ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลประโยชน์...สุข


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,418 ครั้ง
ผลประโยชน์...สุข

Advertisement

❝ สาระดี ดี จากพระอธิป อธิปญฺโญ เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ นำมาฝากสมาชิก เจ้า ❞ วันนี้สิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นห่วง และกังวลจนเครียด คือเรื่องปากท้อง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับทุกคน ดังนั้นเมื่อเราดูข่าวเศรษฐกิจทั้งนอก และในประเทศแล้วเราคงปวดหัวกับสภาวะความตกต่ำทางเศรษฐกิจทั้งระบบ โดยคนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับตัวเลข GDP หรือ GNP (Gross National Product) คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ อันเป็นแนวคิดของเศรษฐศาสตร์ตะวันตกหรือเศรษฐศาสตร์กระแสหลัก ว่าเป็นตัวเลขที่สามารถชี้วัดความเจริญ และการพัฒนาของประเทศนั้นๆ
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ กษัตริย์จิกมี ชิงเย วังชุก (King Jigme Singye Wangchuck) แห่งราชอาณาจักรภูฏาน (Bhutan) ได้ประกาศหลักการวัดผลความเจริญ และการพัฒนาการของประเทศโดยถือเอาคุณภาพชีวิตของคนเป็นพื้นฐาน จนเป็นจุดสนใจกับนักเศรษฐศาสตร์ และนักปกครองทั่วโลกเป็นครั้งแรก โดยตรัสถึง แนวคิดเรื่อง "ความสุขมวลรวมประชาชาติ” หรือ GNH (Gross National Happiness) ซึ่งตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่า ความสุขคือเป้าหมายที่แท้จริง หรือความต้องการสูงสุดในชีวิตของมนุษย์ของแต่ละคน ถ้าการพัฒนาสังคม และประเทศชาติจะเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางแล้ว การพัฒนาก็ควรจะนำไปสู่การบรรลุถึงความพึงพอใจของมนุษย์ทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างถูกต้องและสมดุล

