เมื่อเอ่ยถึง ?ถั่ว? หลายๆ คน โดยเฉพาะสาวๆ อาจส่ายหน้า เพราะเข้าใจว่าเจ้าถั่วเป็นตัวการทำให้อ้วน แต่ถ้าเป็นหนุ่มๆ เห็นทีจะตรงกันข้ามครับ ยิ่งเวลามีนัดสังสรรค์กันในหมู่เพื่อนฝูงแล้วล่ะก็ เมนู ?ถั่ว? นี้ล่ะ แทบจะขาดไม่ได้เลย
ว่าแต่ รู้ไหมครับแม้ถั่วจะมีปริมาณไขมันสูงก็จริง แต่ไขมันเป็นส่วนประกอบประมาณร้อยละ 80 ของพลังงานทั้งหมด
ที่น่าสนใจ ไขมันในถั่วนี้เป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเช่น กรดไลโนเลอิก (linoleic acid) และกรดโอลีอิก (olric acid) โดยกรดไลโนเลอิกมีหน้าที่สร้างความสมบูรณ์แก่ผิวหนัง ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ผิวหนัง ผม การควบคุมความดันโลหิต ระบบภูมิคุ้มกันระบบการแข็งตัวของเลือด และยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งยังมีน้ำมันโอเมก้า 3 ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ
ด้วยประโยชน์มากมายของถั่วที่ว่ามาทั้งหมดนี้ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาจึงแนะนำให้รับประทานถั่ววันละ 1 กำมือ เพื่อลดไขมันและคลอเรสเตอรอล
เอ้า! รู้จักประโยชน์ของถั่วกันขนาดนี้แล้ว ครั้งหน้าลองเปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวมาเป็นถั่วสัก 1 กำมือ กินเล่นๆ แต่ได้สารอาหารเพียบ
มารับประทานถั่วกัน
เมื่อพูดถึงถั่วคุณผู้หญิงส่วนหนึ่งจะไม่ชอบอาจจเนื่องจากทำให้เกิดก๊าซในท้อง หรืออาจจะกลัวอ้วนเนื่องจากถั่วจะมีปริมาณมาณไขมันสูงซึ่งความจริงไขมันเป็นส่วนประกอบสำคัญประมาณร้อยละ80 ของพลังงานทั้งหมด แต่ไขมันในถั่วเป็นไขมันไม่อิ่มตัว
ไขมันในถั่วเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เช่น linoleic และ linolenic acids ซึ่งมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต ผิวหนัง ผม การควบคุมความดันโลหิต ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการแข็งตัวของเลือด ไขมันในถั่งเป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน polpolyunsaturated fats และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดียว Monounsaturated fatsไขมันนี้จะเพิ่มระดับ HDL ซึ่งเป็นไขมันที่ดี ซึ่งป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยวิตามินอี(ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ) dietary fiber, magnesium, copper, phosphorus, potassium, selenium และ folate ปัจจุบันองค์การอาหารและยาของอเมริกาแนะนำให้รับประทานถั่ววันละ 1 กำมือเพื่อลดไขมัน cholesterol โดยทั่วไปถั่วจะมีผลดีต่อร่างกายดังนี้
- ไขมันในถั่วชนิดต่างไจะเป็นไขมันไม่อิ่มตัว หรือ Monounsaturated fats ซึ่งจะช่วยลดระดับ cholesterol
- ในถั่วจะมีน้ำมัน omega 3 ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหัวใจ
- ในถั่วจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่นวิตามินอี selenium ซึ่งป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- การรับประทานถั่วไใ่ทำให้คุณอ้วนเพิ่มขึ้น หากคุณรับประทานอาหารไม่เกิน
ประโยชน์ของถั่ว Almond
- การรับประทานถั่ว Almond จะเพิ่มระดับวิตามินอี ในกระแสเลือดซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
