ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

>>>สามัญสำนึก...โดย หมัดเหล็ก..ถึงเวลาที่รัฐฯต้องพูดเรื่องจริง???


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,407 ครั้ง
>>>สามัญสำนึก...โดย หมัดเหล็ก..ถึงเวลาที่รัฐฯต้องพูดเรื่องจริง???

Advertisement

สามัญสำนึกถึงเวลาพูดเรื่องจริงกันหรือยัง???????????

 

ผลสำรวจพบว่า  คนส่วนใหญ่ วิตกกังวลกับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 กันมาก รัฐบาลของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมีความคิดเห็นอย่างไรก็แล้วแต่ ควรจะเอาเรื่องจริงไปบอกให้ ประชาชนได้รับรู้ทั้งหมด ไม่ควรจะไปกั๊ก เพราะพูดความจริงครึ่งเดียว

ไข้หวัดเลยบานทะโรค



คงจะจำกันได้ มีนักเรียนไทยเดินทางกลับมาจากเม็กซิโก รัฐบาลรีบออกมาแถลงว่าไม่พบผู้ป่วย พอเกิดมีผู้ป่วยก็บอกว่า หายแล้ว พอเจอผู้ป่วยติดจากคนไปสู่คนก็อ้างว่า ควบคุมได้ติดต่อในวงแคบ พอเชื้อโรคขยายการแพร่ระบาดออกไปมากขึ้นก็บอกว่า ไม่มีอันตรายถึงเสียชีวิต ตายน้อยกว่าไข้หวัดทั่วไป

ไปน้ำขุ่นๆ

ชาวบ้านเลยไม่ระวัง แต่พอมีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็วตกใจกันใหญ่ ซึ่งจะว่าโรคนี้ไม่อันตรายเสียเลยทีเดียวก็ไม่ได้ โดยธรรมชาติด้วยตัวเชื้อโรคนี้ อาจจะไม่มีอันตรายร้ายแรงก็จริงอยู่ แต่ถ้าไปผสมกับหวัดชนิดอื่น ก็จะทำให้เชื้อรุนแรงขึ้นมาทันที เช่น ไข้หวัดนก เป็นต้น อันเนื่องจากโรคนี้ขยายตัวได้อย่างรวดเร็วและติดเชื้อได้ง่าย ทั้งยังเป็น
โรคหวัดชนิดใหม่ที่ยังขาดทักษะในการป้องกันรักษา

โรคไข้หวัดใหญ่  2009  กำลังดังในบ้านเรา  ขณะที่อื่นเกือบจะ ควบคุมได้หมดแล้ว ตอนนี้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นรายวัน ที่สำคัญคือการพบการแพร่ระบาดในเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยาหรือภูเก็ต

รัฐบาลตะแบงว่าไม่กระทบอยู่นั่นแหละ

เหมือนกับการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ยังไม่ทันไรรีบออกมาแถลง สถานการณ์ดีขึ้น เดินมาถูกทาง พอไฟใต้เดือดปุดๆเท่านั้นแยกวงซะแล้ว ทั้ง ครม.แก้ปัญหาภาคใต้ คณะกรรมการสารพัด กองทัพ กอ.รมน.ที่เคยคึกคัก  ตอนนี้วงแตกไปคนละทาง  เห็นว่าสัปดาห์นี้จะปล่อยให้  ส.ส.ในพื้นที่คุยกันเองไปฉิบ

วันนี้รัฐบาลถูกตั้งคำถามมากมาย ทั้งความเป็นนิติรัฐ สอง มาตรฐาน วิสัยทัศน์ ทุจริตคอรัปชัน ต่างตอบแทนนโยบายต่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ส่วนการเมืองไม่ต้องพูดถึงเห็นอยู่ทนโท่

การละเลยที่จะพูดความจริง กลายเป็นการสะสมปัญหา  ดินพอกหางหมู นักการเมืองที่เข้ามารับตำแหน่งดันมือใหม่หัดขับ ซะอีก เลยไปกันใหญ่

