ทันยุคกับข้าวแกงทอด สะดวกและคุณค่าอาหารสูง
คนเดินดิน กินข้าวแกง...คำพังเพยที่เน้นถึงสภาพของความเป็นอยู่ของชนชั้นกลาง ซึ่งมีความเป็นอยู่กันอย่างง่ายๆ แบบประหยัด สะดวก สบาย...!!!
แต่ในวันนี้ "ข้าวแกง" ไม่ได้ ขายกันอยู่ตามแผงลอยในตลาดทั่วๆไปอีกต่อไป เพราะมีผู้นำเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เกต หรือแม้กระทั่งโรงแรมหรูบางแห่งก็มีข้าวแกง กิน...
ด้วยความที่เป็นอาหารยอดฮิตนี้เอง... จึงได้มีการพัฒนาแปรรูปข้าวแกงทอดขึ้นมาให้บริโภค ได้อย่างสะดวกสบายและง่ายยิ่งขึ้น
นางสาวเพลินใจ ตังคณะกุล นักวิจัยจากสถาบันค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วยทีมงานวิจัย เผยว่า KURU-San (Kasetsart University Research Unit) คือ ข้าวแกงทอดกึ่งสำเร็จรูปชนิดแช่แข็ง เป็นแนวคิดของทีมวิจัย ที่ต้องการนำอาหารง่ายๆ ที่คนไทยนิยมรับประทานมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่
ข้าวแกงทอดจึงเป็นข้าวแกงจานด่วนที่มีคุณค่าทางสุขภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งได้จากสมุนไพรไทย โดยผลิตในขั้นแรกนี้มี 4 สูตรด้วยกัน คือ สูตรเครื่องแกงเหลือง, สูตรเครื่องแกงเขียวหวาน, สูตรข้าวหมก และสูตรแกงคั่ว
คุณค่าทางโภชนาการประกอบด้วยโปรตีน 5-9 กรัม/100 กรัม ไขมัน 13-17 กรัม/100 กรัม คาร์โบไฮเดรต 70-80 กรัม/100 กรัม มีกากใย 0.65-1.19 กรัม/100 กรัม และให้พลังงานระหว่าง 454.73-474.83 กิโลแคลอรี และเมื่อมีการผสมสมุนไพรและเครื่องเทศ ร้อยละ 10-37
การปรุงข้าวแกงทอด เริ่มจากการนำข้าวสุก (ข้าวเหนียวหรือข้าวเจ้า) มาผัดกับเครื่องแกง แล้วนำไปขึ้นรูปเป็นชิ้นกลมแบน ชุบแป้งสำหรับทอด คลุกเกล็ดขนมปังแล้วนำไปทอดกึ่งสุก (Par-frying) ที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 30 วินาที ทิ้งไว้ให้เย็นและบรรจุในถุงไนลอนนำไปแช่เยือกแข็งที่อุณหภูมิ-18 องศาเซลเซียส (Slow freezing) เพื่อพร้อมนำมาทอดรับประทานตามต้องการ
คณะวิจัยได้ส่งสูตรอาหารข้าวแกงทอดนี้เข้าประกวดชิงรางวัลนวัตกรรมข้าวไทยเฉลิมพระเกียรติ ปี 2550 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (วท.)
...และได้รับรางวัล โล่พระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี.... ทีมวิจัยทุกคนรู้สึกภูมิใจที่ได้สร้างสรรค์งานคุณภาพ จนกระทั่งได้รับพระราชทานรางวัล...
...อันถือเป็นมงคลที่มีคุณค่าแก่ชีวิต...!!!
ข้อมูลและภาพประกอบจาก