ตอนที่ สิบเก้า .. กุ ห ล า บ ป า ก ซั น ..
...เซียงขวง...
คำร้อง-ทำนอง-เป็นของศิลปินประเทศลาว...
เซียงขวงดินแดนวิมาน หนาวกายสะท้าน หนาวสั่นสะเทือน
ภูจงเป็นวงแสงเดือน ๆ เมฆน้อยลอยเลื่อนยามเมื่อคืนเดือนเพ็ญ
หนุ่ม-นางมักลอยวารี ลอยกลางนทีเปล่งราศีสวยเด่น
น้ำลิ่วไหลรินบ่เว้น ๆ ยามค่ำแลเห็นสาวเนื้อเย็นลงลอย
โอ้เซียงขวงนี่เอ๋ย อ้ายนี่บ่เคยเห็นไผงามหยดย้อย
เดี๋ยวนี้ธรรมชาติจอมดอย ๆ เช้าค่ำนั่งคอย ภูจ๋องวองงามตระการ
ไหหินมิ่งขวัญเซียงขวง สายลมหลล่วงป่วงให้อ้ายสุดฝัน ภูเวียงเป็นลายก่ายกัน ๆ
ให้อ้ายสุขสันติ์ กับความงามเซียงขวง
เป็นไงครับ ได้บรรยากาศของ ลาว ชัดเจนมั้ยครับ...มีกล่าวถึงภูจง ภูจ๊องวอง ภูเวียง ทุ่งไหหิน และชมความงามของ สาวลาวตอนลงเล่นน้ำครับ...ฮา...ทำนองก็ง่าย ๆ เรียบ ๆ เหมือนเพลงกุหลาบปากซัน ที่จารย์ฯ ชอบนั่นแหละครับ ผม เข้าใจว่าเคยฟังกัน ทุกท่านแล้ว (ยกเว้นคุณหลวงละเอียด...เพราะเพลงนี้มิได้มีการ แปลเป็นภาษาอั่งม๊อ)
ในส่วนของ หมอลำ นั้น ที่จารย์ เกริ่นไว้นั้นถูกต้องแล้วครับ เพราะหมอลำก็คือ การเล่น "ขับลำนำ" ของทางล้านนา (หมายถึงคนทางอีสาน-ลาว-ไทน้อย-ไทใหญ่-อาหม และเชื้อสายไต-ลาว ทั้งหมด) โดยการแต่งเป็นบทกลอนตาม ฉันทลักษณ์ของทางล้านนา (ซึ่ง จิตร ภูมิศักดิ์ เคยวิเคราะห์ไว้ว่าเป็นต้นกำเนิดของ โคลงสุภาพ ของทางภาคกลาง
เรานี่เอง) จากนั้นก็นำมาขับกับทำนองโดยมีเครื่องดนตรีคือ แคน เป็นตัวชูโรง ทางอีสาน นั้นหากใครเก่ง-เชี่ยวชาญ ด้านใดก็จะเรียกว่า หมอ เช่น หมอลำ หมอแคน หมอมวย หมองู หมอยา หมอเอ็น(เก่งทางบีบนวดเส้นเอ็น) เป็นต้น
หากพูดถึง หมอลำ ของทางอีสาน ก็ต้อง ฉวีวรรณ ดำเนิน/ บานเย็น รากแก่น ป. ฉลาดน้อย ฯลฯ...แต่ที่ดังระเบิด เถิดเทิงก็ต้อง พรศักดิ์ ส่องแสง เขาล่ะครับ จริง ๆ แล้ว พูดถึงความสามารถในการร้องลำทำเพลงเนี่ย คุณพรศักดิ์ ก็ไม่ได้เก่งกาจอันใด แถมยังเขียนกลอนลำไม่ได้ หรือได้ก็ไม่เก่ง เมื่อเทียบกับ เทพพร เพชรอุบล(หมอลำเก่า)
แต่คุณพรศักดิ์ แกเป็นคนที่ดัดแปลงหมอลำให้มีความเป็นสากล โดยการนำเอาดนตรี และหางเครื่องของวงลูกทุ่งมา ผสมผสานกับหมอลำได้อย่างลงตัว...ที่สำคัญคือเป็น การเอามาผสมผสานกับ หมอลำ นะครับ...ดาวบ้านดอน /เทพพร/ เพชรพิณทอง นั้นพยายามจะเป็นวงดนตรีลูกทุ่ง...แต่พรศักดิ์ พยายามเป็น วงดนตรีหมอลำครับ