ว่ากันว่าที่นายกฯอภิสิทธิ์ ต้องรีบเดินทางไปเยือนจีนสิ้นเดือนนี้ เพราะจีนมีอาการเคืองที่ถูกมองข้ามหัวมาตลอด แทงกั๊กเราหมดทุกเรื่องทั้งพืชผลการเกษตร การท่องเที่ยว จนสุดท้าย รมต.อดีตเขยซีพีต้องไปช่วยเจรจา มีอย่างที่ไหนไปญี่ปุ่นไปยุโรปอังกฤษสารพัด จะว่าตามธรรมเนียมก็ไม่ใช่ การไปเยือนกัมพูชาพร้อมกับวัตถุโบราณหนนี้ เกิดคำถามตามมาว่า ทวงปราสาทพระวิหารด้วยหรือเปล่า หรือว่าความจำสั้น.

หมัดเหล็ก

  ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 52 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ 2009 จากระดับ 5 เป็นระดับ 6 หรือระดับสูงสุดแล้ว เนื่องจากเริ่มต้นแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว อีกทั้งยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยุโรป อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปีที่มีการประกาศเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ระบาดกว้างขวางทั่วโลก

        นอกจากนี้องค์การอนามัยยังประกาศให้เรียกชื่อโรคนี้อย่างเป็นทางการว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดA H1N1 แทนการเรียกว่า ไข้หวัดหมู

        เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้านี้สหรัฐ เรียกไข้หวัดสายพันธุ์ดังกล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 H1N1 เพื่อแก้ความเข้าใจผิดที่ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เกิดจากหมู

 h1n1_flu_

รู้จักกับไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ของโลก

         ดร.แนนซี่ ค็อกซ์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยไข้หวัดใหญ่ ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐ กล่าวว่า ไวรัสไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ชนิด A H1N1 นี้ มีลักษณะพันธุกรรมหรือยีน ที่ประกอบด้วยเชื้อไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์รวมอยู่ด้วยกัน ได้แก่ เชื้อไข้หวัดใหญ่ในมนุษย์ เชื้อไข้หวัดนกที่พบในทวีปอเมริกาเหนือ และ เชื้อไข้หวัดหมูที่พบบ่อยในทวีปยุโรปและเอเชีย

          โดยสันนิษฐานเบื้องต้นว่า เชื้อไข้หวัดพันธุ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม หรือ Antigenetic Shift โดยมีหมูที่เป็นพาหะนำโรค โดยการถูกเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ไข้หวัดหมู และไข้หวัดใหญ่ เข้าไปอยู่ในตัว ต่อมาเซลล์ในตัวหมูถูกไวรัสตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปโจมตี ทำให้หน่วยพันธุกรรมไวรัสดังกล่าวผสมปนเปกันระหว่างการแบ่งตัว กลายเป็นเชื้อพันธุ์ใหม่ขึ้นมา

           ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า นายเอเดรียน กิบส์ ผู้มีส่วนร่วมในการวิจัยพัฒนายาต้านไวรัส ทามิฟลู ของบริษัทโรช และเป็นผู้ศึกษาวิวัฒนาการของเชื้อโรคมาเป็นเวลานานถึง 40 ปี เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์รายแรกๆที่วิเคราะห์ส่วนประกอบทางด้านพันธุกรรมเปิดเผยว่า เขาตั้งใจที่จะตีพิมพ์รายงานที่มีข้อมูลบ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ จากไข่ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เพาะไวรัสและบริษัทยาได้นำไปใช้เพื่อผลิตวัคซีนก็เป็นได้

          โดยนายกิบส์กล่าวว่า การชี้เบาะแสของต้นตอไวรัสอาจจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำความเข้าใจไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องของการแพร่เชื้อและสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ซึ่งขณะนี้องค์การอนามัยโลกอยู่ในระหว่างการพิจารณารายงานฉบับนี้

 

pig-flu3

หมูไม่เกี่ยว

          น.พ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผอ.สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดใหม่นี้ว่า  แม้จะมีเชื้อตั้งต้นมาจากหมู แต่ระยะแพร่ระบาดคือ ติดต่อจากคนสู่คน ดังนั้นการบริโภคผลิตภัณฑ์จากหมูไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

          ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับ “ไข้หวัดนก” ที่เคยแพร่ระบาดในอดีต ซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อจากสัตว์ปีกสู่คนได้นั้น จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ผู้ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ มีอัตราเสียชีวิตร้อยละ 5-7 ซึ่งถือว่ายังน้อยกว่าอัตราของผู้เสียชีวิตของผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก

 

3471986083_2ec67af51e

 อันตรายของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009

1.ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสตัวนี้

2.เป็นไวรัสที่ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็ว

3.ผู้ที่มีภูมิต้านทานอ่อนแอได้แก่ เด็ก คนชรา และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคภูมิแพ้ เป็นต้น มีโอกาสที่จะป่วยหนักและอาจจะเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

4.เมื่อเกิดการระบาดอย่างกว้างขว้างในประเทศ นอกจากจะมีผลกระทบทางเศรษฐกิจในเรื่องการท่องเที่ยวแล้ว ยังมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเฉพาะสถานที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก เช่น โรงเรียน โรงงาน โรงภาพยนตร์ ศูนย์การค้า เป็นต้น ข้อควรระวังเด็กเล็กที่มีผู้ปกครองอาจได้รับทราบอาการป่วยช้า เนื่องจากเด็กไม่ได้บอกให้ทราบ

- ปัจจุบันมีเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่จำนวนมากในโลกและมีวัคซีนที่สามารถฉีดยาป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยแต่ละปีวัคซีนที่นำมาใช้เป็นไปตามเชื้อไวรัสที่น่าจะมีผลกระทบมากในปีนั้นๆ

- สำหรับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นไวรัสใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเกิด ซึ่งยังไม่มีวัคซีนป้องกัน

- ที่ผ่านมาผู้ที่ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จะมีความรุนแรงต่อร่างกายน้อย น.พ. Belinda Ostrowsky จากศูนย์การแพทย์ Montefiore นิวยอร์ค กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดชนิดนี้ เพียงเล็กน้อยในสหรัฐฯ หากเทียบกับยอดผู้เสียชีวิตด้วยไข้หวัดตามฤดูกาลประมาณ 2,000 คน จากทุกปี

- อาการของผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จะมีอาการใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามปกติ โดยถ้าผู้ป่วยมีร่างกายที่แข็งแรงจะทุเลาภายใน 5-7 วัน ภายหลังจากรับประทานยาตามอาการ แต่ถ้าผู้ป่วยมีภูมิต้านทานอ่อนแอ จะมีผลกระทบต่อร่างกายมากกว่าคนธรรมดาโดยเฉพาะถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันเวลา ดังนั้นดีที่สุดผู้ป่วยควรไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ(เมื่อรู้สึกเป็นไข้ภายใน 2 วัน) เมื่อแพทย์ตรวจสอบแล้วพบว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จะได้รับประทานยาที่ใช้รักษาโรคโดยตรงคือ ยาทามิฟูล หรือ ซานามิเวียร์ จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

หวัด2009

 อาการ 

        ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ขึ้นสูง ติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ไอ คลื่นไส้อาเจียน ปวดเมื่อยตามร่างกายรุนแรง ท้องร่วง และปวดศีรษะรุนแรง อาการป่วยจะพัฒนารวดเร็วและจะมีอาการหายใจลำบากอย่างรุนแรงภายใน 5 วัน ทั้งนี้อาจจะพบว่าผู้ที่รับเชื้อจะแสดงอาการไม่รุนแรง

          ในกรณีที่ผู้ติดเชื้อมีสุขภาพแข็งแรงและอาการไม่รุนแรง สามารถรักษาหายได้ด้วยภูมิต้านทานของร่างกาย ทั้งนี้หากเป็นผู้สูงอายุหรือเด็กจะมีความเสี่ยงมากกว่า ส่วนในกรณีที่มีอาการรุนแรง เกิดจากมีการอักเสบที่ปอด จนถึงขั้นเสียชีวิตได้


การติดต่อ

 การแพร่ติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคน คือ

1. แพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอ หรือจามรดกัน โดยที่เชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย           

2. ติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา หากนำมือที่มีเชื้อไปสัมผัสร่างกาย เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา

