ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

9 ! ! ! วิธีดูแลสมอง ต้องใส่ใจครับ <><><>..


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,141 ครั้ง
Advertisement

   9 ! ! !   วิธีดูแลสมอง   ต้องใส่ใจครับ  <><><>..

Advertisement

❝ ❞
                                                                              9 วิธีดูแลสมอง

      หลังจากที่เราต้องใช้สมองมาตลอดเวลา อาจทำให้ล้าไปบ้าง ดังนั้นเรา ลองมาดู 9 วิธีดูแลสมองเพื่อให้สมองแข็งแรงกันว่ามีอะไรบ้าง...
       
1.เสริมสร้างไขมัน

       อันที่จริงแล้วสมองของคนเรานั่นก็คือก้อนไขมัน ซึ่งไขมันในที่นี่คือไขมันดี เพื่อเสริมสร้างและทดแทนส่วนที่สึกหรอไป ดังนั้นการบำรุงสมองวิธีหนึ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่นิยมกันคือการรับประทานน้ำมันปลา เพราะน้ำมันปลาต่างจากน้ำมันตับปลาตรงที่น้ำมันตับปลาสกัดจากตับของปลาทะเลบางชนิด ซึ่งมีวิตามิน A และ D ในปริมาณสูง จึงเหมาะสำหรับเสริมสร้างกระดูกและสายตา ซึ่งในน้ำมันปลามีน้อยกว่ามาก ประโยชน์ของน้ำมันปลาคือ ลดระดับไขมันในเลือด โดยเฉพาะลดไตรกลีเซอไรด์ และมีฤทธิ์ในการต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด จึงช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น บำรุงสมองและระบบประสาทเหมาะสำหรับทารก จนถึงวัยเด็กที่สมองกำลังพัฒนาสติปัญญา และการเรียนรู้ การทำงานของสมอง ป้องกันความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ ต้านการอักเสบ เช่น ไขข้ออักเสบ โรคผิวหนังบางชนิด และนอกจากน้ำมันปลาแล้ว สารสกัดใบแปะก๊วย นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรส ส่วนวิตามินซี ก็นับเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสมองและร่างกายอย่างยิ่ง
       
2. น้ำช่วยชีวิต

       เนื่องจากสมองคนเราประกอบไปด้วยน้ำถึง 85 % เซลล์สมองเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้และเซลล์สมองก็จะเหี่ยว ซึ่งส่งให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อที่จะช่วยทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง
  
       โดยทั่วไปแล้ว เรามักได้ยินกันว่า คนเราควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่ในความเป็นจริงนั้น คือควรดื่มวันละ 10 แก้ว ได้แก่

       1. เวลาตื่นนอนให้ดื่มน้ำอุ่น 4 แก้ว
       2. ก่อนอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
       3. หลังอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
       4. ในเวลา 10.00, 14.00, 16.00 นาฬิกา เวลาละ 1 แก้ว
       5. ก่อนนอนดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว รวม 10 แก้ว
       
       ซึ่งน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือ น้ำอุณหภูมิปกติไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ถ้าเป็นน้ำอุ่นควรดื่มตอนเช้าเพื่อช่วยล้างลำไส้ให้สะอาด และ ช่วยการขับถ่ายของเสีย ส่วนข้อควรจำเกี่ยวกับการดื่มน้ำนั้นคือ ไม่ควรดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะ อาหารเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยไม่มีประสิทธิภาพ ส่วนการรับประทานอาหาร พร้อมกับดื่มน้ำตลอดเวลาเป็นนิสัยที่ควรเลิก ทางที่ดีควรซดน้ำแกงกลั้วคอจะดีกว่า
       
       3. ใส่ใจและตั้งใจ

       ไม่ว่าจะทำอะไร หากคนเรามีความตั้งใจที่จะทำ มันเปรียบเสมือน เป็นโจทย์ที่ทำให้เราต้องก้าวไปให้ถึงสิ่งที่ต้องการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สมองจะปรับพฤติกรรมทำเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้นๆ ดังนั้นหากอยากฝึกสมองให้มีการพัฒนาทุกวัน ควรใส่ความตั้งใจทุกครั้งที่ทำงาน
       
       4. ฝึกจิต ฝึกสมาธิ

       การฝึกจิตและสมาธินับเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งเพราะการที่คนเราได้ทำสมาธินั้น สมองจะเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ผ่อนคลายที่สุด จึงทำให้สมองมี Mental Imagery ที่สามารถจินตนาการเห็นภาพและมี ความคิดสร้างสรรค์ ทั้งนี้การฝึกสมาธิ ฝึกจิต รวมไปถึงการเจริญสติอยู่ทุกเมื่อนั้น ยังเป็นการบรรเทาอาการสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
 
