จะหนุ่มจะแก่ก็ทำนวัตกรรมได้
หลายๆ คนในปัจจุบันยังคงนึกว่าการทำนวัตกรรมนั้นเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เถ้าแก่ ป.4 บอกว่าจะให้อั๊วมาทำนวัตกง นวัตกำ ให้มันเป็นเวรเป็นกรรมไปทำไม อั้วก็ทำของอั้วมาอย่างนี้ตั้งแต่รุ่นอากง อาเตี่ยแล้ว สุขสบายดีไม่เห็นเดือนร้อน อั้วเรียนมาน้อยทำได้แค่นี้ มีปัญญาแค่ส่งลูกไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เล็กก็เท่านั้น
เถ้าแก่รายนี้บอกว่า นวัตกรรมมันเป็นเรื่องของคนมีความรู้ มีแต่บริษัทใหญ่ๆ เขาทำกัน ส่วนของแกก็ทำๆ ลอกๆ เขาเอา อาศัยต้นทุนต่ำ คอนเน็กชั่นดี ซัพพลายเออร์รู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อ แล้ว เนี่ยรุ่นลูกก็เลยจับมันหมั้นกันเสียให้เป็นทองแผ่นเดียวแผ่นใหญ่ๆ ด้วยกัน
หากจะมาเซ้าซี้ให้แกทำนวัตกรรม เถ้าแก่บอกว่า อั้วคงจะซี้ม่องเท่งเสียก่อนละสิ
เรื่องของเรื่องคือ เถ้าแก่แกจะบอกว่าแก่ปูนนี้แล้วคิดอะไรใหม่ๆ ไม่ไหว แค่ประคองตัวให้ธุรกิจไปได้ในยุคตกสะเก็ดแบบนี้ก็บุญท่วมหัวแล้ว ใจนะอยากจะเปรี้ยวอยู่หรอกแต่สังขารไม่ให้ รอไอ้ตี๋จบเอ็มบีเอจากเมืองนอกมาก่อน แล้วเดี๋ยวจะยกสมบัติให้อี ส่วนอั้วจะไปอยู่กับเมียน้อยให้สบายใจแล้ว
เจ้าเรื่องนวัตกรรมนี่ มีคนเข้าใจผิดอยู่มากว่า เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาว กระฉับกระเฉง มีความรู้เยอะ ร่ำเรียนสูงๆ หรืออยู่บริษัทใหญ่ๆ ทั้งหมดนี้ก็เป็นความเข้าใจที่ดูเผินๆ ก็อาจจะนึกว่าจริงแหะ มันน่าจะเป็นอย่างนั้นนะ
จริงๆ แล้วอายุมันไม่เกี่ยวหรอกครับ จะหนุ่มจะแก่ จะสาวจะเหี่ยว ก็ต่างทำนวัตกรรมได้ทั้งสิ้นถ้ารักที่จะทำ ดูอย่างคุณตัน โออิชิสิ แกขยันสรรหาของใหม่ๆ มาให้ลูกค้าบริโภคควักสตางค์อย่างสม่ำเสมอ เซอร์ริชาร์ด แบรนด์สัน เจ้าของกลุ่มบริษัทเวอร์จิ้นแห่งเกาะอังกฤษ ก็อายุไม่ใช่น้อยๆ นะครับ ปาเข้าไป 57 แล้ว ลูกๆ ก็โตกันหมด แกยังได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลกว่าเป็นเถ้าแก่ที่มีหัวใจนวัตกรรมอย่างแท้จริง ทั้งๆ ที่ตัวแกเองก็ไม่ได้ร่ำได้เรียนมาสูงส่งอะไร จบแค่ไฮสคูล อายุ 16 ก็ออกมาหากินตัวเป็นเกลียว ชีวิตผู้ประกอบการแกก็เริ่มมาแต่บัดเดี๋ยวนั้น
จนวันนี้แกเป็นเจ้าของธุรกิจไฮเทคมากมายทั้งสายการบิน โทรคมนาคม สื่อสาร บันเทิง ท่องเที่ยว โรงแรม ฯลฯ แล้วยังงี้จะมาบอกว่า ป๋าแก่แล้ว อยู่เฉยๆ ได้ยังไง คนเราจะหนุ่มจะเหี่ยวมันวัดกันที่หัวใจใช่ตีนกา (จะบอกให้)