การป้องกัน

1.ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิด เพื่อป้องกันเวลาจาม

2.หมั่นล้างมือ

3.หากมีอาการ ไข้อย่างรุนแรง และไข้ไม่ลดภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด

4. หลีกเลี่ยงชุมชนแอดอัด และงดเดินทางไปในประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ

5. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ

 

tamiful

การรักษา


          ในเอกสารเรื่องการแพร่ระบาดของไข้หวัดชนิดนี้ ที่กงสุลใหญ่ ในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐ แสดงข้อมูลที่ระบุว่า สามารถใช้ยาชนิดเดียวกับยาไข้หวัดใหญ่ทั่วไปในการรักษาไข้หวัดชนิดเอ H1N1 ได้ คือ ยาโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) หรือ ทามิฟลู (Tamiflu) และยา zanamivir ซึ่งเป็นยาชนิดพ่น แต่ทั้งนี้ยาดังกล่าว ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้

         ทั้งนี้มีรายงานระบุว่าในสหรัฐอเมริกา ผลการตรวจเชื้อไวรัสชนิดนี้พบว่าเชื้อดังกล่าวดื้อยาต้านไวรัส amantadine และ rimantadine

          อย่างไรก็ตาม WHO ออกมายอมรับว่ายาทามิฟลูที่มีอยู่ในขณะนี้อาจไม่เพียงพอต่อการับมือกับการแพร่ระบาดที่อาจเพิ่มมากขึ้น

 

สถานการณ์แพร่ระบาด

          วันที่ 12 มิ.ย. 52 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศยกระดับการเตือนภัยไข้หวัดใหญ่ 2009 จากระดับ 5 เป็นระดับ 6 หรือระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งหมายถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว อีกทั้งยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ ยุโรป อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

        นอกจากนั้น WHO ได้แนะนำให้บริษัทเวชภัณฑ์ที่ผลิตวัคซีนต่างๆ เร่งผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลให้เสร็จสิ้น ซึ่งจะเสร็จสิ้นภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ก่อนหันไปผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งคาดว่าจะออกสู่ท้องตลาดอย่างเร็วที่สุดเดือนกย.ปีนี้ และ WHO จะเริ่มแจกยาต่อต้านไวรัส ทามิฟลูให้ประเทศต่างๆ อีก 5.65 ล้านชุด เพิ่มเติมจากที่แจกไปแล้ว 5 ล้านชุด

 

 map-h1n1 

สถานการณ์ในประเทศไทย

          ซึ่ง วันที่ 1 พ.ค. 52 นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่าที่ประชุมศูนย์บัญชาการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ ให้สรุปใช้ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ 2009H1N1 และมีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009  เพื่อให้ง่ายแก่การสื่อสารและสร้างความเข้าใจแก่สาธารณะ

มาตรการเฝ้าระวัง

          สธ.ใช้มาตรการแซนด์วิช คือมาตรการเฝ้าระวังโรคในกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนที่ด่านตรวจโรคประจำสนามบิน เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ ได้เพิ่มกำลังแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ประจำการจากวันละ 60 คน เป็นวันละเกือบ 100 คน ตลอด 24 ชั่วโมง และให้มีระบบการเชื่อมโยงส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยในรายที่มีไข้และเดินทางกลับจากต่างประเทศให้พื้นที่ต่างๆ ได้ติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตามด่านพรมแดนต่างๆ และการค้นหาผู้ป่วยในหมู่บ้านชุมชน และที่โรงพยาบาล คลินิก โรงพยาบาลเอกชน อย่างเข้มแข็ง เพื่อค้นหาผู้ป่วยให้พบอย่างรวดเร็ว ให้การดูแลรักษาและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อให้อยู่ในวงจำกัด

ยาต้านไวรัส

          กระทรวงสาธารณะสุขได้มอบหมายให้องค์การเภสชักรรม(อภ.) เจรจากับบริษัทยาในประเทศอินเดียซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบการการผลิตยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ให้ยังคงราคาเดิมเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากขณะนี้เกิดการระบาดทำให้หลายประเทศสั่งซื้อจำนวนมาก จนราคาวัตถุดิบปรับสูงขึ้น มาตรการด้านสำรองนั้น

          เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ไวต่อยาโอเซลทามิเวียร์และยาซานามิเวียร์ เพราะยาทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นยาปฏิชีวนะกลุ่มเดียวกันที่ยับยั้งไม่ให้ไวรัสแตกตัว โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อต้องรับยาติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน วันละ 2 ครั้ง และต้องรับยาภายใน 48 ชั่วโมง เมื่อมีอาการ จึงจะได้ผลเต็มประสิทธิภาพ เพียงแต่ยาโอเซลทามิเวียร์เป็นยากินชนิดเม็ด ส่วนยาซานามิเวียร์เป็นยาพ่น

ไข้หวัดใหญ่2009

 กระทรวงสาธารณสุขปรับมาตรการในการป้องกันโรค

           มุ่งเน้นการให้ความรู้ประชาชนให้รู้จักการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี คือ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ซึ่งมีอาการป่วยเล็กน้อย ให้หยุดพักเพื่อรักษาตัวที่บ้าน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น โดยใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ โดยเฉพาะหลังไอ จาม และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่น แต่หากอาการรุนแรงขึ้น เช่น มีไข้สูง หรือไอมาก หรือหายใจลำบาก ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล

 

สธ.ออกประกาศฉบับ 7 แนะประชาชนรับมือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่

          วันที่ 13 มิ.ย. 52 ได้ออกคำแนะนำกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 7 เพื่อการป้องกันโรคสำหรับกลุ่มต่างๆ ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และข้อมูลวิชาการที่ทันสมัย ในคำแนะนำดังกล่าว สำหรับประชาชนทั่วไปเน้นการป้องกันตนเอง ไม่ให้ป่วย และการป้องกันการแพร่เชื้อจากผู้ป่วย สำหรับสถานศึกษา สถานประกอบการ และสถานที่ทำงาน เน้นการให้นักเรียนหรือพนักงานที่มีอาการป่วยหยุดเรียนหรือหยุดงาน เพื่อไม่ให้จำเป็นต้องปิดสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ โดยสามารถ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.moph.go.th

          ทั้งนี้หากประชาชนต้องการข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข www.moph.go.th และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค  หมายเลขโทรศัพท์ 02 -590-3333  และที่ศูนย์บริการข้อมูลฮอตไลน์ กระทรวงสาธารณสุข หมายเลข 02-590-1994ตลอด 24 ชั่วโมง

ศิริราชถอดรหัสพันธุกรรมไวรัส ได้

          โรงพยาบาลศิริราช แถลงผลสำเร็จการถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ครั้งแรกของไทย ซึ่งจะนำไปสู่การวินิจฉัยโรคที่เร็วขึ้นและนำไปสู่การพัฒนาวัคซีนและยาต้านไวรัสสายพันธุ์ H1N1 ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต

          ทั้งนี้เป็นความสำเร็จจากการตรวจและศึกษาการระบาดของไข้หวัดใหญ่มานานกว่า 30 ปี ซึ่งการตรวจหาเชื้อ H1N1 นั้นโรงพยาบาลศิริราชสามารถตรวจหาได้ภายใน 24 ชั่วโมงและสามารถวิเคราะห์ลำดับนิวคลิโอไทด์เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของเชื้อได้ภายใน 3 วัน

          อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการวิจัยดังกล่าว จะสามรถต่อยอดไปถึงขั้นการผลิตวัคซีนป้องกันได้ แต่คงไม่ทันต่อผลิตวัคซีน เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดสายพันธุ์ที่กำลังทีระบาดอยู่ขณะนี้

รพ.รามาพัฒนาชุดตวจเชื้อ all-in-one

         วันที่ 15 พ.ค. โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยผลสำเร็จ ในการพัฒนา “ชุดตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่”แบบออล-อิน-วัน ซึ่งสามารถตรวจเชื้อไข้หวัดทุกสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ในปัจจุบันได้พร้อมกันในครั้งเดียว โดยรู้ผลภายใน 4 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไข้หวัดนก(เอช5เอ็น1) ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 (เอช1เอ็น1) รวมถึงเชื้อไวรัสที่ดื้อยา

