ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

"ชิคุนกุนยา (Chikungunya)" โรคที่ชื่อแปลก แต่แฝงด้วยความน่ากลัว???


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,145 ครั้ง
Advertisement

"ชิคุนกุนยา (Chikungunya)" โรคที่ชื่อแปลก แต่แฝงด้วยความน่ากลัว???

Advertisement







 

"โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)" เมื่อได้อ่านชื่อโรคนี้แล้ว คงทำให้ผู้อ่านหลายต่อหลายคนสงสัย เพราะไม่เคยได้ยินหรือรู้จักกับโรคนี้มาก่อน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โรคนี้ก็กำลังเป็นโรคที่ทำให้คนไทย โดยเฉพาะบุคลากรในแวดวงทางด้านสาธารณสุขต้องกลับมาตื่นตัวกันอีกครั้ง...

เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันสักหน่อย!!!
      โรคนี้เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาที่ติดต่อจากแมลง โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค อาการของโรคนี้คล้ายๆกับโรคไข้เลือดออก แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่วของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

การกำเนิดขึ้นของโรคนี้!!!
        เชื้อไวรัสชิคุนกุนยานี้มีการอุบัติขึ้นในทวีปแอฟริกา โดยผู้บรรยายลักษณะของโรคนี้เป็นคนแรกคือ Marion Robinson และ W.H.R.Lumsden ในปี ค.ศ.1955 โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 3 ปี มีการระบาดของโรคในดินแดนที่ราบสูงมากอนดี ซึ่งเป็นพรมแดนระหว่างประเทศโมแซมบิกและแทนซาเนียในปัจจุบัน หลังจากนั้นก็พบการระบาดของเชื้อขิคุนกุนยานี้เป็นครั้งคราวในทวีปแอฟรกา เอเซียใต้ หรือแม้กระทั่งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

อุบัติการณ์ของโรคจากทวีปแอฟริกามายังทวีปเอเซียจนถึงประเทศไทย!!!
       หลายประเทศในทวีปแอฟริกามีการพบเขื้อชิคุนกุนยา โดยมีการแพร่เชื้อ 2 วงจรคือ Primate cycle (Rural type: คน-ยุง-ลิง) ซึ่งมีลิงบาร์บูนเป็น Amplifier host ทำให้เกิดผู้ป่วยจากเชื้อนี้ประปราย หรืออาจมีการระบาดเล็กๆเป็นครั้งคราว และเมื่อผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเข้าไปในพื้นที่ที่มีเชื้ออยู่ และคนๆนั้นอาจจะนำมาสู่ชุมชนเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มียุงลายชุกชุมมาก จึงทำให้เกิดวงจรที่ 2 ขึ้นโดยเป็นวงจรในเมือง (Urban type: คน-ยุง) และจากคนไปคน โดยมียุงลายเป็นพาหะ

ตารางที่ 1 การระบาดของโรคชิคุนกุนยาในประเทศไทย


ครั้งที่ พ.ศ. จังหวัด จำนวนผู้ป่วย (คน)
1 2531 สุรินทร์ N/A
2 2534 ขอนแก่น N/A
3 2534 ปราจีนบุรี N/A
4 2536 เลย N/A
5 2536 นครศรีธรรมราช N/A
6 2536 หนองคาย N/A
7 2551-2552 สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส 9,000



        ในทวีปเอเซีย การแพร่ของเชื้อชิคุนกุนยาต่างจากในแอฟริกา คือเป็นการแพร่เชื้อจากคนไปคน โดยมียุงลายเป็นพาหะสำคัญ ซึ่งอุบัติการณ์ของโรคเป็นไปตามการแพร่กระจายและความชุกชุมของยุงลาย โดยมีการรายงานการพบเชื้อจากประเทศต่างๆ เช่น อินเดีย พม่า เขมร เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนิเซีย รวมถึงประเทศไทย โรคนี้จะพบมากในช่วงฤดูฝน เมื่อยุงลายมีจำนวนเพิ่มขึ้น และสามารถพบโรคนี้ได้ในทุกกลุ่มอายุ ซึ่งต่างจากโรคไข้เลือดออกที่ส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 15 ปี

       สำหรับในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาครั้งแรกจากผู้ป่วยในโรงพยาบาลเด็ก กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ.2501 ต่อจากนั้นก็พบการระบาดของโรคชิคุนกุนยา 6 ครั้ง ในปี พ.ศ.2531 ที่จังหวัดสุรินทร์ ปี พ.ศ.2534 ที่จังหวัดขอนแก่นและปราจีนบุรี ในปี พ.ศ.2536 ที่จังหวัดเลย, นครศรีธรรมราช และหนองคาย และในขณะนี้ (ปี พ.ศ. 2551-2552) ที่จังหวัดสงขลา, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส (ตารางที่ 1)

การติดต่อและระยะฟักตัวของโรคนี้!!!
        เชื้อไวรัสชิคุนกุนยาติดต่อกันได้โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรคที่สำคัญ เมื่อยุงลายตัวเมียกัดและดูดเลือดผู้ป่วยที่อยู่ในระยะไข้สูง ซึ่งเป็นระยะที่มีไวรัสอยู่ในกระแสเลือด เชื้อไวรัสจะเข้าสู่กระเพาะยุง และเพิ่มจำนวนมากขึ้น แล้วเดินทางเข้าสู่ต่อมน้ำลาย เมื่อยุงที่มีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาไปกัดคนอื่นก็จะปล่อยเชื้อไปยังคนที่ถูก กัด ทำให้คนนั้นเกิดอาการของโรคได้

        ระยะฟักตัวของโรคโดยทั่วไปประมาณ 1-12 วัน แต่ที่พบบ่อยประมาณ 2-3 วัน ระยะติดต่อเป็นช่วงระยะเวลาที่ผู้ป่วยไข้สูง ประมาณวันที่ 2 - 4 เนื่องจากเป็นระยะที่มีเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาอยู่ในกระแสเลือดมากที่สุด

อาการของโรคนี้!!!

1.  ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตามร่างกายและอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบตาแดง แต่ไม่
ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ส่วนใหญ่แล้วในเด็กจะมีอาการไม่รุนแรงเท่าในผู้ใหญ่

2. ในผู้ใหญ่อาการที่เด่นชัด คือ อาการปวดข้อ ซึ่งอาจพบข้ออักเสบได้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ข้อเล็กๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า จนบางครั้งอาจจะเรียกโรคนี้ว่า "โรคไข้ปวดข้อยุงลาย"

3. อาการปวดข้อจะพบได้หลายๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อยๆ อาการจะรุนแรงมากจนบางครั้งขยับข้อไม่ได้
อาการ จะหายภายใน 1-12 สัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อเกิดขึ้นได้อีกภายใน 2-3 สัปดาห์ต่อมา และบางรายอาการปวดข้อจะอยู่ได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี

4. ไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึงช็อก ซึ่งแตกต่างจากโรคไข้เลือดออก อาจพบ tourniquet test ให้ผลบวก และจุดเลือดออกบริเวณผิวหนังได้

ความแตกต่างระหว่างโรคชิคุนกุนยากับโรคไข้เลือดออก!!!


1. ในโรคชิคุนกุนยา ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิดขึ้นอย่างฉับพลันกว่าในโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยมักจะมาโรงพยาบาลเร็วกว่า ส่วนระยะของไข้สั้นกว่าในโรคไข้เลือดออก ผู้ป่วยที่มีระยะไข้สั้นเพียง 2 วัน พบในโรคชิคุนกุนยาได้บ่อยกว่าในโรคไข้เลือดออก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ไข้จะลดลงใน 4 วัน

2. ถึงแม้จะพบจุดเลือดได้ที่ผิวหนัง และการทดสอบทูนิเกต์ให้ผลบวกได้ แต่ส่วนใหญ่จะพบจำนวนทั้งที่เกิดเองและจากทดสอบน้อยกว่าในโรคไข้เลือดออก

3. ไม่พบผื่นเลือดออกที่มีลักษณะวงขาวๆในโรคชิคุนกุนยา แต่พบผื่นแบบผื่นแดงนูนราบ และพบอาการตาแดงในโรคชิคุนกุนยาได้บ่อยกว่าในโรคไข้เลือดออก

4. พบอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและปวดข้อในโรคชิคุนกุนยาได้บ่อยกว่าในโรคไข้เลือดออก

5. ในโรคชิคุนกุนยา เนื่องจากไข้สูงฉับพลัน พบการชักร่วมกับไข้สูงได้ถึงร้อยละ 10-15

การรักษาและการป้องกันโรคนี้!!!

           ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจงสำหรับโรคชิคุนกุนยา ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการและประคับประคอง เช่น การให้ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน ส่วนการป้องกันโรคชิคุนกุนยาที่ดีที่สุดคือ ป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด สวมเสื้อและกางเกงขายาวเวลาเข้าสวน หรือทายาป้องกันยุงกัด และที่สำคัญที่สุด คือ การร่วมกันทำลายลูกน้ำยุงลายทั้งในบ้านและในสวนที่เป็นแอ่งน้ำ


จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ หากเราพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วก็จะพบว่า
 โรคชิคุนกุนยา
ไม่ ได้น่ากลัวอย่างที่คิด หากเพียงแต่พวกเรานั้น รู้เท่าทันและเตรียมพร้อมรับมือกับ โรคนี้มากน้อยเพียงใด...เท่านั้นเอง!!!



เรียบเรียงโดย :  ไกรยง วิชกูล สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ
แหล่งที่มา : &nbsp- ASTV ผู้จัดการออนไลน์ : 13 ตุลาคม 2551
&nbsp- ASTV ผู้จัดการออนไลน์ : 7 มีนาคม 2552
&nbsp- บทความ "โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)" นพ.วรวุฒิ เจริญศรี. ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกรุงเทพ
   http://www.bangkokhealth.com/children_htdoc/children_health_detail.asp
&nbsp- บทความ "ความรู้เกี่ยวกับโรคชิคุนกุนยา (Chikungunya)"
   http://www.thainewsland.com/?l=th&a=350107

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 923 วันที่ 6 มิ.ย. 2552


"ชิคุนกุนยา (Chikungunya)" โรคที่ชื่อแปลก แต่แฝงด้วยความน่ากลัว???

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

งานวิจัย

งานวิจัย


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
แซลมอนซอสอาโวคาโด

แซลมอนซอสอาโวคาโด


เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง
ไม่เอาน่า..อย่าคิดมาก

ไม่เอาน่า..อย่าคิดมาก


เปิดอ่าน 7,195 ครั้ง
การใช้โปรแกรม Eudora รับส่ง E-mail

การใช้โปรแกรม Eudora รับส่ง E-mail


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
วิธีสังเกตธนบัตรปลอม!!!

วิธีสังเกตธนบัตรปลอม!!!


เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

พร 4 ข้อ ของว.วชิรเมธี

พร 4 ข้อ ของว.วชิรเมธี

เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Tip การทำน้ำเต้าหู้
Tip การทำน้ำเต้าหู้
เปิดอ่าน 7,180 ☕ คลิกอ่านเลย

10 ภาพวาดมีชีวิต.....เหมือนจริงๆ
10 ภาพวาดมีชีวิต.....เหมือนจริงๆ
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย

การเลี้ยงแมว
การเลี้ยงแมว
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย

แตงโมบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น...
แตงโมบำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื่น...
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย

การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น
การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น
เปิดอ่าน 7,638 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะเคล็ดลับวิธีการทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ.....ในเวลา 30 วัน
แนะเคล็ดลับวิธีการทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ.....ในเวลา 30 วัน
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
งดข้าวเช้า…ตายเร็ว
เปิดอ่าน 75,864 ครั้ง

10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน
10 เคล็ดลับลดอ้วน...เมื่อเป็นเบาหวาน
เปิดอ่าน 10,849 ครั้ง

แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการพ.ศ. 2550 - 2554
แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการพ.ศ. 2550 - 2554
เปิดอ่าน 27,334 ครั้ง

7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
7 กิจกรรมวันหยุด ชาร์จแบตตัวเองก่อนเริ่มทำงาน
เปิดอ่าน 4,630 ครั้ง

4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 20,753 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