ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ปมด้อยนี้...ได้แต่ใดมา...>>>>>


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,405 ครั้ง
ปมด้อยนี้...ได้แต่ใดมา...>>>>>

Advertisement

ปมด้อยนี้?ได้แต่ใดมา

                                                                              343484.gif

                                                                                       

วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังติดเพื่อนขนาดหนัก
ฉะนั้น จึงมักเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้เขารู้สึกวิตกกังวลในทุกๆ เรื่อง
เช่น ร่างกาย รูปร่าง หน้าตา ความสามารถ การเรียน ครอบครัว ฐานะ ฯลฯ

 

พักนี้ กว่านายต้นจะออกจากบ้านได้ ต้องหมุนซ้ายหมุนขวาหน้ากระจกจนแม่เวียนหัว เปลี่ยนชุดเข้าออกอยู่นั่น แถมบางอาทิตย์ก็อยู่ติดบ้านผิดปกติจนน่าแปลกใจ ถามไปถามมาได้ความว่า

 

" โธ่ ! สิวเม็ดเบ้อเริ่มขนาดนี้ ขืนออกไป คนอื่นเป็นได้หัวเราะตามเลยแม่ "

 

บางทีก็กลับมากระฟัดกระเฟียดกับพ่อแม่ ว่าเลี้ยงเขายังไงให้ตัวเล็กกว่าคนอื่น หลายอย่างที่อยากทำเลยหมดโอกาส ไม่ก็ทำได้ดีไม่เท่าเพื่อนๆ

 

นี่แหละครับ สัญญาณที่บอกให้รู้ว่า ลูกกำลังก้าวเข้าสู่วัยรุ่น…วัยที่เขาจะสนใจตัวเองอย่างสุด…สุดๆ และเข้าใจว่า กำลังถูกคนรอบข้างจ้องมองอยู่ตลอดเวลา ราวกับเป็นนักแสดงที่ยืนอยู่บนเวที มีไฟส่องหน้า…อะไรประมาณนั้น

 

ภาษาจิตวิทยาเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า Self Consciousness ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติเหลือเกิน สำหรับวัยรุ่น เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายและรวดเร็วที่เกิดขึ้นทั้งทางร่างกาย ความคิด และอารมณ์

 

ความสนใจตัวเอง ถือเป็นพัฒนาการทางจิตใจอีกขั้นของวัยนี้ครับ อันจะส่งผลให้พวกเขา มีความตระหนักรู้ในตนเอง กังวลต่อภาพตัวเองในสายตาผู้อื่น และอ่อนไหวกับปฏิกิริยาของคนรอบข้าง เรียกว่าแค่ลมพัดเบาๆ อารมณ์ก็ปลิวแล้ว

 

ที่มาของปมด้อย

 

แม้เจ้าอาการสนใจตัวเองอย่างมากมายนี้ จะเป็นปรากฏการณ์ปกติ แต่บางครั้งก็ทำให้เกิดปัญหาได้เช่นกันครับ

 

อย่างที่ทราบกันว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังติดเพื่อนขนาดหนัก ฉะนั้น จึงมักเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้เขารู้สึกวิตกกังวลในทุกๆ เรื่อง เช่น ร่างกาย รูปร่าง หน้าตา ความสามารถ การเรียน ครอบครัว ฐานะ ฯลฯ ประเด็นหลักก็อยู่ที่ความต้องการการยอมรับ และเป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้างนั่นเอง อะไรที่ไม่ได้มาตรฐาน อย่างที่ถูกคาดหวัง จะทำให้เกิดความรู้สึกคับข้องใจ ยิ่งถูกย้ำในความบกพร่องนั้นบ่อยๆ จะมีผลให้กลายเป็น คนขาดความยอมรับนับถือตนเอง (Selfesteem) อันเป็นที่มาของปมด้อยในใจ

 

เด็กผู้หญิงหลายคนอยากมีหุ่นผอมบางเหมือนนางแบบและกังวลอย่างหนักกับรูปร่าง จนรู้สึกเป็นปมด้อย ก็อาจพยายามอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก ทั้งๆ ที่เป็นวัยกำลังเจริญเติบโต เรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกาค่อนข้างรุนแรงครับ จากการสำรวจพบว่า ร้อยละ 80 ของวัยรุ่น เป็นโรคผิดปกติเกี่ยวกับการรับประทานอย่างน้อย 1 โรคเลยทีเดียว