         5. บริหารกายใจด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

       ในทุกๆครั้งที่คนเราได้ยิ้มหรือหัวเราะ สารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็น สารแห่งความสุขจะหลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้นให้มีความอยากรักและหวังดี ต่อคนอื่นไปเรื่อยๆ และทำให้คนเรามองโลกในแง่บวกมากขึ้นอีกต่างหาก
       
       6.รู้จักอภัย

       การที่คนเราไม่รู้จักให้อภัยตนเอง นั่นหมายถึงว่าเราก็จะไม่ สามารถให้อภัยผู้อื่นได้เช่นกัน ซึ่งการให้อภัยนี้เป็นสิ่งที่จะนำไปสู่ อารมณ์อันขุ่นมัวทำให้เปลืองพลังงานสมอง ดังนั้นการให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
       
       7. เปิดใจเรียนรู้อยู่เสมอ

       การเรียนรู้อยู่เสมอนั้น แสดงให้เห็นว่าไม่มีใครสายเกินเรียน ซึ่งการเรียนรู้ในที่นี้อาจรวมไปถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงาน และเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีความสุข ซึ่งความสุขจะทำให้เราสร้างสรรค์ในที่สุด
       
       8. เขียนเรื่องราว

       ฝึกเขียนขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุด บันทึก เช่น ขอบคุณที่มีครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดีๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
       
       9. หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ

       สมองใช้ออกชิเจน 20-25 % ของออกชิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึกๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง เราควรนั่งหลังตรงเพื่อ ให้ออกชิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนานๆ อาจหาเวลายืนหรือ เดินยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้ เพิ่มขึ้นอีก 20%
       
เพียงเท่านี้ สมองของเราก็จะไม่ถูกทำลายแล้วครับ

 


 

ที่มา: อินเตอร์เน็ต   ขอบคุณhttp://www.oknation.net/blog/productivity/2009/06/06/entry-2 ที่เอื้อเฟื้อข้อมูลครับ


โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2614 วันที่ 6 มิ.ย. 2552


9 ! ! ! วิธีดูแลสมอง ต้องใส่ใจครับ <><><>..

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

โลภะvsฉันทะ

โลภะvsฉันทะ


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
สำหรับนักลุย

สำหรับนักลุย


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
รักแบบไหน...มาไว...ไปไว!!

รักแบบไหน...มาไว...ไปไว!!


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
พระองค์ภา...น่ารักที่สุด

พระองค์ภา...น่ารักที่สุด


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว

การเจริญสติแบบเคลื่อนไหว


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
กล้ำกลืน   พัชรา แวงวรรณ

กล้ำกลืน พัชรา แวงวรรณ


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

.....เรารักในหลวง....

.....เรารักในหลวง....

เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
มองโลกทางลบ ย่อมประสบสิ่งไม่พึงประสงค์  ๑๐ อย่างทันทีทันใด
มองโลกทางลบ ย่อมประสบสิ่งไม่พึงประสงค์ ๑๐ อย่างทันทีทันใด
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

กรุณาตั้งชื่อเรื่อง...
กรุณาตั้งชื่อเรื่อง...
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

คนมีเสน่ห์ ... เป็นได้ง่ายนิดเดียว
คนมีเสน่ห์ ... เป็นได้ง่ายนิดเดียว
เปิดอ่าน 7,150 ☕ คลิกอ่านเลย

จัดระดับของนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้
จัดระดับของนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

ตรวจดู windows ตวเองหน่อยดีมั้ย
ตรวจดู windows ตวเองหน่อยดีมั้ย
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

ดักแด้...อาหารโปรตีนสูงจากหนอนไหม
ดักแด้...อาหารโปรตีนสูงจากหนอนไหม
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

10 สรรพคุณ ประโยชน์ของหน่อไม้
10 สรรพคุณ ประโยชน์ของหน่อไม้
เปิดอ่าน 14,022 ครั้ง

ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
เปิดอ่าน 10,067 ครั้ง

วิจัยชี้ 22ตำหรับอาหารไทยต้านโรคมะเร็ง
วิจัยชี้ 22ตำหรับอาหารไทยต้านโรคมะเร็ง
เปิดอ่าน 25,957 ครั้ง

ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
เปิดอ่าน 13,671 ครั้ง

สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
เปิดอ่าน 13,018 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