แพทย์เตือนอย่ากินยาลดไข้ก่อนลงเครื่อง 

นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเตือนกลุ่มผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศว่า ไม่ควรกินยาลดไข้ก่อนลงเครื่อง ซึ่งหลายคนกลัวหากมีไข้ จะถูกกักตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะหากป่วยจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จริง จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต หากไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ ทั้งยังจะแพร่เชื้อให้คนรอบข้างได้ แต่หากได้รับการรักษาทันเวลา ก็จะหายขาด

ไข้หวัด 2009

***สถานการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 52 กระทรวงสาธารณสุขของไทย ยืนยันผลตรวจผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 44 ราย ทำให้ขณะนี้ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่แล้วรวม 150 ราย

 

วันที่

รายที่

จำนวน

เพศ/อายุ

ข้อมูล

หมายเหตุ

12 พ.ค.

1,2

2

-

เดินทางกลับจากประเทศเม็กซิโก


>>>สามัญสำนึก...โดย หมัดเหล็ก..ถึงเวลาที่รัฐฯต้องพูดเรื่องจริง???>>>สามัญสำนึก...โดยหมัดเหล็ก..ถึงเวลาที่รัฐฯต้องพูดเรื่องจริง???

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เข้าประชุมแบบมือโปร

เข้าประชุมแบบมือโปร


เปิดอ่าน 6,432 ครั้ง
ธรรมชาติ..ยามเช้า

ธรรมชาติ..ยามเช้า


เปิดอ่าน 6,465 ครั้ง
Romance

Romance


เปิดอ่าน 6,445 ครั้ง
ของว่าง.......ไม่กลัวอ้วน

ของว่าง.......ไม่กลัวอ้วน


เปิดอ่าน 6,413 ครั้ง
สมุนไพรไทย....มีประโยชน์นะ

สมุนไพรไทย....มีประโยชน์นะ


เปิดอ่าน 6,437 ครั้ง
ทำนายลายมือ.....เส้นชีวิต

ทำนายลายมือ.....เส้นชีวิต


เปิดอ่าน 7,399 ครั้ง
โรคเส้นเลือดขอด

โรคเส้นเลือดขอด


เปิดอ่าน 6,446 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

รู้แล้วน่า ..ไว้เจอกัน ...ง่ายเหมือนปอกกล้วย

รู้แล้วน่า ..ไว้เจอกัน ...ง่ายเหมือนปอกกล้วย

เปิดอ่าน 6,457 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เด็ก...มีเครา..
เด็ก...มีเครา..
เปิดอ่าน 6,457 ☕ คลิกอ่านเลย

น้ำมะพร้าว... ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
น้ำมะพร้าว... ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
เปิดอ่าน 6,452 ☕ คลิกอ่านเลย

ขายเมียละเหี่ยใจ
ขายเมียละเหี่ยใจ
เปิดอ่าน 6,458 ☕ คลิกอ่านเลย

???.ด้วยความรัก..หวังดี?จาก..ผู้หญิง..ผู้หญิง??..
???.ด้วยความรัก..หวังดี?จาก..ผู้หญิง..ผู้หญิง??..
เปิดอ่าน 6,429 ☕ คลิกอ่านเลย

..เพลง อิ่มอุ่น.
..เพลง อิ่มอุ่น.
เปิดอ่าน 6,435 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะนำ.....โต๊ะทำงานรุ่นใหม่ ....น่าติดตั้งทุกออฟฟิศ
แนะนำ.....โต๊ะทำงานรุ่นใหม่ ....น่าติดตั้งทุกออฟฟิศ
เปิดอ่าน 6,435 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กุ้งเดินขบวนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
กุ้งเดินขบวนมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
เปิดอ่าน 23,358 ครั้ง

ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
ตัวอย่างภาพถ่าย จากกล้องของ iPhone 5
เปิดอ่าน 13,988 ครั้ง

ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.
ชวนดู ฝนดาวตกสิงโต หรือฝนดาวตกลีโอนิดส์ 17-18 พ.ย.
เปิดอ่าน 12,116 ครั้ง

บุตรี เผือดผ่อง
บุตรี เผือดผ่อง
เปิดอ่าน 13,469 ครั้ง

รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
เปิดอ่าน 7,677 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