Advertisement
8 วิธีทำใจให้ “รัก” งานน่าเบื่อ
วันนี้นำบทความ "8 วิธีทำใจให้ “รัก” งานน่าเบื่อ" ของคุณพรเพ็ญ บำรุงสิน มาฝากค่ะ เห็นมีสาระดี ลองอ่านดูนะคะ....
“หากไม่ได้ในสิ่งที่รัก จงรักในสิ่งที่มี” ..คำกล่าวนี้ใช้ได้กับทุกสิ่งรวมถึงงานที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้ด้วย นี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณทนกับงานที่ไม่ชอบไปวัน ๆ แต่เราจะแนะนำวิธีการที่จะทำให้คุณอยู่กับสิ่งที่ “คิดว่า” ไม่ชอบ ได้อย่างมีความสุขที่สุด พร้อม ๆ กับเตรียมตัวเองให้พร้อมก้าวไปสู่งานในฝันของคุณได้ดีที่สุดต่างหาก
มาดูกันว่ามีหนทางอะไรที่คุณจะทำได้บ้าง
1.จากที่เคยหมกมุ่นอยู่กับ “สิ่งที่ทำ” ให้เบนความสนใจไปที่ “วิธี” การทำงานแทน
พวก เราส่วนใหญ่มักคิดว่าความพอใจในอาชีพการงานนั้น มาจากการที่เราสามารถหางานดี ๆ ได้ แต่จริง ๆ แล้ว การคิดแบบนี้เป็นแค่การคาดหวังเท่านั้น เหมือนอย่างที่โบราณท่านว่า..ยังไม่เห็นน้ำก็รีบตัดกระบอก ยังไม่เห็นกระรอกก็รีบโก่งหน้าไม้นั่นแหละ
ในความเป็นจริง ก่อนที่คุณจะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คุณต้องทำตัวเองให้เหมาะกับงานนั้นเสียก่อน ลองหลับตานึกภาพตัวเองกับงานในฝันดูซิว่าตัวคุณควรเป็นอย่างไร ....มีแรงบันดาลใจ, ความอดทนในงาน, เก่งการจัดการ หรือว่าต้องมีความมั่นใจ
สิ่งเหล่านี้เองที่คุณต้องเริ่มจัดการ ตั้งแต่ตอนนี้ จัดการให้ตัวเองเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับงานที่คุณอยากทำ แล้วค่อยคิดถึงการลาออกไปงานที่น่าเบื่อไปสู่อาชีพในฝัน
2. หาที่ปรึกษา
มี บ้างไหม ใครสักคนที่คุณรู้สึกว่าน่าเคารพ และมีวิธีการทำงานน่าสนใจ น่าเข้าไปเรียนรู้งานด้วยเหลือเกินการที่คนคนหนึ่งประสบความสำเร็จ และมีความสุขในการทำงาน นั่นหมายถึงว่าเขาต้องมี “วิธี” การคิด และจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่ดี ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับคุณได้ และยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถที่จะเป็นผู้ช่วยในการแนะนำและช่วยชี้หนทาง ที่จะไปสู่เป้าหมายของคุณได้ด้วย แม้ว่างานที่เขาทำอาจไม่ได้เหมือนหรือเกี่ยวข้องกับงานในฝันของคุณเสียที เดียว
ความสำคัญอยู่ตรงวิธีการทำงานของเขาต่างหากที่คุณควรเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง
3. แมท (Match) ความสามารถที่มีกับงานที่ทำอยู่เข้าด้วยกันให้ได้
คน เบื่องานหลายคนบอกว่า สาเหตุที่เบื่องานเหลือเกินก็เพราะมองว่าตัวเองไม่ได้ใช้ความสามารถที่มีใน งานที่ทำอยู่ หากคุณคิดว่าตัวเองอยู่ในข่ายนี้ ลองมาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้าง ก่อนอื่น คุณต้องหาให้ได้ก่อนว่าตัวคุณน่ะมีจุดดีจุดเด่นตรงไหนบ้าง แล้วค่อยมองไปถึงคุณสมบัติของคนที่บริษัทของคุณต้องการอยู่ในตอนนี้ หรืออาจจะมองล่วงหน้าไปถึงแนวโน้มในอนาคตด้วย เพราะนั่นจะทำให้คุณสามารถเข้าร่วมชิงชัยงานดี ๆ ในสนามแข่งได้ (หากว่ามันจะมีขึ้นมา)
