...ไม่ว่าบ้าน ไม่ว่าป่า ไม่ว่าที่ลุ่ม หรือที่ดอน
ท่านผู้ไกลกิเลสอยู่ที่ไหน ที่นั่นไซร้คือ...
สถานอันรื่นรมณ์ (พระพุทธพจน)
ปัจจุบันทุกประเทศต่างก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้สินค้ามีราคาแพง การส่งสินค้าไปขายต่างประเทศลดลง โรงงานสั่งปลดคนงาน หรือปิดโรงงาน ทำให้คนว่างงานเพิ่มขึ้น การทำมาหากินก็ฝืดเคืองอิทธิพลมืดนับวันแต่จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทำให้หาเงินได้ง่าย
ข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้เสียหายได้ขับรถยนต์ไปจอดในบริเวณสถานีขนส่ง เพื่อไปรับสินค้าที่ฝากมากับรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ หลังจากรับสินค้าแล้ว ระหว่างที่ผู้เสียหายจะขับรถยนต์ออกไป จำเลยที่ ๒ เดินเข้ามาเคาะกระจกรถพร้อมกับบอกให้ผู้เสียหายชำระค่าจอดรถ แต่ผู้เสียหายไม่ยอมชำระและขับรถออกไป
เมื่อขับรถออกไปใกล้จะถึงทางออก จำเลยที่ ๑ นำเก้าอี้มากั้นขวางทางออก ขณะเดียวกันจำเลยที่ ๒ วิ่งตามมา แล้วเคาะกระจกพร้อมกับพูดขู่ว่า "ให้จ่ายค่าจอดรถ ๒๐ บาท ถ้าไม่จ่ายจะตบ " โดยมีจำเลยที่ ๓ ยืนคุมเชิงอยู่บริเวณนั้น
ผู้เสียหายไม่ยอมและโทรศัพท์แจ้งเจ้าพนักงานตำรวจ หลังจากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจมายังที่เกิดเหตุและจับกุมบุคคลทั้งสามไปดำเนินคดี มีปัญหาว่าบุคคลทั้งสามดังกล่าว จะมีความผิดอาญาฐานใด?
ตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ มีองค์ประกอบดังนี้
๑. ข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้
๒. ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน
๓. โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือบุคคลที่สาม
๔. จนผู้ถูกข่มขืนใจย่อมเช่นว่านั้น
๕. ผู้กระทำต้องมีเจตนา
กรณีนี้ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่า...การที่จำเลยที่ ๒ พูดกับผู้เสียหายว่าถ้าไม่จ่ายค่าจอดรถจะตบ และจำเลยทั้งสามร่วมกันนำเก้าอี้ขวางกั้น มิให้ผู้เสียหายขับรถยนต์ออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุ ถือได้ว่า เป็นการขู่เข็ญข่มขืนใจผู้เสียหายให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินอันเป็นความผิดฐานกรรโชก
เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมให้เงินแก่จำเลยทั้งสาม การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงเป็นความผิดฐานพยายามกรรโชกทรัพย์ (ฏีกาที่ ๒๒๖๓/๒๕๕๑)
... อิทธิพลมืดยังมีอยู่ทุกที่ ทำให้คนดีต้องหวาดผวา ถ้าหากคนดีไม่กล้า อิทธิพลมืด และความหวาดผวาก็คงจะดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยอยู่ตลอดไป...