แกนหลักของ "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" มี ๔ ประการคือ (๑) การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างยั่งยืนและเสมอภาค (๒) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (๓) การรักษาและส่งเสริมวัฒนธรรม และ (๔) การส่งเสริมการปกครองที่ดี มีธรรมาภิบาล ในการนำเสนอแนวคิดเรื่อง "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" นั้น กษัตริย์วังชุกมิได้ทรงนำเสนอแต่เพียงทฤษฎีเท่านั้น แต่พระองค์ได้ทรงแสดงออกในเชิงปฏิบัติทางนโยบาย โดยมีราชอาณาจักรภูฏานเป็นแบบอย่างที่สำคัญให้แก่ชาวโลก
จริงๆ แล้วหลักการเหล่านี้ได้ถูกกล่าวถึงในประเทศไทยมาเป็นเวลานานกว่า ๓๐ ปี ผ่านพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของปวงชนชาวไทย จนเป็นแนวคิด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทั้งสองพระองค์ได้ยึดถือหลักพุทธธรรมเป็นหลักการใหญ่ แต่ในประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองพุทธ เช่นเดียวกับภูฏาน ยังไม่สามารถฝังรากแห่งหลักการอันเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ได้ เหตุหนึ่งคงเป็นเพราะความแรงของระบบเศรษฐกิจกระแสหลักที่ครอบงำคนทั่วโลก รวมถึงเมืองไทย และเมื่อระบบเศรษฐกิจกระแสหลักเกิดเป็นพิษขึ้นมา จึงเกิดวิกฤตการณ์ไปทั่วโลก ทั้งวิกฤติการเงิน วิกฤติทางจริยธรรม และวิกฤติทางความสุขของผู้คน
การผันแปรทางสังคมในทุกภาคส่วนมิได้เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญแต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อตัวมาจากปัญหาทางจิตใจของมนุษย์ทั้งสิ้น และในที่สุดก็ส่งผลย้อนกลับไปสู่จิตใจของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในยุคที่ชุมชนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้คนในสังคมมีจิตใจสุขสว่างไสวมากกว่าสังคมในยุคนี้หลายเท่า เมื่อการวางหลักของชีวิตผิดพลาด ความมุ่งหมายก็ผิดไปด้วย คนเริ่มเห็นเงินเป็นพระเจ้า บูชาอำนาจและความร่ำรวยมากกว่าความดีงาม จนนำตนไปสู่วิถีแห่งการแสวงหาทะยานอยากอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อจะได้มาในสิ่งที่ตนต้องการโดยไม่สนใจวิธีการในการได้มาซึ่งสิ่งนั้นๆ
ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็ก องค์กรใหญ่ หรือบุคคลทั่วไปมักให้ความสำคัญกับคำว่า “ผลประโยชน์” โดยลืมเลือนคำว่า “ประโยชน์สุข” ไปอย่างสิ้นเชิง โดยเรามักนึกว่าเงินสำคัญที่สุดในชีวิต วิธีคิดเช่นนี้ทำให้เกิดการแย่งชิงแข่งขันในสังคมอย่างกว้างขวาง ผู้คนเริ่มขาดมิติแห่งความเกื้อกูลฉันเพื่อนมนุษย์ และหันไปมุ่งแสวงหาผลประโยชน์เป็นหลัก จนเกิดการคอรัปชั่นไปทั่วตั้งแต่นักบวช นักปกครอง นักการศึกษา นักวิชาการจนถึงยาจก แม้ส่วนหนึ่งอาจมิได้คอรัปชั่นในระบบ แต่ก็คอรัปชั่นต่อหน้าที่ เช่นพระมีหน้าที่สอนโยมให้มีปัญญารู้ความจริงของชีวิต คือรู้ตื่น เบิกบาน แต่บางทีเราอาจพบพระบางรูปสอนให้โยมหลับใหล งมงาย บอกหวย ดูดวง หรืออยู่ร่วมในสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม หรือครู มีหน้าที่สอนหนังสืออย่างเต็มกำลังความสามารถโดยไม่ปิดบังอำพราง แต่ในปัจจุบันมีการกักความรู้ไว้ เพื่อสอนพิเศษนอกเวลาอันมุ่งเน้นผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง และยังมีอีกหลายอาชีพในสังคมที่ยังทำผิด และบกพร่องต่อหน้าที่จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคม จนบางทีเราอาจได้ยินว่า “ใครๆ เขาก็เอาทั้งนั้น ถ้าเราไม่เอาก็โง่สิ” หรือว่า “เอาก็เอาให้เป็นอย่าให้ใครจับได้ ถ้าถูกจับได้โง่”
ถ้าคตินิยมเช่นนี้ฝังรากลึกลงไปในสังคมเรื่อยๆ เราคงไม่เห็นภาพที่งดงามในสังคมไทยหลงเหลืออยู่ คำว่า “ประโยชน์สุข” จางหายไปจนไม่มีใครกล่าวถึง คำว่า “ผลประโยชน์” เป็นสิ่งที่ทุกคนถามหาในทุกหน้าที่การงาน และการใช้ชีวิต ความร้อนใจเข้ามาแทนที่ความเย็นใจ น้ำเงินเข้ามาแทนน้ำใจ การกักเก็บ และการแก่งแย่งเข้ามาแทนที่ความเกื้อกูล ความแตกแยกเข้ามาแทนที่ความสามัคคี ความวุ่นวาย เข้ามาแทนที่ความสงบ ความโลภเข้ามาแทนที่ความรักและเมตตา มิตรแท้ในชีวิตหายไปคงหลงเหลือไว้แต่มิตรเทียม
เราจะรอให้สังคมเป็นเช่นนี้ต่อไป หรือจะหันกลับมาร่วมกันทำวัคซีนให้กับสังคม โดยเริ่มที่ตัวเรา และครอบครัวของเราเป็นอันดับแรก เพราะการเปลี่ยนย่อมเริ่มจากจุดเล็กๆเสมอ อย่าคิดให้ใครๆเปลี่ยนเพื่อเรา แต่จงเปลี่ยนตัวเราเพื่อความสุขของใจเราเอง นำคำว่า “ประโยชน์สุข” กลับมาอีกครั้ง จนแทนที่คำว่า “ผลประโยชน์” ในใจเราได้ เมื่อนั้นหน้าตาของชีวิตเราจะเปลี่ยนไปสู่หน้าตาเดิมแท้ที่มนุษย์ต้องการ คือความสุขในจิตใจ ขอให้ทุกคนเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองว่า คุณค่าแท้ๆของชีวิตเราคืออะไร ? ความสุขจริงๆ เกิดที่ไหน ? และเมื่อได้คำตอบขอให้เดินทางสู่คุณค่าแท้นั้นด้วยความเชื่อมั่นอย่างมีสติ และเมื่อนั้นอิสภาพแห่งความสุขของชีวิตจะบังเกิดขึ้นในใจเรา