- การรับประทานถั่ว Almond อาจจะช่วยในการควบคุมน้ำตาลและไขมันให้ดีขึ้น
- การรับประทานถั่ว Almond จะช่วยลดไขมัน LDL ได้ถึงร้อยละ 35
- มีรายงานว่าการรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
ถั่วมีผลดีต่อโรคหัวใจ
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบมีสาเหตุจากพันธุกรรม และพฤติกรรม พฤติกรรมที่สำคัญได้ การออกกำลังกาย อ้วน และการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารหวาน มัน เค็ม แต่อาหารที่สามารถป้องกันโรคหัวใจโดยเฉพาะถั่ว เช่น ถั่ว almonds, walnuts, hazelnuts และ macadamias(ของไทยน่าจะมีการวิจัยว่าถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหินมะพรานมีประโยชน์หรือไม่)หากรับประทานประจำจะลดอุบัติการณ์ของโรคหัวใจได้ร้อยละ 30-50 ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากถั่วไปลดไขมันไม่ดี LDL เพิ่มไขมันที่ดี HDL และยังช่วยลดความดันโลหิต(Dash Diet)
ถั่วกับโรคอ้วน
แม้ว่าถั่วจะมีส่วนประกอบสำคัญคือไขมัน แต่การรับประทานถั่วโดยยึดหลักการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และกำหนดมิให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็น ทั้งนี้ ปริมาณไขมันที่มีในถั่ว fiber ที่อยู่ในถั่วจะทำให้คนที่รับประทานอาหารอิ่มไม่อยากรับประทานอาหารอื่น
มีการศึกษาถึงผลการรับประทานถั่ว Almond พบว่าการรับประทานถั่วนี้ไม่ทำให้น้ำหนักหรือระดับ cholesterol ในเลือดเพิ่มขึ้น เนื่องจากไขมันบางส่วนไม่ถูกดูดซึม
เราจะเพิ่มการรับประทานถั่วได้อย่างไร
การรับประทานถั่วมากพอประมาณจะช่วยป้องกันโรคดังกล่าว ดังนั้นการวางแผนรับประทานอาหารจำพวกถั่วจึงมีความจำเป็นทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้อ้วน
- เราอาจจะรับประทานถั่วเป็นอาหารว่าง
- เราจัดถั่วเป็นอาหารหมวดที่ให้โปรตีน ดังนั้นหากรับประทานอาหารพวกถั่วจะต้องลดพวกเนื้อสัตว์ลงตามส่วน
- ลดไขมันอื่นที่ไม่จำเป็น เช่นน้ำสลัดใช้อย่างใสที่มีไขมันต่ำ
- หลีกเลี่ยงของทอด
- หลีกเลียงกะทิ
ถั่ว Walnut และสุขภาพ
ผลการศึกษาถึงผลดีของถั่ว Walnut ต่อสุขภาพ
- มีรายงานผลดีของการรับประทานถั่ว Walnut ซึ่งตีพิมพ์ใน Circulation ซึ่งเป็นวรสารเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือดว่าการรับประทานถั่ว Walnut จะทำให้การทำงานของเซลล์เยื่อบุผิวหลอดเลือดทำงานดีขึ้น และยังลดการจับตัวของเซลล์ ผลทำให้เกิดโรคหลอดเลือดตีบลดลง
- องค์การอาหารและยาแนะนำว่าว่าการรับประทานถั่ว Walnut วันละ 1.5 (หนึ่งกำมือ)ออนซ์จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผลต่อโรคหัวใจ พบว่าการรับประทานถั่ว Walnutจะลดไขมัน LDL ซึ่งเป็นไขมันไม่ดีทำให้ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
- walnut เป็นแหล่งน้ำมันปลาที่มีคุณค่าพบว่าการรับประทาน walnut เพียงวันละ 1 กำมือก็จะให้ปริมาณ omega เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- ผลต่อนำหนักพบว่าผู้ป่วยที่ควบคุมน้ำหนักโดยการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำโดยการรับประทานถั่ว Walnut จะมีน้ำหนักลดลงดีกว่า
|