ใช้ไม่ดี 'ยิ่งมีปัญหา!'
เป็นข่าวหนาหูขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการผลักดัน “เทคโนโลยี 3จี (3G)” เพื่อเปิดโลกการติดต่อสื่อสารผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ “มือถือ” ของคนไทยให้กว้างขึ้นอีก เห็นว่าปลายปีนี้อาจได้ใช้?!? ซึ่งกับหลายๆ วงการ เช่น วงการธุรกิจ เทคโนโลยีนี้คงสร้างประโยชน์ได้ไม่น้อย แต่ถ้าใช้เล่นๆ เป็นแฟชั่น...ก็แค่เปลืองเงิน!?!
และกับ “วัยรุ่น” เทคโนโลยี “3G” อาจแค่ของเล่นใหม่ ที่สำคัญคือ...เป็นของเล่นที่ “อาจเพิ่มปัญหาวัยรุ่น ?!?”
“...คุยกันสดๆ เห็นภาพผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้เลย เหล่าวัยรุ่นคงจะชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ เพียงแค่โทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว...” ...นี่เป็นการระบุของ นพ.กัมปนาท ตันสิถบุตรกุล จิตแพทย์โรงพยาบาลมนารมย์
ซึ่งจิตแพทย์รายนี้ชี้ว่า... “มือถือ 3G อาจจะยิ่งเพิ่มปัญหาในเชิงจิตวิทยาให้กับวัยรุ่นไทยมากขึ้น” จากเดิมก็หนักพออยู่แล้วทั้งจากมือถือเดิมๆ และอินเทอร์เน็ต ที่มีช่องทาง - มีโปรแกรมให้เด็กวัยรุ่นไทย “ใช้ผิดประเภท” หลายรูปแบบ ตั้งแต่ เล่นเกมมากเกินไปจนติดงอมแงม แชตกันจนไม่เป็นอันทำอะไร ไปจนถึงโชว์หวิว - โชว์ของสงวนออนไลน์ ขายบริการทางเพศแอบแฝง
“สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมวัยรุ่น เนื่องจากเกิดการติดงอมแงม เลิกไม่ได้ เพราะหากไม่เล่นจะเหงา เศร้า แทบจะขาดใจ บางรายมีพฤติกรรมก้าวร้าว และชอบใช้กำลังอีกด้วย” นพ.กัมปนาท ระบุ พร้อมทั้งบอกว่า...การใช้เทคโนโลยีที่ผิด ผลที่ตามมาอาจสร้างความเดือดร้อนและอับอายทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม สะท้อนถึงความเสื่อมของสังคมจากค่านิยมคนกลุ่มต่างๆ
เช่น...เยาวชนที่เลียนแบบพฤติกรรมกันอย่างเมามัน, เด็กที่มีปัญหาครอบครัว ขาดการควบคุมดูแลที่ดีจากผู้ปกครอง, เด็กที่ขาดความรักจากครอบครัว และความภาคภูมิใจในตนเอง หรือถูกตามใจมากเกินจนมั่นใจแบบไร้สติ, คนที่ทำตัวเป็นอาชญากรสังคม ฉกฉวยผลประโยชน์จากความเดือดร้อนของผู้อื่น โดยการแอบถ่ายภาพหรือนำภาพไปแสวงหาประโยชน์, กลุ่มรักร่วมเพศ ที่มักจะถูกสังคมกล่าวหาอยู่เสมอๆ แต่จริงๆ แล้วชายจริง - หญิงแท้ก็มีปัญหาเรื่องเซ็กส์ไม่น้อยไปกว่ากลุ่มรักร่วมเพศ หรืออาจจะไม่แตกต่างกันเลยก็ได้
การ “ใช้เทคโนโลยีผิดประเภท” ยังส่งผลกระทบทางอ้อมอีก กล่าวคือ... มีผู้ตกเป็นเหยื่อรักๆ ใคร่ๆ แบบไร้พรมแดน โดยการกระตุ้นอาการบางอย่างของปัญหาสุขภาพจิต โดยเฉพาะพฤติกรรม “เบี่ยงเบนทางเพศ” ที่นับวันจะมีมากขึ้น พฤติกรรม “ชอบโชว์” หรือ “ชอบถูไถ” ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ “คดีอาญา” อาจเริ่มจากคดีเล็กน้อยแค่เสียค่าปรับ แล้วบางรายอาจต้องคดีที่รุนแรงมากขึ้นตามมา เช่นคดี “ข่มขืนกระทำชำเรา”
“เทคโนโลยีเหล่านี้บางครั้งล้ำลึกเกินความสามารถที่เราจะควบคุมมันได้ อย่าลืมว่าตัวเราเองยังไม่สามารถควบคุมใจเราได้ เราจะหวังให้คนอื่นมาเก็บความลับของเราคงไม่ง่ายนัก อาจจะรู้ไม่เท่าทันว่าได้ตกเป็นเหยื่อไปเสียแล้ว”
