สวัสดีค่ะพี่ๆชาว MBlog ...พี่ๆชอบดูทีวีกันไหมค่ะ ? หนูอุ่มชอบดูทีวีมากๆเลยค่ะ พอหนูอุ่มดูเสร็จนะ หนูก็ไม่ลืมที่จะถอดปลั๊กไฟ เพื่อเป็นการประหยัดไฟด้วยล่ะคะ แต่เอ๋....พี่ๆทราบไหมค่ะว่าทีวีรุ่นไหน จอแบบไหน กินไฟมากกว่ากันน้า หนูมีคำตอบค่ะๆ
จอทีวีที่วางขายปัจจุบันแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 3 ประเภทค่ะ ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันตามนี้ค่ะ
CRT
ข้อดี
-ดูทีวี ภาพคมชัดที่สุด
-โดยมากจะมีขนาดไม่เกิน 29" จึงทำให้กินไฟน้อยกว่า เมื่อเทียบกับจอ LCD และ PLASMA ที่นิยมขนาดใหญ่ตั้งแต่ 32" ขึ้นไป (จอ CRT 29" กินไฟ 100-160 W.)
-ราคาถูกกว่า LCD และ PLASMA
-อายุการใช้งานนาน ใช้กันไม่ต่ำกว่า 10 ปี อาจเจ๊งเร็วกว่าขึ้นอยู่กับความโหดในการใช้งาน
ข้อเสีย
-ร้อนมาก อาจทำให้ห้องอุณหภูมิสูงขึ้นถึง 5 องศา ถ้าเปิดแอร์ก็เปลืองไฟมากขึ้นค่ะ
-จอภาพอาจไหม้ได้ ถ้าเปิดภาพเดิมแช่ไว้นานๆ
-หนักมาก และหลังตุงทำให้เสียเนื้อที่จัดวาง ดูไม่เท่ห์
*นอกจากนี้ยังมีจอ CRT รุ่นใหม่ที่ดีไซน์บางลงเยอะมากๆ แต่ยังหนากว่า LCD และ PLASMA เช่นของซัมซุงรุ่น Slimfit ที่เคยเห็น ขนาดจะอยู่ที่ 32" ทีวีประเภทนี้ ลดจุดด้อยเรื่องความหนา แต่ยังคงคุณสมบัติ ดูทีวีคมชัด กินไฟปานกลางค่ะ
LCD
ข้อดี
-บาง สวย มีสไตล์
-กินไฟน้อยกว่า CRT และPLASMA แต่เพราะความนิยมจอแอลซีดีขนาดใหญ่ มากกว่า 32" ขึ้นไป ทำให้มันกินไฟเยอะกว่า CRT ซึ่งนิยมใช้จอเล็กกว่า ( จอ LCD 42" กินไฟ 220-280 W. แต่ถ้าเป็นจอคอมพ์ล่ะก็ LCD ประหยัดไฟกว่า CRT 40-60% เชียวนะ!)
-เวลาเปิดไม่ร้อน ไม่เพิ่มอุณหภูมิห้อง
-เปิดภาพแช่ไว้ จอไม่ไหม้
-อายุการใช้งาน ประมาณ 60,000 ชั่วโมง จัดว่าดีพอสมควร
-ตอนนี้ราคากำลังถูกลง
ข้อเสีย
-ดูทีวีภาพไม่คมชัด เอาซะเลย เหมาะจะดูพวก DVD ซะมากกว่า
PLASMA
ข้อดี
-สวย บาง มีสไตล์ ประหยัดเนื้อที่
-เหมาะกับผู้ที่ต้องการจอขนาดใหญ่ๆๆ นิยมใช้ขนาด 50 - 60 นิ้ว
-ภาพคม สวย ไม่ว่าจะดู TV หรือ ดู DVD
ข้อเสีย
-กินไฟมากที่สุด โลกร้อนสุด เช่น จอ 42" กินไฟ 340-400 W.
-จอร้อน เพิ่มอุณหภูมิห้อง
-เปิดภาพแช่ไว้ จอไหม้ได้ เหมือน CRT
-อายุสั้น ประมาณ 30,000 ชั่วโมง
ข้อดีข้อเสียของแต่ละชนิดนี่แตกต่างกัน การเลือกใช้ก็เลือกใช้ตามการใช้งานที่ให้ประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญต้องไม่เปลืองไฟด้วยค่ะ
ขอบคุณ คุณJeed ค่ะ
เขียนโดย greenmblog ที่ 2009-05-19 13:51:46 น. 1 ความคิดเห็น