ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

..ขอสดุดี"สุนทรภู่."ผู้โยงใย .....ความรู้เก่า-ความรู้ใหม่.


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,149 ครั้ง
Advertisement

..ขอสดุดี"สุนทรภู่."ผู้โยงใย .....ความรู้เก่า-ความรู้ใหม่.

Advertisement

สุนทรภู่ "ความรู้ใหม่" โยงใย "ความรู้เก่า"ดูภาพขนาดใหญ่

ดูภาพขนาดใหญ่สุนทรภู่ "ความรู้ใหม่" โยงใย "ความรู้เก่า" ในยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงด้านความรู้

ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์
(คัดจากนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 25 ฉบับที่ 10)

สุนทรภู่มีชีวิตในยุคสมัยที่คล้ายคลึงกับเราในปัจจุบันอยู่มาก เพราะยุคสมัยของท่านก็เช่นเดียวกับยุคสมัยของเรา นั่นคือเป็นยุคสมัยที่ระบบความรู้ของสังคมกำลังถูกกระทบจากความรู้ใหม่ซึ่งหลั่งไหลมาจากภายนอก แม้ไม่ท่วมท้นเท่าปัจจุบัน แต่ก็เห็นได้ว่าเริ่มกระทบต่อฐานของความรู้หรือวิธีคิด ซึ่งสะท้อนออกมาในงานของสุนทรภู่ด้วย

ดูภาพขนาดใหญ่ตลอดชีวิตของสุนทรภู่ ท่านใช้ชีวิตอยู่ในภาคกลางตอนล่าง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ อันเป็นทำเลที่เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยมากที่สุด

ใช่แต่เท่านั้น ท่านยังอยู่ในฐานะที่ต้องสัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงโดยตรงมากกว่าคนทั่วไป ไม่ว่าในฐานะข้าราชสำนัก ตำแหน่งอาลักษณ์และกวีในราชสำนัก หรือครูกลอน และพระภิกษุที่มีผู้นับหน้าถือตาอยู่พอสมควร

เหตุดังนั้นงานของท่านจึงสะท้อนให้เห็นว่าท่านเป็นผู้มีความรู้มาก ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ใฝ่รู้ เพราะข้อมูลจำนวนมากในงานนิราศของท่านนั้นเกิดจากการได้อ่านตำรับตำรามามาก พร้อมกันไปกับการไต่ถามข้อมูลจากชาวบ้านด้วย

จนถึงทุกวันนี้ข้อมูลความรู้ที่ปรากฎในงานของสุนทรภู่ถูกใช้เป็นบรรทัดฐานอย่างหนึ่งสำหรับการทำงานพจนานุกรมและสารานุกรม

ดูภาพขนาดใหญ่วามรู้และความใฝ่รู้ของสุนทรภู่นั้นมีผู้กล่าวถึงมามากแล้ว ในที่นี้จะขอนำเอาความรู้ในงานของท่านมาวิเคราะห์ เพื่อดูถึงผลกระทบจากความรู้ใหม่ๆ ที่หลั่งไหลมาจากข้างนอก ว่ามีต่อระบบความรู้ของไทยอย่างไร โดยหยิบเอาสุนทรภู่ในฐานะปัญญาชนคนหนึ่งของไทย ซึ่งไม่ถึงกับเปิดรับความรู้ใหม่อย่างเต็มที่จนถึงหัดเรียนภาษาอังกฤษ เช่น ปัญญาชนกลุ่มวชิรญาณภิกขุ, เจ้าฟ้าน้อย (พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ) หลวงนายสิทธิ (สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์), หรือนายขำ บุนนาค (เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ฯ) ฯลฯ

(ในแง่นี้ ใคร่ชี้ให้เห็นด้วยว่าปัญญาชนไทยในราวรัชกาลที่ ๓ มิได้แบ่งออกเป็นสองขั้วสุดโต่ง คือระหว่างกลุ่มก้าวหน้าที่เปิดรับความคิดตะวันตกเต็มที่ และกลุ่มหัวเก่าที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แท้ที่จริงแล้วทั้งสองกลุ่มเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน คือจะผนวกเอาความรู้ตะวันตกเข้ามาในระบบความรู้ของไทยได้อย่างไร โดยมิให้กระทบต่อฐานความรู้ที่แต่ละฝ่ายคิดว่ามีความสำคัญอย่างชนิดที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ฉะนั้นการศึกษาระบบความรู้ของสุนทรภู่ จึงทำให้เราได้เห็นแนวคิดอีกกระแสหนึ่งของปัญญาชนไทยในช่วงนั้นไปด้วย)

