ลูกศิษย์กับครู...เมื่อ...สบู่เปลี่ยนสี
วัฒนธรรมการอาบน้ำของคนบางกลุ่มอาจจะถือว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ บางคนอาจจะอาบน้ำวันละอย่างน้อย 2 เวลาคือเช้าและเย็น หรือบางกลุ่มอาจจะอาบน้ำเพียงครั้งเดียวต่อวัน หรือไม่เคยอาบน้ำเลย หรือนาน ๆ ครั้ง ส่วนคนในชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมการอาบน้ำมากนัก เมื่อถามนักเรียนจะได้คำตอบแตกต่างกันว่าบางคนอาบวันละ 2 ครั้ง บางคนอาบวันละ 1 ครั้ง ส่วนไม่อาบน้ำเลยนั้นไม่มี
เด็กนักเรียนนับว่ามีปัญหามากในการอาบน้ำตอนเช้าก่อนมาโรงเรียน ทำให้มีกลิ่นไม่สะอาดเช่นกลิ่นปัสสาวะรดที่นอน กลิ่นหมักหมม เล็บมือเล็บเท้าไม่สะอาด ร่องรอยคราบขี้ไคลปรากฏชัดเจน เพราะพวกเราเป็นโรงเรียนบ้านนอกอยู่ในชุมชนที่ยากจน นักเรียนจำนวนมากถูกทอดทิ้งให้อยู่กับปู่ ย่า ตา ยายที่แก่ชรา ไม่มีเวลาอบรมสั่งสอน ครูต้องรับภาระอย่างมากโดยเฉพาะครูช่วงชั้นที่ 1 ชั้น ป.1- 3 ต้องฝึกให้นักเรียนอาบน้ำสระผม
ภายหลังที่ได้มีการรณรงค์ชักชวนให้นักเรียนร่วมกิจกรรมคุณธรรมพื้นฐาน 9 ประการ ครูทุกคนต้องมีหน้าอบรมนักเรียนให้ตระหนักและมีลักษณะที่พึงประสงค์ก่อนการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระ ทุกชั่วโมง "สะอาด" เป็นคุณลักษณะของคุณธรรมอีกประการหนึ่ง ส่งผลให้นักเรียนประพฤติปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนทั้งด้านความรู้ ความเข้าใจและคุณลักษณะของนักเรียนทางพฤติกรรม
น้องช้าง น้องเสือและน้องสิงห์ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่ทำตัวเป็นปัญหากับการอาบน้ำมากที่สุด ต่อเนื่องมาจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 นอกจากนี้เด้กทั้ง 3 คนเป็นเด็กผิวสีเข้มที่มองแล้วไม่สะอาดตา ผมเผ้านาน ๆ ตัดครั้งหรือไม่ก็ครูต้องควักกระเป๋าครั้งละ 20 บาทเป็นค่าตัดผม บังเอิญเป็นวันที่ต้องเดินผ่านเจอทั้ง 3 คนอย่างใกล้ชิด ได้สำรวจดูสุขภาพ ความสะอาดของร่างกาย ก็ได้คำตอบว่าไม่อาบน้ำในตอนเช้า ส่วนตอนเย็นอาบทุกวัน แต่ไม่ถูคราบขี้ไคล
กิจกรรมใหม่จึงเกิดขึ้น หลังพักรับประทานอาหารกลางวัน ได้ให้สตางค์ไปซื้อสบู่ที่ห้องสหกรณ์ได้สบู่มา 1 ก้อนสีขาวกลิ่นหอมน่าใช้มาก อธิบายวิธีการอาบน้ำให้ที่หน้าห้องน้ำของครู แล้วเดินไปยังห้องพักครูซึ่งอยู่คนละชั้น เมื่อเดินขึ้นบันไดขั้นสุดท้ายและจะเข้าหอ้ง น้องเสือก็วิ่งขึ้นมาให้ครูดูว่า "สะอาดหรือยังครับ" และอีก 2 คนก็ตามมาติด ๆ คราวนี้ให้กลับไปอาบใหม่บอกวิธีการขัด ถูแต่ละส่วนของร่างกาย กะเวลาให้ 15 นาที เมื่อครบเวลาแล้วครูจะไปตามที่ห้องน้ำ
ผลการอาบน้ำ สระผม ก็ดูมีความสุขและสดชื่น กลัวครูจะไม่เชื่อจึงถิอสบู่มาเป็นหลักฐานว่าได้ถูสบู่กันจริง ๆ จนทำให้สบู่ผอมไปกว่าเดิมมากแล้ว...โอ..เจ้ากรรมสบู่ที่บอกว่าสีขาว กลิ่นหอม น่าใช้...กลับกลายเป็น.."สบู่สีเทาคล้ำเกือบดำ" และเด็กทั้ง 3 คนชูแขนของตัวเองคนละข้างมาเทียบกับของครูว่า "พวกหนูขาวเท่าคุณครูหรือยังครับ" แทนคำตอบก็คือ.."ครูกลัวว่าสีของหนูจะตกสีทำให้แขนครูเปลี่ยนสีมากกว่า" ตามด้วยคำหวานปลอบใจหนูน้อยท้ง 3 คนว่า ..."คนเราจะสีผิวขาวหรือผิวคล้ำไม่เป็นอุปสรรคปัญหาในการดำเนินชีวิต ที่สำคัญเราเลือกที่จะเป็นคนดีมีจิตใจงดงาม ขาวสะอาดและเข้มแข็งมากกว่า"..........นะคะนักเรียน
|