพละกำลังทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งพ่อแม่ของฉันเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้
ถ้าคุณพ่อ "เฟรเซอร์" ยังมีชีวิตอยู่ อยากบอกอะไรกับท่านบ้าง
มิสซิสโอบามา : ฉันคิดถึงท่านมาก ท่านเป็นพ่อที่คอยส่งเสริมและให้กำลังใจลูกเสมอ สำหรับฉัน พ่อแม่คือต้นแบบที่ดีที่สุด ท่านทั้งสองปูพื้นฐานเรื่องความมั่นใจในตัวเองให้ลูกๆตั้งแต่ยังเล็ก และไม่ว่าลูกๆประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว พวกเราจะมีพ่อแม่คอยอยู่เคียงข้างเสมอ ความรักความอบอุ่นของพ่อแม่เป็นวัคซีนชั้นดีที่ปกป้องจากภัยรอบตัว ทำให้ลูกรู้สึกปลอดภัย เชื่อมั่นในตัวเอง และกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
คุณแม่นั่งอยู่ตรงนี้แล้ว พูดอะไรซึ้งๆกับท่านหน่อยสิคะ
มิสซิสโอบามา : (หันไปทางแม่) ลูกอยากให้แม่มีความสุขในชีวิตเหมือนที่ลูกกำลังมีความสุขนะคะ บอกตรงๆว่าลูกไม่อยากให้แม่เหนื่อยเกินไป อยากให้แม่พักผ่อนบ้าง และเป็นแม่ของเฟิร์สต์ เลดี้ที่เอ็นจอยกับชีวิตใหม่ในทำเนียบขาว
เป็นตัวเป็นตนมาได้ถึงขนาดนี้ คุณแม่มีอิทธิพลมากแค่ไหน
มิสซิสโอบามา : ไม่ใช่แค่มีอิทธิพล แต่คุณแม่ทำให้ฉันเป็นฉันได้อย่างทุกวันนี้ แม่มักจะถ่อมตัวเสมอว่า แม่ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ลูกประสบความสำเร็จได้ก็เพราะตัวเอง แต่จริงๆแล้วท่านคือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของฉัน สำหรับฉันแล้วแม่เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีอารมณ์ขัน แม่เป็นคนใจกว้าง เปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกคน เป็นผู้หญิงที่กล้าหาญไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใด แม่ไม่เคยเบื่อที่จะตอบคำถามของลูกๆ และแม่มักจะตอบด้วยเซนส์ของคนมีอารมณ์ขัน แม่จะสอนเสมอเลยว่า ทำอะไรต้องทำจริงจัง ทุ่มเทตัวเองให้หนัก แต่ก็ต้องรู้จักหัวเราะให้กับตัวเองและเรื่องร้ายๆที่เจอ เพื่อจะเดินต่อไปข้างหน้าได้
อย่างมั่นใจ
ถึงตรงนี้แล้ว ปลื้มไหมคะกับบทบาทคุณแม่และคุณยายประจำทำเนียบขาว
คุณแม่แมเรียน : ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก...รู้ไหมเพราะอะไร ก็เพราะลูกชายลูกสาวของฉันเป็นพ่อแม่ที่ดี ทำให้ฉันเป็นคุณยายที่ดีได้สบายมาก ไม่ต้องเหนื่อยหรือพยายามมากเกินไป
อยากให้ลูกทุกคนตระหนักไว้ว่า เราเป็นเราอย่างวันนี้ได้ ก็เพราะความรัก ความเสียสละของผู้หญิงสุดประเสริฐที่ขึ้นชื่อว่า "แม่".
ทีมข่าวหน้าสตรี :: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