ควดูภาพขนาดใหญ่ามรู้ใหม่ที่แพร่หลายในช่วงนั้นมาก และปรากฏในงานวรรณกรรมทั่วไป ไม่เฉพาะแต่ของสุนทรภู่คือโลกภูมิ แนวทางของความเปลี่ยนแปลงความรู้ในแง่นี้ก็คือการรับเอาข้อมูลใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับดินแดนในประเทศใกล้เคียงบรรจุลงในความรู้เกี่ยวกับโลกภูมิเดิม ดังงานศึกษาเรื่อง "ภูมิศาสตร์สุนทรภู่" ของกาญจนาคพันธุ์ได้ชี้ให้เห็น การที่เมืองลังกากลายเป็นเมืองฝรั่งในพระอภัยมณี แทนที่จะเป็นเมืองของยักษ์ หรือเมืองอันเป็นแหล่งที่มาของพระพุทธศาสนา เป็นการกล่าวถึงความจริงเชิงประจักษ์ เพราะลังกาเป็นเมืองขึ้นอังกฤษ ซึ่งมีพระราชินีปกครองในช่วงนั้น จารึกเกี่ยวกับชนชาติต่างๆ ในวัดโพธิ์สะท้อนการขยายตัวของความรู้เชิงประจักษ์เกี่ยวกับโลกภูมิเช่นเดียวกัน

เหตุใดความรู้เกี่ยวกับโลกภูมิที่ค่อนข้างเป็นจริงเช่นนี้จึงขยายตัวในยุคนั้น อธิบายไม่ได้ง่าย การเดินเรือ, การค้าระหว่างประเทศ, หรือแม้แต่แผนที่เดินเรือของตะวันตก ไม่ใช่เพิ่งมีขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ดูเหมือนต้องมีความเปลี่ยนแปลงอะไรอื่นมากกว่าการเข้ามาของข้อมูล เช่นการสำนึกถึงความจำเป็นจะต้องผนวกเอาข้อมูลใหม่เหล่านี้ไว้ในระบบความรู้ให้ได้เป็นต้น

ดูภาพขนาดใหญ่อกจากความรู้ด้านโลกภูมิแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พบในงานของสุนทรภู่อยู่เสมอคือความรู้ชาวบ้าน ในงานนิราศของท่านมีตำนานสถานที่ ความเชื่อเกี่ยวกับสัตว์หรือพืช ซึ่งเป็นความรู้พื้นถิ่นของชาวบ้าน ตลอดจนแม้แต่นิทานชาวบ้านสอดแทรกอยู่มากมาย

ถ้ามองย้อนกลับไปดูวรรณกรรมตัวเขียนรุ่นก่อนหน้านี้ ความรู้ชาวบ้านเหล่านี้แทบไม่มีพื้นที่ในวรรณกรรมมาก่อนเลย เหตุใดปัญญาชนจึงให้ความสนใจต่อความรู้ชาวบ้านเช่นนี้ ก็นับเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ชี้ให้เห็นความเปลี่ยนแปลงในระบบความรู้ของไทยในช่วงนั้น

ความเปลี่ยนแปลงอีกด้านหนึ่งในยุคสมัยนั้นซึ่งควรกล่าวไว้ด้วย แม้ไม่เกี่ยวกับตัวความรู้โดยตรง นั่นก็คือวรรณกรรมตัวเขียนถูกใช้เพื่อการอ่านมากขึ้น

