ได้รับเชิญจากเพื่อนบ้านประเทศข้างเคียงอย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย เพื่อร่วมเล่นในเทศกาลคอนเสิร์ตที่สำคัญๆ ต่างๆ อาทิ Baybeats Music Festival 2008, สิงคโปร์ และ Cross Border ที่มาเลยเซีย ซึ่งก็ได้รับคำชมไม่ขาดปาก จากนักฟังเพลง และสื่อมวลชนต่างประเทศว่าเป็นวงที่แสดงสดได้อย่างทรงพลัง
จาก Abuse the youth ถึงผู้ฟัง
อัลบั้มแรกของวงเป็นภาษาอังกฤษทั้งอัลบั้ม ซึ่งเป็นการแหกกฏของการทำวงดนตรีในประเทศไทย ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน หากต้องการเปิดตลาดในเมืองไทย หลายๆ เสียงต่างตักเตือนว่า ควรจะทำเพลงเป็นภาษาไทย แต่ทั้งนี้ สมาชิกทั้งสาม ต่างยืนยันว่า “ดนตรี คือภาษาสากล อยู่แล้ว ไม่ว่าทำภาษาอะไร หากเป็นดนตรีที่ดี มันควรจะสื่อ และเข้าถึงได้ทุกคน การที่ไม่เคยมีใครกล้าลองทำมาก่อน แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่ามันดีหรือไม่ดี” มิกเผยให้ฟังถึงการทำเพลงภาษาอังกฤษ และในฐานะคนเขียนเนื้อร้อง มิกพูดต่อว่า “การแต่งเนื้อภาษาไทยเป็นงานที่ยาก ด้วยวรรณยุกต์ อักขระ ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ถนัด ผมควรจะทำอะไรในสิ่งที่ ที่ตัวเองทำได้ดี มันน่าจะเวิร์กกว่า”
หนุ่มตูนมือเบสของวงเคย กล่าวไว้อย่างติดตลกว่า “เวลาผมไปต่างจังหวัด แล้วได้ยินเพลง Zombie ของ The Cranberries ทำไมถึงร้องได้กับทุกคน แสดงอารมณ์กันสุดฤทธิ์ และออกสำเนียงได้กันเป๊ะๆๆ ไม่รวมถึง Hotel California อีก ที่กลายเป็นเพลงชาติประจำร้านเหล้าไปแล้ว ดังนั้นการทำเพลงภาษาอังกฤาของพวกเรามันก็น่าจะเข้าถึงผู้คนได้แบบอย่างนั้นบ้าง” จุ มือกลอง เผยความคิดถึงเรื่องนี้ว่า “การที่เราทำเพลงภาษาอังกฤษ มันก็มีข้อดี เพราะ ทำให้เราได้เพื่อนใหม่ๆจากหลายๆ ประเทศ และกลุ่มคนฟังของเราก็กว้างขึ้น ไม่จำกัดอยู่แค่ในประเทศไทย แต่แน่นอน วง เราเป็นวงสัญชาติไทย อย่างไร เราก็อยากให้คนไทยยอมรับพวกเราด้วย”
Debut album:
สตูดิโออัลบั้มแรกของวงที่มีชื่อว่า Under Skin ได้รับการรังสรรค์ เรียบเรียง โดยโปรดิวเซอร์ ที่มีประวัติการทำงานอันยาวนาน และพ่วงท้ายด้วยรางวัลการันตีฝีมือจากหลายสถาบันอย่างไซม่อน เฮนเดอร์สัน โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ ที่รู้จักกันดีในวงการเพลงบ้านเรา ในฐานะผู้ที่รังสรรค์งานของวงร็อคแถวหน้าของเมืองไทยอย่าง Hangman และ Silly Fools ให้ประสบผลสำเร็จมานักต่อนัก มาเป็นผู้ควบคุมทิศทางและดูแลงานในอัลบั้ม Under Skin นี้ด้วยตัวเองทั้งหมด และเมื่อมือมาสเตอริ่งมากประสบการณ์ อย่าง แมทท์ โคลตัน ที่เคยทำงานให้ทั้งกับศิลปินชื่อดังอย่าง The Raconteurs, Neon Neon, Black Kids, Travis ไปจนกระทั่งถึง Aphex Twin ได้มีโอกาสฟังงานของ Abuse the Youth เขาจึงขอถือโอกาสหอบหิ้วงานชิ้นนี้กลับไปมาสเตอร์ริ่งในสตูดิโอที่ลอนดอน ให้สมกับคำชื่นชมที่สะท้อนอกมาจากปากหลังได้ฟังงานของวงนี้ครั้งแรกว่า “เจ๋งกว่างานไหนๆ ที่เคยได้ยินมาในปีนี้เลยครับ”
อัลบั้ม Under Skin ได้คัดสรรงานที่โดดเด่นที่สุดจากทั้งหมดกว่า 30 เพลง และคัดเลือกให้เหลืองานชั้นหัวกะทิ 11 แทร็ค มารวมอยู่ในชุดเดียวกัน โดยปล่อยเพลง Way Out เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Way Out ซึ่งนักร้องนำ และคนเขียนเพลงประจำวงอย่างมิก ได้ให้คำจำกัดความว่า
