|
Advertisement
"เนาวรัตน์"ร่ายกลอน"แพนดา" โตวัย"มุมปาก-ขา"สีดำเริ่มชัด
น้องน้อยแพนดา - นางสุนทรีย์ เวชานนท์ ศิลปินพื้นบ้านล้านนา เป็นตัวแทนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ นำบทกลอน "น้องน้อยแพนดา" ที่ร่ายขึ้นจากแรงบันดาลใจ "แพนดาน้อย" อัดใส่กรอบรูป มอบให้กับนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน
|
"แพนดาน้อย"โตวันโตคืน บริเวณมุมปาก-ขาหลังสีดำเริ่มชัด หลินฮุ่ยไม่หวงปล่อยนอนเอง "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์"ศิลปินแห่งชาติ ได้แรงบันดาลใจร่ายกลอนส่งสวนสัตว์เชียงใหม่ บอกอยากให้มนุษย์ดูเป็นตัวอย่าง ผอ.สำนักขนส่งฯเผย คนแห่ทำใบขับขี่พื้นหลังเป็นครอบครัวแพนดา ตัวเลขเพิ่มถึง 3 เท่า
โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนดาในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ ยังคงคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศไปรอซื้อตั๋วเข้าชมครอบครัวแพนดากันตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน ทั้งนี้ ในช่วงเช้า หลินฮุ่ยปล่อยแพนดาน้อยนอนกับพื้น เพื่อไปขับถ่ายและกลับมานอนลงข้างๆ โดยไม่ได้คาบลูกขึ้นมาไว้บนอกอย่างเคย แต่ปล่อยให้ลูกคุ้นเคยกับการอยู่ตามลำพังมากขึ้น
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า แพนดาน้อยมีพัฒนาการทางด้านร่างกายเพิ่มขึ้นคือ บริเวณขาหลังทั้งสองข้างเริ่มมีสีดำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บริเวณมุมปากทั้งสองข้างเริ่มดำแล้วเช่นกัน ในขณะที่ขนยาวมากจนพับงอ ผิวหนังขยายจนเห็นรอยย่น และจากการสัมผัสพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะรูปร่างแน่น พุงป่อง ท้องตึง แสดงว่ากินนมแม่ได้ดี จึงยังไม่ต้องเสริมนมให้
"ที่น่าสังเกตคือหลินฮุ่ยวางลูกนานขึ้น และมีความถี่มากในช่วงกลางคืน น่าจะเมื่อยและหากเห็นลูกไม่ร้องก็จะปล่อยให้ต่างคนต่างนอน โดยทีมสัตวแพทย์สามารถหยิบลูกออกมาอุ้มได้นานขึ้น เพื่อสร้างความคุ้นเคยในฐานะแม่นม ซึ่งหลินฮุ่ยก็จะมองก่อนที่จะเดินมาแบมือขอลูกแพนดาน้อยคืนไป โดยไม่มีท่าทางหงุดหงิดแต่อย่างใด เพราะหลินฮุ่ยคงทราบว่าอีกไม่นานก็คงไม่สามารถอุ้มลูกได้ เพราะน้ำหนักเพิ่มและเริ่มอุ้มลูกลำบากมากขึ้น ส่วนตอนกลางวันจะปล่อยลูกตอนเช้าและตอนบ่าย" นายประเสริฐศักดิ์กล่าว
|
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีผู้ส่งไปรษณีย์ตรงถึงสวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อประกวดตั้งชื่อแพนดาน้อยจำนวนมาก มีทั้งส่งชื่อเปล่าและส่งชื่อพร้อมวาดภาพประกอบเป็นแพนดาน้อย ชื่อที่ส่งประกวดมีทั้งภาษาพื้นเมืองล้านนา เช่น ล้านนา เอื้องหลิน และตาป่าม (ตาดำ) ภาษาไทยและจีน
ขณะที่นางสุนทรี เวชานนท์ ศิลปินพื้นเมืองชื่อดัง และ น.ส.บุษกร พิชยาทิตย์ เป็นตัวแทน "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์" ศิลปินแห่งชาติและกวีซีไรต์ มอบบทกวี "น้องน้อยแพนดา" ที่นายเนาวรัตน์เป็นผู้แต่ง มอบให้กับนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ นายประเสริฐ์ศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการ และคณะเพื่อเป็นของขวัญและร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่สามารถผสมเทียมแพนดาได้เป็นผลสำเร็จ นายธนภัทรกล่าวว่า จะนำบทกวีที่ได้รับไปตั้งไว้ในส่วนจัดแสดงแพนดา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมชื่นชม จากนั้นนางสุนทรีได้อ่านบทกวีให้ทุกคนฟังหน้าโทรทัศน์วงจรปิดที่ถ่ายทอดสดออกมาจากคอกกัก
