ช่วงปิดเทอมใหญ่ที่ผ่านมา ลูกชายผมมีความสุขกับการพักผ่อนอยู่กับบ้านตลอดเกือบ 3 เดือนเต็ม เพราะไม่ได้ไปเรียนพิเศษที่ไหนกับใครเลย ชีวิตส่วนใหญ่จึงสนุกสนาน เล่นอยู่บ้าน อ่านหนังสือการ์ตูนโดเรมอนเป็นหลัก ถ้าเบื่อก็หยิบของเล่นมานั่งเล่นคนเดียว
วันหยุดก็ไปเที่ยวกับพอแม่ ไปกันสามคนพ่อแม่ลูก เจออะไรที่ไหน ผมก็สอนลูกโดยวิธีเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง ฝึกให้ลูกสังเกตโน่นนี่นั่น เจอข่าวเกี่ยวกับเด็กก็จะอ่านให้ลูกฟัง ดูข่าวทีวีก็ดูพร้อมกัน
ปกติลูกชายผมจะเข้านอนตอน 2 ทุ่มทุกคืน ยกเว้นตอนปิดเทอม คืนวันพุธขอนอนดึกหน่อยเพราะติดรายการทีวี "เกมซ่าท้ากึ๋น" ตอนนี้เปิดเทอมขึ้นป.2 แล้วต้องนอนหัวค่ำทุกวัน เลยไม่ได้ดูรายการโปรด
เปิดเทอมมามีข้อยกเว้นอีกแล้ว คืนวันศุกร์ขอนอนดึกเพราะชอบดูรายการ"กบนอกกะลา" ซึงผมก็อนุญาตเพราะเป็นรายการที่ดีมีสาระ และวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ไม่ต้องไปโรงเรียน ตื่นสายได้
ตั้งแต่เปิดเทอมมาได้ประมาณ 2 อาทิตย์นี้ ผมสังเกตว่าลูกชายหยิบการ์ตูนโดเรมอนเล่มเดิมที่มีอยู่ 4-5 เล่มมาอ่านซ้ำไปซ้ำไม่รู้เบื่อ อ่านไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จะหัวเราะเสียงดังเป็นช่วง ๆ
พักนี้ลูกชายผมจึงเป็นเด็กอารมณ์ดี มีอารมณ์ขันมากเป็นพิเศษ (ปกติก็ขำ ๆ อยู่แล้ว) แถมมีมุขตลก ๆ มีคำถามจาการ์ตูนมาทายพ่อแม่เป็นประจำ
ตอนกลางคืนก่อนนอนก็ไปหาหนังสือภาพ หนังสือนิทานของเด็ก ที่พ่อแม่เคยอ่านให้ฟังสมัยก่อน มาอ่านก่อนนอน ภรรยาผมก็สังเกตเห็นเหมือนกันว่าลูกชอบอ่านหนังสือการ์ตูนมาก จนเรียกว่าติดการ์ตูนเลยก็ว่าได้
เธอก็เลยออกไอเดียว่าไหน ๆ ลูกก็ชอบอ่านการ์ตูนอยู่แล้ว เราน่าจะหาการ์ตูนธรรมะที่แทรกเรื่องศีลธรรม จริยธรรมมาให้ลูกอ่านบ้าง
แล้ววันหนึ่งขณะที่ผมอยู่ในร้านหนังสือ กำลังมองหาซื้อหนังสือธรรมะของท่าน ว.วชิรเมธี อยู่ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งโดยบังเอิญ ที่หน้าปกเป็นรูปการ์ตูนของท่านว.วชิรเมธี ชื่อหนังสือว่า "ธรรมะ มหาสนุก" พิมพ์ครั้งที่ 5 แล้ว
พอรู้ว่าเป็นหนังสือที่ท่านว.ทำมาให้เด็กอ่านโดยเฉพาะ ผมก็ตัดสินใจซื้อทันที กลับมาถึงบ้านก็ยื่นหนังสือเล่มนี้ให้ลูกชาย และก็บอกว่าถ้าอ่านหนังสือเล่มนี้บ่อย ๆ โตขึ้นจะเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง และถ้าอ่านก่อนนอนก็จะทำให้นอนหลับฝันดีอีกด้วย
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาลูกชายผมติดหนังสือเล่มนี้มาก อ่านได้ตลอดเวลา มหัศจรรย์มาก ประหลาดใจสุด ๆ ที่ลูกชอบอ่านหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ และก็ดีใจไปกับท่านว.วชิรเมธี ด้วยที่ท่านทำในสิ่งที่ตั้งใจและประสบความสำเร็จ คือการปลูกฝังให้เด็ก ๆ ได้อ่านได้ซึมซับธรรมะจากการ์ตูน
ในหนังสือจะมีการ์ตูนสนุก ๆ ภาพสวย ๆ มีเรื่องราว มีบทสรุป แบบเด็กอ่านง่ายผู้ใหญ่อ่านดี แถมยังมีปุจฉาวิสัชนา ถามตอบปัญหาข้อสงสัยจากญาติโยม มาตอบในหนังสือเล่มนี้ด้วย
นี่เป็นบทพิสูจน์ว่าถ้าทำสื่อการสอนดี ๆ ธรรมะก็สามารถเข้าไปอยู่ในใจเด็กได้ ผมว่าท่านว.นี่เป็นนักการตลาดตัวยงเลยครับ ท่านเข้าใจว่าลูกค้าว่าชอบอะไร ท่านก็นำเสนอธรรมะให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า เด็กชอบอ่านการ์ตูน ท่านก็นำเสนอธรรมะผ่านการ์ตูนในรูปแบบที่เด็กชอบ
ท่านทำให้ธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัวเด็ก ผมสังเกตการวางรูปเล่ม สีสัน และขนาดของหนังสือ ผมว่ามีลักษณะคล้าย ๆ การ์ตูนขายหัวเราะ หรือการ์ตูนมหาสนุกมากเลยครับ แต่สิ่งที่แตกต่างกันมาก ๆ คือเนื้อหาสาระที่เน้นเรื่องราวธรรมะ
และที่ไม่มีในหนังสือเล่มนี้แน่ ๆ คือภาพผู้ชายติดอยู่บนเกาะมีต้นมะพร้าวกับสาวหนึ่งนาง ท่านจะไม่ได้เห็นรูปภาพการ์ตูนผู้หญิงใส่เสื้อผ้ารัดรูป นุ่งกระโปรงสั้นจุ๊ดจู๋ เหมือนในหนังสือการ์ตูนสองเล่มนั้น
ที่เล่ามาทั้งหมดนี่ก็เพียงอยากเชิญชวนท่านผู้อ่านที่มีลูกมีหลาน ให้ไปหาหนังสือ "ธรรมะ มหาสนุก" มาให้ลูกหลานท่านอ่านกัน รับประกันความสนุกสนานและได้หลักธรรมคำสอนมาแบบเนียน ๆ ไม่ยัดเยียด
ผมอยากให้เด็กไทยทุกคนได้อ่านการ์ตูนของท่านว. เล่มนี้มาก ๆ เลยครับ
|