...“เป็นเพลงที่พูดถึงคนคนหนึ่งที่หลบปัญหาในชีวิต โดยการหนีไปอยู่ที่ไกลโพ้น แต่แล้วสุดท้ายการหนีปัญหาของเค้า มันก็กลายเป็นการหนีไปเจอปัญหาอื่นๆ อยู่ดี....ซาวน์ดเพลงนี้ฟังดูค่อนข้างเก็บกด เหมือนบางคนที่คุณอาจจะเห็นเค้าเป็นคนยิ้มแย้มสนุกสนาน แต่ใครจะรู้ว่าในหัวเค้าแทบจะระเบิดออกมา”... หรือแม้แต่เพลงอื่นๆ ที่มิกได้เผยให้เห็นถึงที่มาและเป็นงานที่เรียกได้ว่าเขาผูกพันด้วยที่สุดอย่าง Everything ...“ผมชอบความหมายเพลงนี้มาก มันเป็นเพลงรักโรแมนติก แล้วก็หน้าด้านมากพร้อมๆ กัน มันคือความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นเพราะความงี่เง่าและความผิดพลาดของผมเอง แต่ก็ยังอยากบอกให้เธอรู้อยู่ดี” ...
Electricity งานที่น่าจะน็อคคนฟังให้อยู่หมัดตั้งแต่อินโทร และจะยิ่งหลงรักมากกว่านี้ หากทำตามที่เจ้าตัวโฆษณา ...“โปรดิวเซอร์ของเราพูดถึงเนื้อเพลงเพลงนี้ว่า มันช่างพิลึกกึกกือ ซึ่งผมก็คิดว่ายากที่จะบอกความหมายของมัน มันเป็นเพลงจังหวะสนุกชวนเต้น ซึ่งผมคิดว่าคุณจะเข้าใจความหมายของมันได้ดี หากได้ฟังเพลงนี้แบบสดๆ......ผมพูดจริงๆนะ”...
One Day ....“ผมคิดว่ามันเป็นเพลงที่ฟังสนุกแล้วก็จ๊ะจ๋า โจ๊ะๆ ที่สุดในอัลบั้ม แต่ความหมายของมันค่อนข้างรุนแรง และเต็มไปด้วยความเคียดแค้นแบบด้านเดียว หรือคุณจะเรียกมันว่า คำสาปแช่งของคนขี้แพ้ ก็ได้นะ” ....
Please สำหรับคอเพลงรัก ที่ประทับใจกับงานจิ๊กโก๋อกหัก ก็น่าจะอินกับมันได้ไม่ยาก ...“เป็นอีกสูตรสำเร็จของเพลงเศร้า อกหัก เวลาคนที่คุณรักกำลังจะจากคุณไป.....แน่นอนล่ะ คุณอ้อนวอนขอร้องไม่ให้เธอไป” ....มิกตบท้าย
แนะนำรายตัว
มิก – มิกข์ วรนิสรา ' (กีต้าร์ ร้องนำ)
สถาปนิกวัยเบญจเพส จากรั้วจามจุรี ที่มีใจรักในดนตรี ความสุขของเขาคือการเล่นดนตรี เมื่ออยู่บนเวที ศักยภาพในการร้องเพลง เล่นดนตรี และความก้าวร้าว ดุดัน ของเขาจะได้รับการแสดงออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้เขามีคุณสมบัติ ในการเป็น Front Man อย่างครบถ้วน ทั้งในด้านการร้องเพลง และการเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ ในด้านดนตรี มิกรับหน้าที่แต่งเนื้อร้องทั้งหมด ซึ่งจากบทเพลงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหว และความอ่อนโยน รวมถึงมุมมองที่เขามีต่อชีวิตบนโลกใบนี้
ตูน- ศุภพงษ์ พรึงลำภู (เบส) นิ่งสงบ สยบความเคลื่อนไหว ความสุขุม และลีลาการเล่นเบส ที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ หนุ่มคนนี้เมื่ออยู่บนเวที จะทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการคุมจังหวะ และกระตุ้นอารมณ์คนดูให้คล้อยตามไปกับบทเพลงของพวกเขา เมื่ออยู่นอกเวทีเขาเป็นหนุ่มที่มีอารมณ์ขันมากมาย และเป็นนักเล่าเรื่องตัวยง นอกจากนี้ ตูนยังเป็นมนุษย์หลายอาชีพ เพื่อทำให้เขาสามารถเล่นดนตรีได้ทุกเมื่อ ตูนเป็นกราฟิค ดีไซเนอร์ เป็นเจ้าของร้านเช่าการ์ตูน และยังเคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, รังสิต แต่อาชีพเดียวที่เขาอยากเป็นมากที่สุด คือ การเล่นดนตรี
จุ – จุรีพร กมลธรรมกุล (กลอง)