บ้านเราก็มีคล้ายๆ กันเป็นฝรั่งสัญชาติไทยชื่อ วิลเลียม ไฮเนกี้ เจ้าของกลุ่มไมเนอร์กรุ๊ป ที่สร้างแบรนด์เดอะ พิซซ่า จนโด่งดัง ทำทั้งธุรกิจอาหาร ไอสครีม ฟาสต์ฟู้ด แฟชั่น และโรงแรม แกก็จบแค่ไฮสคูลเป็นพวกสำเภาเดียวกัน คือไม่รักดีในห้องเรียน ไปรักจั่วรักเสาขยันทำมาหากินจนรวยกว่าคนที่เรียนจบสูงๆ นับไม่ถ้วน
คนแบบนี้ไม่ใช่มีน้อยๆ นะครับ หลักๆ ก็บรรดาขุนพล SME ทั้งหลายที่กระทรวงอุตสาหกรรมเขาบอกว่ามีมากกว่า 2 ล้านสถานประกอบการกันเลยเชียว กลุ่มนี้มีอายุอานามที่หลากหลายมากครับ สรรพคุณก็หลากหลายตั้งแต่อุตสาหกรรมในครัวเรือนส่งขายตลาดนัดประจำอำเภอ ยันอุตสาหกรรมโกอินเตอร์ส่งออกไปต่างแดน สรรพวิชาของเถ้าแก่และอาซ้อ SME ก็มีแตกต่างกันไปตั้งแต่สืบทอดวิทยายุทธ์มาจากปู่ย่าตายาย จนกระทั่งเรียนจบด็อกเตอร์แต่มองเห็นช่องทางทำกินเลยมาจับธุรกิจจนร่ำรวย
หากรักจะสร้างนวัตกรรมด้วยตนเองมันก็ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความตั้งใจจริงหรอกครับ อย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงตรัสให้คนไทยขยันหมั่นเพียรนั่นเอง หากคิดว่าจะทำนวัตกรรมแล้วแค่ความคิดหรือพูดอย่างเดียวมันก็แค่โก้ๆ แต่ไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง ความคิดดีๆ ไม่พอหรอกครับ สิ่งที่จะทำให้นวัตกรรมเกิดได้อย่างแท้จริงก็คือ ความเพียรพยามยามอย่างหนัก และที่สำคัญคือ ต้องทำด้วยความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ จะรู้น้อยไปบ้างหรือรู้ยังไม่พอก็ขอให้อาศัยความมานะบากบั่นกันไป เรื่องนวัตกรรมนี้ทำแล้วเหนื่อยแน่ๆ เพราะมันเป็นการสร้างจุดยืนใหม่ให้ตัวเอง สักวันหนึ่งต้องเป็นของเรา
ดูอย่างคุณเฉลียว อยู่วิทยา สิครับแกเป็นคนพิจิตร เป็นคนจีนไหหลำ เกิดมายากจน เคยเลี้ยงเป็ด ขายยา เป็นเซลส์แมน จากนั้นขยับมาตั้งโรงงานผสมยาอยู่หลังโรงแรมรัตนโกสินทร์ แล้วตั้งบริษัท ทีซีมัยซิน ช่วงแรกผลิตแป้งเด็ก ยาเด็กเบบี้ดอล ก่อนจะมาถึงเครื่องดื่มกระทิงแดง ตีตลาดเมืองไทยและต่อยอดไปต่างประเทศ จนเศรษฐีออสเตรียต้องเจรจาขอร่วมทุนผลิตในยุโรปด้วยชื่อแบรนด์ เรดบูล ลองคิดดูว่าโกเหลียวแกจะเหนื่อยขนาดไหนกว่าจะเดินทางมาจนถึงวันนี้
ถ้าอยากมีกำลังใจที่ดี ลองทบทวนคำคมของพระพยอมเพื่อเป็นกำลังใจดูครับ “ขยันให้เหงื่อออกทางขุมขน ดีกว่าขี้เกียจแล้วยากจน จนน้ำล้นออกทางตา”