ยอมรับกันตรงๆ เถอะว่าการเจรจาตกลงทางธุรกิจและการขายนั้นเป็นงานที่ยากไม่ใช่ย่อย และจะยากยิ่งขึ้นไปอีกหากคุณต้องใช้ภาษาต่างชาติในการติดต่อ และบ่อยครั้งที่ถ้าภาษาอังกฤษถูกใช้อย่างผิดๆ อาจก่อให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกว่าผู้พูดนั้นกำลังก้าวร้าวเขาหรือกำลังผลักดันเกินความพอดี ซึ่งอาจตัดโอกาสที่จะทำให้การเจรจานั้นเป็นผลสำเร็จก็ได้ อย่าปล่อยให้ภาษาอังกฤษเป็นจุดอ่อนของคุณ มาเพิ่มพูนทักษะการขายของคุณด้วยข้อแนะนำต่อไปนี้ แล้วทำการเจรจาตกลงนั้นให้เป็นผลสำเร็จกันดีกว่า!
ใช้คำว่า "you"
ในการเจรจากับลูกค้า พยายามเริ่มประโยคของคุณด้วยคำว่า you หรือ your แล้วคุณจะดึงความสนใจของเขาได้เร็วและเป็นผลมากกว่าคำขึ้นต้นอย่าง "I think…" หรือ "Let me tell you about…" เพราะมันแสดงให้เห็นว่าจุดสนใจอยู่ที่เขาไม่ใช่คุณ อย่างเช่น "You'll find that your English improves very rapidly when you study at Englishtown!"
แถมอะไรเป็นพิเศษเข้าไป
ทุกคนต่างก็ชอบความรู้สึกที่ว่าตัวเองได้รับของกำนัลฟรีด้วยกันทั้งนั้น! ถ้าเป็นไปได้คุณควรเพิ่มอะไรลงไปเป็นพิเศษในการเจรจาตกลงทางธุรกิจเพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนพิเศษ ใช้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วย "If you buy now, I can…" และ "If we sign the deal soon, I can…" เพื่อเป็นการกระตุ้นและผลักดันให้ลูกค้าตกลงรับข้อเสนอเร็วขึ้น อย่างเช่น "If you sign up for Englishtown today, you can get one week free!"
เสนอหลักฐานพิสูจน์ให้ดู
บางครั้งลูกค้าก็ไม่อยากเชื่อว่าพนักงานขายจะพูดความจริง และหลายครั้งบริษัทคู่ค้าที่กำลังเจรจาตกลงทางธุรกิจมักจะไม่อยากเชื่อใจกันสักเท่าไหร่ แต่มันสำคัญมากที่คุณต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกไว้วางใจและเชื่อถือในสิ่งที่คุณพูด ฉะนั้นคุณต้องหาหลักฐานที่พิสูจน์ว่าคุณภาพของสิ่งที่คุณกำลังเสนอนั้นดีจริง เริ่มด้วยการกล่าวว่า "Don't just take my word for it." หลังจากนั้นต่อด้วยข้อเสนอหลักฐานการพิสูจน์สนับสนุนการยืนยันของคุณ อย่างเช่น "Look at what these other people have to say." หรือ"Look at the rate of success. The numbers speak for themselves." และถ้าลูกค้าของคุณสามารถลองใช้สินค้าหรือบริการของคุณก่อนก็จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เช่น "Why don't you try out Englishtown yourself by signing up for a free trial?"
ใช้คำถามให้เป็นประโยชน์
เมื่อลูกค้าของคุณเริ่มลังเลใจ อย่าเปลี่ยนแปลงข้อเสนอดั้งเดิมแต่อย่าสร้างความกดดันให้เขา ในกรณีนี้สิ่งที่คุณควรทำคือพยายามฟังว่าลูกค้าต้องการอะไร ถามเขาด้วยคำถามที่ช่วยให้เขาให้คำตอบกับคุณอย่างจริงใจ เช่น "What concerns do you have?", "What's holding you back?" หรือ "What's stopping you from signing up for Englishtown today?" ลูกค้าของคุณจะพอใจและตระหนักว่าคุณใส่ใจอย่างจริงจังถึงได้รับฟังอย่างจริงใจ
เต็มใจที่จะประนีประนอม
สุดท้าย หลังจากที่ลูกค้าบอกให้คุณทราบถึงสิ่งที่เขากำลังข้องใจหรือกังวลอยู่ คุณต้องเต็มใจที่จะยอมประนีประนอมและให้ในสิ่งที่เขาเรียกร้องบ้าง ใช้สำนวนอย่างเช่น "We'll lower the price, if you agree to pay cash." และ "We're prepared to make this deal exclusive, providing you sign a 10-year contract with us."
ขอบคุณแหล่งข้อมูล :: http://englishtown.msn.co.th