เท่านี้ยังไม่พอ คุณต้องแสดงให้คนที่มีอำนาจตัดสินใจได้เห็นคุณสมบัติที่ดี ๆ ของคุณด้วย ตรงนี้อาจต้องคิดถึงวิธีนำแสนอที่สร้างสรรค์ และพยายามมากสักหน่อย แต่ขอบอกว่าผลที่ได้รับกลับมานั้นคุ้มแน่นอน เพราะมันหมายถึงว่าคุณจะได้ทำงานในตำแหน่งที่ตรงกับความสามารถของตัวเอง แถมยังเหมาะเหม็งกับงานของบริษัทเสียด้วย... เรียกว่ายิงนัดเดียวได้นกสองตัวเชียวละ
4. หาข้อบกพร่องของตัว แล้วแก้ไขซะ
ปฎิ บัติการ “Job Improvement” จะราบรื่นขึ้น หากคุณยอมรับว่าคุณอาจไม่ใช่พนักงานที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม แต่ใครเล่าจะดีไปหมดทุกอย่าง
ที่สำคัญ..อย่าเสียเวลาโทษคนอื่นอยู่ เลย มาดูซิว่าตัวเองมีข้อบกพร่องอะไร โดยเริ่มจากสิ่งที่คุณน่าจะแก้ไขได้ และจะช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้นก่อน เช่น ปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน, เปลี่ยนตัวเองจากคนที่เคยเข้าประชุมสายให้เป็นคนที่ไปถึงก่อนคนอื่น ฯลฯ
ถ้า ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจ้านายเข้าขั้นวิกฤติ มาดูกันซิว่าคุณเป็นคนที่ทำให้เหตุการณ์มันเลวร้ายลงไปบ้างหรือเปล่า เช่น เวลาที่เจ้านายเกิดกังวลเรื่องงานที่คุณทำ คุณตอบสนองเขาแบบไหน, คุณคอยรายงานความคืบหน้าของงานให้เขารับรู้บ้างไหม ฯลฯ
แต่บาง ครั้งข้อบกพร่องที่ว่าอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณทำผิดพลาดไป หรืออะไรทำนองนัน แต่อาจเป็นประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้านหรือความมั่นใจ ซึ่งไม่ว่าคืออะไร สิ่งที่คุณพยายามปรับปรุงในตอนนี้มันจะติดตัวคุณไปตลอด และช่วยให้คุณได้งานดี ๆ แน่นอน
5. ป่าวประกาศความดีของตัวเองเสียบ้าง
เหตุผล หลักข้อหนึ่งที่มักทำให้คนเราเบื่องาน คือ การที่ทำความดีแล้วไม่มีใครเห็น ไม่มีคนให้ความสำคัญ แต่ในหลาย ๆ สถานการณ์ หากคุณไม่บอกใคร ๆ ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะคุณ คงยากที่จะให้ใครมองเห็นได้เอง
การ ทำแบบนี้จะว่าไปก็เป็นเรื่องยากพอดู แต่เกจิทั้งหลายกล่าวตรงกันว่า “คนที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่ไม่ได้นั่งเฉย ๆ รอให้ใครสักคนสังเกตเห็นงานชิ้นเยี่ยมที่เขาทำลงไป”
6. หาประโยชน์จากการอบรมสัมนาฟรี
หลาย ๆ บริษัทมักมีการจัดอบรมสัมนาให้พนักงานในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ หรือการบริหารจัดการ แม้ว่าทักษะที่ว่าอาจยังไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องใช้ในการทำงานปัจจุบัน แต่รู้ไว้เถิดว่ามันช่วยให้คุณเหมาะกับตลาดงานที่วาดหวังไว้ในอนาคตมากยิ่ง ขึ้น
เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งโอกาสไปเฉย ๆ แม้ว่างานอบรมบางงานอาจไม่ได้จัดให้หน่วยงานของคุณโดยตรง คุณก็สามารถเสนอตัวขอเข้าอบรมได้ มันอาจทำให้คุณรู้ว่าเจ้านายของคุณรู้สึกดีกับคุณมากขึ้น เมื่อเขาเห็นว่าคุณน่ะสนใจสนใจการอบรมที่เขาจัดขึ้น
อย่างน้อย ๆ ก็ได้คะแนนนิยมในแง่ที่เป็นพนักงานที่ใส่ใจขวนขวายหาความรู้ แถมยังได้พัฒนาตัวเองฟรี ๆ อีกด้วย..งานแบบนี้มีแต่ได้กับได้
7. หัดร้องขอ บอกความต้องการของตัวเองเสียบ้าง
การ พูดเพื่อร้องขออะไรให้ตัวเองอาจเป็นหนทางที่ง่ายที่สุดในการให้ได้มาใน สิ่งที่คุณต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือวิธีการที่ได้ผลจริง ๆ ในหลาย ๆ สถานการณ์เสียด้วย เพราะบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องที่ว่าเจ้านายไม่อยากให้ในสิ่งที่ต้องการ แต่เป็นเพราะเขายุ่งเกินกว่าจะมาคิดถึงสิ่งเหล่านี้
การบอกจึงเป็น อีกทางเลือกหนึ่ง .. สำคัญอยู่ที่คุณต้องหาวิธีพูดให้เขารู้สึกดี ไม่ใช่พูดจาเหมือนกับว่าเจ้านายปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจคุณ ดีไม่ดีจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเสียเปล่า ๆ
8. คิดโปรเจคของตัวเอง
สำหรับ คนที่รู้สึกเบื่อสุด ๆ กับงานตรงหน้า การคิดหาโปรเจคส่วนตัวจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้คุณควบคุมความ รู้สึกที่รู้สึกขาด ๆ เกิน ๆ เกี่ยวกับงานของตัวเองได้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น จัดกิจกรรมอาสาสมัครขึ้นในหน่วยงาน, จัดกลุ่มเรียนภาษาจีน หรืออะไรก็ได้ที่คุณสนใจ
กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเบี่ยงเบนความคิดของคุณจากงานน่าเบื่อตรงหน้า และทำให้คุณรู้สึกกระตือรือล้นขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ..ขอบอก
หาก คุณลองทำตามข้อแนะนำทั้ง 8 ข้อนี้แล้ว แต่ยังรู้สึกว่าเช้าวันจันทร์ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อหน่ายที่สุดละก็ อาจถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเริ่มร่อนใบสมัครงานใหม่อีกครั้ง
แต่ อย่างน้อย ๆ คุณก็ยังสามารถที่จะรู้สึกดีกับความจริงที่ว่าคุณได้พยายามอย่างดีที่สุด แล้ว ก่อนที่จะเดินจากมา และที่รู้ ๆ การที่ได้พยายามพัฒนาปรับปรุงตัวเองในด้านต่าง ๆ ตลอดเวลาที่อยู่ในสายงายเดิม ..มันจะช่วยให้คุณเตรียมตัวพร้อมกับการก้าวไปสู่ตลาดการจ้างงานใหม่ได้อย่าง เต็มภาคภูมิทีเดียว
วันที่ 26 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,725 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,169 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 72,200 ครั้ง |
เปิดอ่าน 208,360 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,254 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,466 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,407 ครั้ง |
|
|