ดูภาพขนาดใหญ่รรณกรรมรุ่นก่อนหน้าส่วนใหญ่เป็นวรรณกรรมเพื่อการแสดง (เทศน์มหาชาติก็เป็นการแสดงอย่างหนึ่ง) แต่งานเขียนเช่นนิราศก็ตาม, พระอภัยมณีก็ตาม ไม่ได้เขียนขึ้นเพื่อการแสดง แต่เพื่อการอ่านโดยตรง จึงอาจกล่าวได้ว่าท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของระบบความรู้ที่เกิดขึ้นในยุคนั้น มีการเปลี่ยน "สื่อ" ไปพร้อมกัน คือมีงานเขียนเพื่อการอ่านเพิ่มขึ้น

สุนทรภู่เป็นคนหนึ่งที่มีส่วนอย่างมากในการทำให้ "สื่อ" ชนิดนี้แพร่หลายออกไป แม้สื่อที่ท่านเลือกใช้คือกลอนแปดเป็นรูปแบบฉันทลักษณ์ที่มีข้อจำกัด ดังที่จิตร ภูมิศักดิ์ เคยวิจารณ์ว่า ไม่อาจใช้เป็นเครื่องมือในการสื่ออารมณ์ที่หลากหลายได้มากนัก ท่านยกตัวอย่างความโกรธและความคึกคะนองเหี้ยมหาญเป็นต้น

ดูภาพขนาดใหญ่อย่างไรก็ตามการอ่านในยุคสมัยของสุนทรภู่หมายถึงการอ่านดังๆ โดยเฉพาะอ่านดังๆ ให้ผู้อื่นฟัง ไม่ใช่การอ่านในใจเงียบๆ เพียงคนเดียว เสียงของการเร้าอารมณ์จึงมาจากการอ่านดังๆ ไม่ใช่มาจากเสียงที่เกิดในใจผู้อ่านเมื่อสายตาผ่านตัวอักษร ฉะนั้นสื่อที่สุนทรภู่มีส่วนในการทำให้แพร่หลายนี้ จึงพอเหมาะกับความจำเป็นในยุคสมัย และที่จริงแล้วกลอนถูกใช้เป็นรูปแบบสำหรับเก็บความรู้ด้านต่างๆ เอาไว้มากมายนับแต่นั้นมา เช่น ตำรายา, ตำราโหราศาสตร์, และตำราอื่นๆ

ตัวละครของสุนทรภู่ก็สะท้อนความรู้ข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ออกมาเหมือนกัน เช่น อุศเรน, นางละเวง, นางเงือก, ผีเสื้อสมุทร ซึ่งไม่อาจหาตัวละครในวรรณกรรมรุ่นก่อนเทียบได้เลย

อย่างไรก็ตามความรู้ข้อมูลใหม่เหล่านี้สุนทรภู่จะผูกโยงไว้กับอุดมคติของระบบความรู้แบบเดิมเสมอ หลังจากผ่านประสบการณ์แปลกใหม่หลายอย่างมาแล้ว ในที่สุดพระอภัยมณีก็ลาโลกออกบำเพ็ญพรตเพื่อบรรลุธรรม ความตื่นตาตื่นใจในสิ่งแปลกใหม่ทั้งหลายที่ปรากฏในนิราศ มักจะลงมาสู่ข้อสรุปที่เตือนผู้อ่านให้ระลึกถึงพระไตรลักษณ์เสมอ ข้อนี้ทำให้สุนทรภู่แตกต่างจากคนไทยปัจจุบัน เพราะการรับความรู้ข้อมูลใหม่ๆ ในปัจจุบัน ไม่ได้ผูกโยงอยู่กับอุดมคติของความรู้แบบเดิมอีกแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่ความรู้ข้อมูลใหม่ๆ ซึ่งหลั่งไหลเข้ามามีผลกระทบต่อวัฒนธรรมไทยอย่างไพศาลกว่าสมัยสุนทรภู่