....ที่สำคัญก็คือ เขานำเอากลอนลำที่เรียกว่า ลำเต้ย ซึ่งมีทำนองเด็ดดวง-เร้าใจมานำเสนอโดยใส่เครื่องดนตรีสากล เข้าไป...เท่านั้นแหละครับ...ฟ้าเมืองไทยก็ เรยย์รู้จัก ลำเต้ย ซึ่งเอร็ดอร่อย กลอนลำก็ออกมาเป็นกลาง ๆ เป็นการพูด ถึงชีวิต ของชนชั้นแรงงานที่ต้องการถีบตัวเองขึ้นเป็นชนชั้นกลาง และไปไม่ถึงดวงดาว มันก็สะใจไอ้หนุ่มอีสาน เท่านั้น เองครับ
...มีอย่างรึ คนบ้านนอกเหมือนกันดันรังเกียจ แต่ไปสะเออะใส่ไอ้หนุ่มกรุง...เป็นไงล่ะมึง...สมน้ำหน้านัก อี.Hาจิก...อะไรทำนองนี้แหละครับ
หลังจากนั้น ลำเต้ยก็ดังระเบิด...จินตรา...ศิริพร...และอื่น ๆ ก็ตามออกมาเป็น ดอกเห็ดไงครับ...กระทั่งวิถีชีวิตของ ชาวอีสานที่มาขายแรงงานกลายเป็นประเด็น ขึ้นมา...ไม้ค์ ภิรมพร ก็เกิดเท่านั้นเองครับ...ก็คนอีสานใน กรุงเทพเนี่ย... เกือบครึ่ง ละมังครับ...เรื่องมันก็เลเพ ลาดพาด ตามที่ผมมั่วมานั่นล่ะครับ...ฮา...ผิดถูกอย่างไร วานจารย์ ช่วยกระหน่ำ ด้วยนะครับ
ผมดีใจที่ขนาดจารย์ ยังรู้จัก พรศักดิ์ ส่องแสง แถมเคยดูเขาแสดงอีกต่างหาก ส่วนพี่ใหญ่ กับ พี่รองหลวงฯ ของพ้มนั้น เป็นคนกรุงเต้ป คงจะไม่กระสากลิ่นอายของหมอลำกระมังครับ...ถึงได้โหยหาลูกกรุง...ผมไม่ยอมนะครับคุณทิว ครับ...เป็นไงเป็นกัน หากไม่จบลูกทุ่งก่อน จะเหยียบแดนลูกกรุงล่ะก้อ...อ้ายเสมาสู้ถวายหัวแน่พระคุณ...ฮา
ด้วยความเคารพครับ...
คำขู ภู่ตอมดอก
สำหรับ เชียงขวางแดนงาม ผมหาต้นฉบับไม่ได้ขอเอาเพลงที่ไพเราะมากเหมือนกัน คุณอิสรา อนันตทัศน์ แห่งคนด่าน เกวียนเคยเอามาร้องบันทึกเสียง ดังมาก เป็นเพลงที่คุณ จาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี คนปัจจุบันของเราชอบ มาก ร้องทุกครั้งที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
..เพลง .... กุ ห ล า บ ป า ก ซั น .....ครับ
เป็นเพลงโบร่ำโบราญ รุ่นเดียวกับเชียงขวางแดนงาม นั่นเลยครับ ..ที่ท่านจะได้ฟังนี้ บันทึกเสียงปี 2536 เป็นเสียงของกลุ่มศิลปินชื่อ..คาวบอย 2 แผ่นดิน...มีหลายเสียง ที่เราท่านคุ้นๆนะครับ ลองสังเกตุดู
..........เชิญครับ..เชิญ.....
ทิว ทุ่งหลอแหล
|