นพ.กัมปนาท เตือนวัยรุ่นในการใช้เทคโนโลยีผิดประเภท โดยเฉพาะ “มือถือ 3G” ที่ใกล้จะแจ้งเกิด พร้อมฝากถึงครอบครัวด้วยว่า... หากพบลูกหลานหรือคนในครอบครัวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ และน่าจะเกี่ยวข้องกับปัญหาสุขภาพจิต ควรพาไปพบบุคลากรที่ดูแลปัญหาสุขภาพจิตจะดีกว่าปล่อยไปเรื่อยๆ เพราะปัญหาจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจจะไม่สามารถแก้ไขได้ในที่สุด
ด้านครูยุ่น - มนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ระบุว่า... แม้ปัจจุบันจะมีการขยายโอกาสทางการศึกษาที่สูงขึ้น แต่ปัญหาจากเรื่องของเทคโนโลยีก็มีสูงตามไปด้วย ซึ่งสิ่งที่อยู่ในความสนใจของเด็กวัยรุ่นคือ “เพศ” และ “ความรุนแรง” โดยมีอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเป็นตัวสนับสนุน เป็นการใช้ที่ผิดทาง ซึ่งก็มีคำถามย้อนกลับว่า...ระบบการศึกษาปัจจุบันมีผลไหมที่ทำให้เด็กมีการแสดงออกแบบนี้? เช่น การศึกษาที่อยู่ในกรอบ - ในระบบการแข่งขัน มีการเปรียบเทียบ มีการแพ้ - ชนะ ทำให้เด็กเครียด หาทางออกไม่ได้ จึงแสดงออกด้วยวิธีใช้เทคโนโลยีแบบผิดๆ ซึ่งตรงนี้ก็มีคำถามว่า...ภาครัฐจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร?
“หากการแก้ปัญหายังเป็นการห้ามโน่นห้ามนี่ หรือรวมไปถึงการสกัดสิ่งที่ปรากฏมาในเทคโนโลยี โดยไม่มีกิจกรรมทางเลือกอื่นๆ ให้เด็กเลย ก็คงไม่สามารถช่วยให้เด็กไม่กลายเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีแบบนี้ ซึ่งปัญหานี้หมายถึงความมั่นคงในครอบครัวและสังคมด้วย” ครูยุ่นชี้
ขณะที่ กีรติกา แผงลาด ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานเครือข่ายครอบครัว มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว ก็บอกว่า... ปัญหาจากเทคโนโลยีนี้เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน ซึ่งการใช้อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยีมากๆ กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน และกีดกั้นไม่ได้ด้วย เพราะยิ่งห้ามจะเหมือนยิ่งยุเข้าไปอีก ซึ่งการท่องโลกกว้าง หรือการมีสังคมกับคนอื่นๆ ของเด็กวัยรุ่น เรื่องที่ไม่ดีก็แฝงเข้ามาด้วย
“เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ ยิ่งเรื่องเพศ ยิ่งเป็นเรื่องที่เด็กสนใจอยู่แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือการปลูกฝังหรือการให้แง่คิดกับเด็กว่าการกระทำแบบใดไม่ควรทำ ถึงเวลาแล้วที่ครอบครัวต้องหาเวลาอยู่ด้วยกันและพูดคุยกันให้มากขึ้น เพื่อที่จะแก้ปัญหาไม่ให้เด็กกลายเป็นเหยื่อทางสังคมที่มาจากความทันสมัยของเทคโนโลยี”...ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานเครือข่ายครอบครัวระบุ
“มือถือ 3G” กำลังจะแจ้งเกิดแพร่หลายในเวลาอีกไม่นาน เทคโนโลยีนี้มีประโยชน์แต่ก็ “อาจมีโทษถ้าใช้ผิดประเภท” ผู้ใหญ่ไทยเตรียมป้องกันภัยให้เด็กวัยรุ่นไทย...หรือยัง??
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์