มีดูภาพขนาดใหญ่ข้อน่าสังเกตเกี่ยวกับอำนาจที่ปรากฏในพระอภัยมณี ฝ่าย "ไทย" ได้อำนาจจากการปลุกเสก, อิทธิปาฏิหาริย์ หรือบารมีส่วนบุคคล ในขณะที่ฝ่ายฝรั่งลังกาได้อำนาจจากการกระทำของมนุษย์เอง เช่นเรือรบลำใหญ่มหึมา แม้เกิดจากจินตนาการที่ไม่มีความเป็นจริงในสมัยนั้นรองรับ แต่ก็เป็นเรือรบที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ได้มาจากอิทธิปาฏิหาริย์ ท้องเรื่องของพระอภัยมณีที่ไม่เกี่ยวกับความรักของตัวเอกแล้ว ก็คือการต่อสู้กันระหว่างอำนาจสองชนิดนี้ และผลที่สุดของการต่อสู้ก็คือชัยชนะของฝ่าย "ไทย" ที่น่าสนใจก็คือชัยชนะนั้นไม่ได้เกิดจากการต่อสู้ทางกายหรือกำลังอาวุธเท่านั้น แต่เป็นชัยชนะทางใจ หรือความรักระหว่างตัวเอกด้วย

ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะสะท้อนการมองโลกจากสายตาของปัญญาชนไทยกลุ่มหนึ่ง (ซึ่งมีสุนทรภู่เป็นตัวแทน) กล่าวคือยอมรับอำนาจของตะวันตกในด้านกายภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมั่นในอำนาจทางจิตใจ (หรือทางธรรม) ของไทย

ดูภาพขนาดใหญ่ากมีการปะทะกันของอำนาจ


ในที่สุดแล้วอำนาจทางธรรมย่อมอยู่เหนือกว่า......................

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 12 มิ.ย. 2552

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


..ขอสดุดี"สุนทรภู่."ผู้โยงใย .....ความรู้เก่า-ความรู้ใหม่...ขอสดุดีสุนทรภู่.ผู้โยงใย.....ความรู้เก่า-ความรู้ใหม่.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

บัญญัติ 25 ประการ

บัญญัติ 25 ประการ


เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง
อาการ...นอนไม่หลับ..>>??

อาการ...นอนไม่หลับ..>>??


เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง
101 เหตุผลกับ นมแม่

101 เหตุผลกับ นมแม่


เปิดอ่าน 7,159 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ว้าว....ผู้ชายนะคะ.....สวยไม่แพ้ผู้หญิงแท้เลยนะนี่

ว้าว....ผู้ชายนะคะ.....สวยไม่แพ้ผู้หญิงแท้เลยนะนี่

เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ถึงโดนยั่วก็อย่าใจอ่อน
ถึงโดนยั่วก็อย่าใจอ่อน
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย

เลขประจำตัวเกิด  1 - 9 ....บอกนิสัยคุณได้
เลขประจำตัวเกิด 1 - 9 ....บอกนิสัยคุณได้
เปิดอ่าน 7,226 ☕ คลิกอ่านเลย

คู่แข่งขัน..... คือครูคนสำคัญ
คู่แข่งขัน..... คือครูคนสำคัญ
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

ถอดรหัสใจของคุณ.....เรื่องที่ 2  อ่านนิตยสารยอดนิยม
ถอดรหัสใจของคุณ.....เรื่องที่ 2 อ่านนิตยสารยอดนิยม
เปิดอ่าน 7,155 ☕ คลิกอ่านเลย

วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
เปิดอ่าน 7,172 ☕ คลิกอ่านเลย

 ถ้าคุณเป็นทาสคอมฯ......ต้องกินมะม่วง ......ผลไม้ที่บำรุงสายตาได้ดีที่สุด
ถ้าคุณเป็นทาสคอมฯ......ต้องกินมะม่วง ......ผลไม้ที่บำรุงสายตาได้ดีที่สุด
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
สุดยอด "สุวรรณภูมิ-พารากอน" คว้าแชมป์สถานที่ที่มีคนแชร์รูปผ่านอินสตาแกรมมากที่สุดในปี 2012
เปิดอ่าน 10,972 ครั้ง

"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
"พลู" สมุนไพรไทย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
เปิดอ่าน 28,172 ครั้ง

การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
การประเมินจากภายนอกสถานศึกษาจำเป็นหรือไม่?
เปิดอ่าน 6,567 ครั้ง

นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
นานาไอเดีย แปลงยางรถยนต์เก่า มาใช้อย่างเก๋ไก๋ ทำไว้ใช้เองที่บ้าน/ที่โรงเรียน หรือทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้
เปิดอ่าน 25,951 ครั้ง

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่
เปิดอ่าน 19,138 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