พระอธิป อธิปญฺโญ
๑๗ เมษายน ๒๕๕๒

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 484 วันที่ 5 มิ.ย. 2552


ผลประโยชน์...สุข

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ความขัดแย้งในองค์กร

ความขัดแย้งในองค์กร


เปิดอ่าน 6,404 ครั้ง
อานิสงค์ของการรักษาศีล 5

อานิสงค์ของการรักษาศีล 5


เปิดอ่าน 6,402 ครั้ง
-นี่แหละ ผีไทย-

-นี่แหละ ผีไทย-


เปิดอ่าน 6,421 ครั้ง
เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน

เวลาเปลี่ยน...ใจคนเปลี่ยน


เปิดอ่าน 6,428 ครั้ง
"ทะเล"

"ทะเล"


เปิดอ่าน 6,425 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เรื่องลี้ลับ มช.ที่ไม่ได้มีแค่ ป็อก... ป็อก...ครืด!!!!!

เรื่องลี้ลับ มช.ที่ไม่ได้มีแค่ ป็อก... ป็อก...ครืด!!!!!

เปิดอ่าน 7,355 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
จองที่พัก
จองที่พัก
เปิดอ่าน 6,399 ☕ คลิกอ่านเลย

ขนมไทยแต่ละภาค
ขนมไทยแต่ละภาค
เปิดอ่าน 6,437 ☕ คลิกอ่านเลย

สติ เหนือกรรม...!!
สติ เหนือกรรม...!!
เปิดอ่าน 6,412 ☕ คลิกอ่านเลย

  Glitter และ  <บทกลอน >..."ท่านสุนทรภู่"
Glitter และ <บทกลอน >..."ท่านสุนทรภู่"
เปิดอ่าน 6,569 ☕ คลิกอ่านเลย

อ่านตนเองให้ออก บอกตนเองให้ได้ ใช้ตนเองให้เป็น
อ่านตนเองให้ออก บอกตนเองให้ได้ ใช้ตนเองให้เป็น
เปิดอ่าน 6,471 ☕ คลิกอ่านเลย

 กลอนธรรมะ น้อมคารวะ เดือนแห่งชาตกาลท่านพุทธทาส  หัวข้อที่ 13
กลอนธรรมะ น้อมคารวะ เดือนแห่งชาตกาลท่านพุทธทาส หัวข้อที่ 13
เปิดอ่าน 6,439 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กินพริกแล้วจะช่วยให้ลดความอ้วนได้หรอ?
กินพริกแล้วจะช่วยให้ลดความอ้วนได้หรอ?
เปิดอ่าน 18,397 ครั้ง

สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
สูตรลับการคูณแม่ 9 โดยใช้นิ้วมือทั้ง 10 นิ้ว(สุดยอดครับ)
เปิดอ่าน 38,043 ครั้ง

เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต
เปิดโผ 15 อาชีพที่กำลังจะสาบสูญไปในอนาคต
เปิดอ่าน 36,964 ครั้ง

โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง
โรคหอบจากอารมณ์...อันตรายที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 12,291 ครั้ง

วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
วิเคราะห์พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา มาตรา 63-69
เปิดอ่าน 64,938 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