หญิงสาวหนึ่งเดียวของวง และมือกลองระดับแถวหน้าของเมืองไทย ด้วยความสามารถในการหวดกลองที่ดุดัน หนักแน่น ทำให้จุได้ไปเป็นมือปืนรับจ้าง ตีกลองให้กับหลายๆวงด้วยกัน อาทิ วงอรนรีย์ 7th Scene ฟลัวร์ และ Crescendo ด้วยฝีมือการตีกลองที่เป็น ที่ยอมรับจากนักดนตรีด้วยกัน ทำให้จุ ได้กลายเป็น Ambassador สาขาประเทศไทย ของ Ludwig ผู้ผลิตกลองคุณภาพระดับโลก
ผลงานงานที่ผ่านมา
1.. Music Express 23rd Anniversary Jan 2009
2. Bangkok 100 Rock Festival 30 Nov, 2008
3. Fat 8, Challenger Hall , 9 Nov 2008
4. MRD 4, 29 Sep, 08 Moon Star Studio, BKK
5. Baybeat Festival 08, 29-31 Aug 2008 , Esplanade, Singapore เป็นวงไทยวงเดียวที่ได้รับเลือกไปเล่นเทศกาลดนตรีในครั้งนี้
6. Fete de La Musique 08, 27 July, Central World, BKK เทศกาลดนตรีฝรั่งเศส
7. Music Express 22nd Anniversary 2008 งานครบรอบนิตยสารซึ่งเล่นแจมกับ Brand New Sunset
8. Fat 7 และแสดงสด ออกรายการโทรทัศน์ 108 Music ช่อง TPBS ฯลฯ
รางวัล
1. ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง “Best Group” JunkSound Regional Award 2008, จาก Junk Magazine, Singapore (ประกาศผลเดือน ธันวาคม 08)
2. ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 4 สาขา “Best Band” “ Best Drummer” “Best Bassist” และ “Best Producer” จากนิตยสาร Headbanger 2008 (จะประกาศผลเดือน ธันวาคม 08)
3. ได้รับรางวัล วงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม “Best New Comer” ปี 2007 จาก นิตยสาร Headbanger
4. ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง วงหน้าร็อคหน้าใหม่ยอดเยี่ยม “Best New Comer จาก คลื่น แฟต เรดิโอ 2007
www.myspace.com/abusetheyouth
Under Skin กำหนดวางแผง มกราคม 2009
Website: www.abusetheyouth.com
ข้อมูล-ประชาสัมพันธ์ : มาย เดอะ แก๊บ เรคคอร์ด 02 712 5808-9
Abuse the Youth: Under Skin
หลังจากรวมตัวกันมาตั้งแต่ปี 2006 โดยสองหนุ่มหนึ่งสาว มิก ตูน และจุ ในนาม Abuse the Youth ก็ได้รับการและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่แฟนเพลงเรื่อยมาและขยายฐานให้กว้างขึ้น ด้วยแนวดนตรีที่ต้องพะยี่ห้อว่าเข้าได้ถึงคนทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นร็อค อินดี้ หรือกระทั่งเมทัล กับงานที่ขับเคลื่อนด้วยพลังดนตรี สามชิ้น ซึ่งคุกรุ่นด้วยความเป็นกรั้นจ์ ร็อค ผสานเมโลดี้ ที่ได้กลิ่นของความเป็นป็อป เข้าถึง และฟังง่าย ริฟท์ไลน์กีตาร์ที่พานให้นึกถึงวงจากแถบ ซีแอตเทิ่ล ผสมผสานกันจนกลายเป็นงานที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ หยั่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มขั้น อีกทั้งเนื้อหาของเพลงที่แม้จะกลั่นจากหัวอกคนไทยแท้ๆ แต่แปรความหมายที่เขียนได้อย่างสวยงามราวบทกวี ที่กรองอย่างดีออกมาเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งพูดถึงความรู้สึกของมนุษย์ ปุถุชนคนเดินดิน ที่มีทั้งความสุข เศร้า เหงา สูญเสีย รัก และประสบการณ์ที่พานพบมาเป็นแรงบันดาลใจ ผ่านเสียงร้องที่คนฟังจับต้องได้ถึงสิ่งที่อยู่ภายใน นอกเหนือจากการสร้างชื่อและสร้างความสนุกให้กับแฟนๆ ในเมืองไทยได้ประจักษ์แล้ว พวกเขายัง