@ น้องน้อยแพนดา
โงเงหลับตา มุดหน้าหานม
ตัวแอ้ตัวอ่อน ตัวก้อนตัวกลม
มุดหน้าหานม กินนมแม่หมี
@ แม่หมีหลินฮุ่ย
กะปุกกะปุย กอดรัดพัดวี
เลียเนื้อเลียตัว เลียทั่วทุกที่
กอดรัดพัดวี ลูกแพนดาน้อย
@ พ่อหมีช่วงช่วง
หมดหายหมดห่วง สืบล่วงสืบรอย
สืบสายเลือดหมี แพนดาภูดอย
สืบล่วงสืบสาย เพชรพลอยเผ่าพันธุ์
@ เพชรม่านไม้ไผ่
เผ่าพงศ์โยงใย ไทยจีนประจัน
เลือดเนื้อเชื้อไข ถ่ายเทถึงกัน
ไทยจีนประจัน ผูกพันไมตรี
@ ขวัญเอยขวัญคล้อย
ขวัญแพนดาน้อย มาอยู่ยังที่
พลิ้วพลิ้วใบไผ่ ขับไม้มโหรี
มาอยู่ยังที่ ฟังสะล้อซอซึง
@ ห่วงเอยห่วงใย
ทุกหัวใจไทย ฝากใจคำนึง
ให้รู้ให้รัก ว่ารักเป็นหนึ่ง
ฝากใจคำนึง รักแพนดาน้อย
ต่อมานายเนาวรัตน์ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ได้ดูภาพจากข่าวเห็นว่าแพนดาน้อยน่ารักดี จึงเกิดแรงบันดาลใจร่ายออกมาเป็นบทกวี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยใช้เวลาไม่นานนัก
"อยากให้มนุษย์ดูแพนดาเป็นตัวอย่าง เพราะตอนที่เขาเกิดมาเขามีสีธรรมชาติก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นสีขาวและดำตามแม่ซึ่งเป็นธรรมชาติ ดังนั้น มนุษย์ควรมีความเป็นมนุษย์ เพราะตอนเกิดก็มาแต่ตัวก่อนที่จะไปสวมเสื้อผ้ามีเครื่องแบบและมีชื่อ" นายเนาวรัตน์กล่าว
นายอัธษไธด์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังแพนดาน้อยถือกำเนิดมีประชาชนแห่มาทำใบขับขี่ที่เรียกว่าสมาร์ทการ์ดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพื้นหลังเป็นครอบครัวแพนดา บางรายยอมลงทุนซื้อตั๋วเครื่องบินมาจากกรุงเทพฯ แบบยกครอบครัว แม้ขณะนี้พื้นหลังยังคงเป็นรูปแพนดา 2 ตัว คือช่วงช่วงและหลินฮุ่ย เนื่องจากพื้นหลังที่เป็นรูปครอบครัวแพนดา 3 ตัว ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากกรมการขนส่งก็ตาม แต่เมื่อเดินทางมาแล้ว เขาก็ยอมทำใบขับขี่อยู่ดี โดยบอกว่าเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก จากเดิมมีประชาชนมาทำบัตรต่อวันไม่ถึง 100 คน แต่ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มมากกว่า 300 คนต่อวัน
www.matichon.co.th
วันที่ 9 มิ.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
เปิดอ่าน 7,403 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง 
เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 7,178 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 17,848 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,506 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 34,661 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 14,456 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 18,118 ครั้ง |
|
|
ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
