เริ่มทำงานในวงการดนตรีกับวงดนตรีท้องถิ่นในจังหวัดราชบุรี ภายหลังจึงเข้ามาเล่นดนตรีกับ วง ดิ อินโนเซ้นท์ ตั้งแต่ปี 2525
ภายหลังได้เข้าร่วมงานกับบริษัทแกรมมี่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ในฐานะ นักแต่งเพลง และ โปรดิวเซอร์ โดยการชักชวนของ พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ จนได้สร้างสรรค์ผลงานให้กับวงการเพลงมากมาย
ในปี พ.ศ. 2541 เป็นผู้จัดตั้งบริหารค่ายเพลง อาร์ พี จี ในสังกัดบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน )
ต่อมาได้ลาออกมาจัดตั้งบริษัท คราฟท์แมน เรคคอร์ด ร่วมกับเพื่อนๆ และปัจจุบันได้ออกมาเป็นศิลปินเบื้องหน้าเต็มตัวอีกครั้ง โดยสร้างสรรค์ผลงานเพลงชุดแรกของตนเองในชื่อชุด Into the Light
ดิ อินโนเซ็นท์ (The Innocent)
เป็นวงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นไทยในยุค ค.ศ. 1980 มีสมาชิกอย่างสายชล ระดมกิจ ร้องนำ, ชาตรี คงสุวรรณ (โอม) กีต้าร์/ร้องนำ, พีรสันติ จวบสมัย (สัน) คีย์บอร์ด, เสนีย์ ฉัตรวิชัย (ปื๊ด) เบส โดยมีผลงานในช่วงระหว่างปี 2523 - 2532 กับสังกัดนิธิทัศน์โปรโมชั่น
ประวัติ
ดิ อินโนเซ้นท์ ตั้งวงโดยเด็กวัยรุ่นชาวจังหวัดราชบุรีโดยมีแกนหลักคือ พีรสันติ จวบสมัย, สายชล ระดมกิจ และ สิทธิศักดิ์ กิจเต่ง ในช่วงเริ่มต้นเล่นเพลงโฟลค์ซองเข้าประกวดตามงานต่างๆ ต่อมาได้บันทึกเสียงอัลบั้มชุด รักไม่รู้ดับ เป็นแนวโฟลค์ซอง อัลบั้มต่อมา ขวัญใจนักเรียน เริ่มปรับแนวทางของวงเป็นลักษณะแบนด์เต็มตัว มีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ สอบตก และ เสียงจากแม่กลอง หลังเทปชุดนี้ สิทธิศักดิ์ (เบสและร้อง) สมาชิกร่วมก่อตั้งได้ลาออกจากวง ต่อมาภายหลังเขาได้ตั้งวง Success มีอัลบั้มออกมากับทางนิธิทัศน์หนึ่งชุดโดยมีเพลง รักมั่นคง ที่ได้รับความนิยมพอสมควร หลังจากนั้น ชาตรี คงสุวรรณ และ เสนีย์ ฉัตรวิชัย เข้าร่วมวงในปี 2525 ทำให้ศักยภาพของทางวงสูงขึ้น
อยู่หอ คืออัลบั้มที่มีเพลงดังอย่าง เพลง อยู่หอ และ มนต์ไทรโยค วิทยา ศุภพรโอภาส นักจัดรายการวิทยุรายการ เพลงไทยสบายอารมณ์ ตั้งฉายาให้กับทางวงว่า ขวัญใจนักเรียน ซึ่งมาจากชื่อเทปชุดที่สอง ทั้งนี้เพราะสอดคล้องกับเนื้อหาและบุคลิกภาพของทางวงในช่วงนั้น
เพียงกระซิบ งานชุดต่อมาเป็นงานที่มีพัฒนาการทางด้านดนตรีขึ้นอย่างมาก วงการดนตรีเริ่มจับตาดูฝีมือการเล่นและการเรียบเรียงดนตรีของทางวง และต่อมากับอัลบั้ม รักคืออะไร และ โลกใบเก่า ดิ อินโนเซ้นท์ เริ่มทดลองสอดแทรกงานดนตรีแนวอาร์ทเข้าไปด้วยในขณะที่เพลงโปรโมทก็เป็นป็อปแต่เป็นป็อปแบบไม่ได้เอาใจตลาด ทำให้ทางวงไม่ได้แฟนเพลงกลุ่มใหม่ๆเพิ่มขึ้นมากนัก
ในปี 2529 ไก่ (เกียรติศักดิ์) มือกลองของวงได้ลาออกไป ทางวงไม่ได้หาสมาชิกใหม่เข้ามาเสริม การบันทึกเสียงในห้องอัดในชุดต่อมาใช้ดรัมแมชชีนแทน ส่วนตอนออกแสดงสดก็ให้นักดนตรีอาชีพมาช่วยเสริม ครั้งนี้ของพี่กับน้อง ออกมาในปี 2529 โดยได้ อุ้ย (วรสิทธิ์) เข้ามาเป็นนักร้องนำร่วมกับสายชล และเพลง ฝากรัก ที่เขาเป็นผู้ขับร้องกลายเป็น one hit wonder ของตัวเขาไปด้วย ทั้งชาตรี,พีรสันติและเสนีย์ถูกดึงตัวไปทำเพลงให้กับศิลปินหลายคน โดยชาตรีได้รับการทาบทามจาก ดนุพล แก้วกาญจน์ (Ex-Grand Ex’) ให้เข้าร่วมในวงดนตรีเฉพาะกิจชื่อวง พลอย
นอกจากนี้ เรวัต พุทฺธินันทน์ ยังดึงเขาเข้าไปร่วมเล่นในคอนเสิร์ท ปึ้กกก์...! ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีครั้งประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งของวงการดนตรีไทย ซึ่งตรงนี้เป็นจุดเชื่อมให้ชาตรีเข้าไปทำงานกับทางแกรมมี่ในภายหลัง 10 นาฬิกา เป็นอัลบั้มชุดสุดท้ายโดยเว้นห่างจากอัลบั้มก่อนหน้าถึง 3 ปี หลังจากผลงานชุดนี้สมาชิกก็ยุบวงแยกย้ายกันไปทำงานด้านการผลิตเพลงให้กับศิลปินไทยในยุค 90 จนถึงปัจจุบันและสมาชิกก็มีผลงานออกมาในหลายลักษณะ
ต่อมา สายชล ระดมกิจ หนึ่งในสมาชิกของวง ได้กลับมาทำอัลบั้มเดี่ยวในสังกัดเบเกอรี่ มิวสิค โดยนำผลงานเพลงเก่าของวง ดิ อินโนเซ็นท์ มาทำใหม่ โปรดิวซ์โดย บอย โกสิยพงษ์ ในอัลบั้มชุด "A Touch of the Innocent" (ปี พ.ศ. 2539) และต่อมาได้ออกอัลบั้มเดี่ยวอีกหนึ่งชุด แต่เป็นการนำเพลงเก่าในสังกัดเบเกอรี่ มิวสิค มาทำใหม่ โดยได้ พีรสันติ จวบสมัย มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ ในอัลบั้มชุด "Portrait of the Innocent" (ปี พ.ศ. 2541)