เวลา 14.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องจัสเปอร์ 2 โรงแรมริชมอนด์ ย่านรัตนาธิเบศร์ นายไกรสร พร้อมด้วย ญาติของพุ่มพวง ดวงจันทร์ อาทิ ไก่-จันทร์จวง ดวงจันทร์, โอ่ง-สลักจิตร ดวงจันทร์ และเแม่เล็ก จิตรหาญ มารดาของราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เปิดแถลงข่าวถึงกรณีความขัดแย้งกับพระลูกเพชร โดยเปิดวิดีโอ วันที่ 13 มิ.ย. วันที่เกิดปัญหาขึ้นที่วัดทับกระดาน ให้สื่อมวลชนดู
จากนั้นไก่-สลักจิต กล่าวว่า ขอเป็นตัวแทนในการเปิดใจ ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความเมตตา ที่เปิดโอกาสให้เราได้พูด จริงๆ แล้วทั้งตน ตัวคุณแม่ และทางโอ่ง ไม่มีใครคัดค้านพระในการสร้างหุ่น เพียงแต่ว่าวันที่ 13 มิ.ย. วันเกิดเรื่อง เราถือโอกาสจะไปคุย เพราะตอนนี้แฟนๆ ถามมากันเยอะมาก จึงอยากจะได้รายละเอียดตอบแฟนๆ เช่นทุนที่ใช้ในการสร้างเท่าไหร่ ระยะเวลาสร้างนานแค่ไหน รวมถึงสถานที่ที่จะไว้หุ่น และใครจะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้ และความจริงหุ่นก็มีเยอะอยู่แล้ว ตั้ง 6 ตัว ไม่ว่าจะเป็นหุ่นที่ คุณใหม่ เจริญปุระ สร้าง หรือหุ่นที่ คุณยุ้ย ญาติเยอะ สร้างให้ และเรายังมีหุ่นอีก 2 ตัวที่อยู่บ้านแม่ เป็นหุ่นที่บริษัทท็อปไลน์และบริษัทเจเอสแอลเป็นผู้สร้าง ไม่ได้มีการเรี่ยไรเลย จึงอยากทราบจุดประสงค์ในการสร้างหุ่นตัวนี้ด้วย
ต่อข้อถามว่าการสร้างหุ่นครั้งนี้มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่า ทำให้ทางครอบครัวจิตรหาญออกมาคัดค้าน ไก่เผยความรู้สึกว่า ตอบให้ชัดเจนเลยว่า ตลอดระยะเวลา 17-18 ปีที่พี่ผึ้งเสียไป ทุกคนเข้าใจว่า งานทุกอย่างที่ทุกคนช่วยเหลือหรือจัดขึ้น เพื่อรำลึกถึงพี่ผึ้ง ไม่ว่าจะเป็นงานหนัง งานละคร หนังสือชีวประวัติทุกเล่ม ที่รวมเล่มขายทางพวกตนไม่เคยมีส่วนได้รับประโยชน์เลย แม้แต่หุ่น 6 ตัวที่สร้างขึ้นมา ก็ไม่ได้รับผลประโยชน์จากตรงนี้
“ทุกวันนี้กล้าพูดได้เลยว่า สิ่งที่พี่ผึ้งให้กับไก่คือ นามสกุลดวงจันทร์ ที่สามารถใช้ร้องเพลงหาเลี้ยงตัวเองและคุณแม่ได้ ทุกวันนี้ยืนหยัดได้เพราะตัวพี่ผึ้ง ในส่วนเรื่องผลประโยชน์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ตให้กับพี่ผึ้ง การจัดงานต่างๆ ให้พี่ผึ้ง นอกจากเจ้าภาพที่จะให้กับคุณแม่เอง พวกเราก็ไม่มีใครได้รับผลประโยชน์จากพุ่มพวงเลย ผลประโยชน์ที่เราได้รับคือ คนรักพุ่มพวง ดวงจันทร์”
ด้าน ไกรสร กล่าวว่า ตลอดเวลา 18 ปี ตนเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด ทั้งเรื่องเทปลับและไม่ลับอะไรที่ได้ฟังกัน ทั้งที่เคยเปิดมาแล้วเมื่อ 17 ปีก่อน ความเจ็บช้ำที่ตนได้รับไม่มีใครรู้สึกได้เท่าตน ตนเลี้ยงลูกมา 18 ปี ด้วยความทะนุถนอมด้วยความรัก ก็ไม่ได้อยากให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
“เมื่อก่อนผมยอมรับว่าผมผิด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมก็ยอมรับไปหมดแล้ว และผมก็ได้เข้าไปกราบขอโทษแม่เล็ก ก็คือคุณแม่ของผึ้ง ขอโทษน้องๆ ญาติๆ ของทางพุ่มพวง แต่ไม่มีใครทราบเรื่องนี้ และที่มาครั้งนี้ ผมอยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่า เมื่อ 17 ปีก่อน ลูกเองก็ไม่เคยรู้ในสิ่งที่ผมเจ็บปวดมาก่อน ผมรักพุ่มพวงมาก ลูกเป็นคนเดียวที่เรามี สิ่งเดียวที่ผมสูญเสีย ณ วันนั้นคือพุ่มพวงจากไป และตอนนี้ ผมได้สูญเสียลูกไปอีกคน ก็ไม่รู้ว่าลูกจะจำผมว่าเป็นพ่อได้เมื่อไหร่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่พูดน้ำเสียงของไกรสสั่นเครือ และหลั่งน้ำตาออกมา จากนั้นก็กล่าวทั้งน้ำตาแล้วหันไปทางไก่-จันทร์จวง จิ๋ม-ดวงใจ โอ่ง-สลักจิต “ผมเองต้องขอโทษน้องๆ ทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน”
จากนั้นไกรสรก็เดินลงเวทีทั้งน้ำตา มุ่งมาหาแม่เล็กที่อยู่ด้านล่าง ข้างเวที พร้อมกราบลงที่ตัก และกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและปล่อยโฮว่า “ผมขอโทษนะแม่ ที่ทำให้แม่เดือดร้อนมาโดยตลอด” และไกรสรก็เดินมากราบพ่อและแม่ตัวเองและพูดประโยคเดียวกันว่า “ผมขอโทษทั้งแม่แล็กและแม่ของผมมานานแล้ว”
เมื่อตั้งสติได้ก็ขึ้นเวที โดยมีแม่เล็กขึ้นไปด้วย ไกรสรก็พูดต่อว่า “ผมน่ะอยากขอโทษแม่มานานแล้ว และอยากให้ทุกคนรู้ว่า ครอบครัวเราไม่ได้มีปัญหาอะไรมานานแล้วเช่นกัน คนเราทำผิด ยอมรับผิด และสารภาพทุกอย่าง สังคมก็ให้อภัย ถ้าพระเพชรได้เห็นภาพนี้ อยากให้สำนึก ว่าทำกับพ่อ น้าๆ และยายไว้ขนาดไหน แต่ถ้าพระเพชรกลับใจ ทุกคนก็ให้อภัย เพราะนี่คือครอบครัว เพชรคือลูกคนเดียวของคุณแม่พุ่มพวง ที่พวกเราทำอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้ลูกกลับมา ยายเขาก็มีหลานหลายคน แต่ถามว่าทำไมถึงได้มาอะไรกับเพชรมาก ก็เพราะเพชรน่ะเป็นลูกแม่ผึ้ง ถ้าลูกเห็นภาพนี้แล้ว คิดให้มากๆ ทุกคนรอการกลับมาของลูก” พูดจบไกรสร ก็ปล่อยโฮอีกครั้ง