 

เด็กที่เรียนอ่อน ซึ่งปกติมักรู้สึกต่อตัวเองไม่ดีอยู่แล้ว มาเจอพ่อแม่หรือครูตอกย้ำอีกแรง ("โง่") ปมด้อยย่อมเข้ามาเคาะประตูถามหา พานให้เบื่อหน่าย ท้อแท้ ไม่อยากเรียน หันไปพึ่งยาบ้า ยาเสพย์ติดในที่สุด

 

ท่าทีของพ่อแม่

 

เมื่อพ้นช่วง 13-17 ปี วัยรุ่นส่วนใหญ่จะค้นพบความจริงว่า ตัวเองไม่ได้ถูกเฝ้าสังเกต จากคนรอบข้างตลอดเวลาอย่างที่เคยเข้าใจ ความสนใจตัวเองแบบสุด…สุดจะค่อยๆ หายไปในช่วง 4-5 ปีนี้ ท่าทีของพ่อแม่นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากครับ

 

สิ่งต้องห้ามก็คือ การกระทำที่จะสร้างความอับอายแก่ลูก เช่น วิพากษ์วิจารณ์ความบกพร่อง หรือดุว่าเขาต่อหน้าคนอื่น แสดงความรัก กอด หอม ในที่สาธารณะ พูดล้อเกี่ยวกับรูปร่าง และหน้าตาที่เปลี่ยนไป

 

กฎสำคัญประการหนึ่ง ได้แก่ ไม่ควรถกเถียงในสิ่งที่ลูกเชื่อ (ว่ามีคนเฝ้ามองเขาตลอดเวลา) เพราะมันจะยิ่งย้ำให้เขาคิดอย่างนั้นมากขึ้นไปอีก เช่น เมื่อลูกสาววัย 14 ยืนกรานที่จะไม่ออกไปไหน จนกว่าสิ่วหนึ่งเม็ดที่หน้าผากจะหายเสียก่อน แทนที่จะพูดว่า
" อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า ไม่มีใครสังเกตหรอก แค่สิวเม็ดเล็กๆ เอง " (ซึ่งมีความหมายพอๆ กับ " เธอดูน่าเกลียดจริงๆ น่ะแหละ") พ่อแม่ควรพูดว่า
" มันไม่ดูเลวร้ายหรือน่าเกลียดอะไรเลยสำหรับแม่ (พ่อ) และแม่ (พ่อ) ว่าคนอื่นๆ ก็คงคิดเหมือนกัน… มีใครพูดอะไรให้ลูกไม่สบายใจหรือเปล่าล่ะ ? "

 

นอกจากนั้น พ่อแม่ควรส่งเสริม ปมเด่น ให้เกิดขึ้นตามความถนัด เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออก และคอยชื่นชมความสำเร็จนั้น แม้เรียนไม่เก่ง แต่ลูกอาจมีความถนัดด้านกีฬา ดนตรี หรือศิลปะ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ ความสำเร็จไม่ควรเกิดจากการเปรียบเทียบหรือแข่งขันกับเด็กคนอื่น เพราะอาจยิ่งทำให้ลูกเกิดปมด้อยซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก

 

ที่ต้องไม่ลืมคือ พ่อแม่ควรเป็นตัวอย่างในการสร้าง ความภาคภูมิใจในตัวเอง ให้แก่ลูกด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่เด็กมีปมด้อยมักขาดสิ่งนี้ หากลูกเห็นตัวอย่างที่ดี จะเกิดการเรียนรู้และเลียนแบบ เช่น แม้ยากจนแต่มีความภาคภูมิใจในความซื่อสัตย์ แม้ไม่สวยแต่ขยัน และมีความภาคภูมิใจ ในการทำงานให้ดี

 

สุดท้าย ความรักและความใกล้ชิดสนิทสนมนี่แหละ ที่จะช่วยทำให้ลูกเกิดความมั่นใจในตัวเอง ว่าเขาเป็นที่รักและได้รับการยอมรับ (อย่างน้อยก็จากพ่อแม่) อยู่เสมอ



สัญญาณบอกเหตุ

 

คุณหมอพนม เกตุมาน แนะวิธีสังเกตลูกว่ามีปมด้อยหรือเปล่า ไว้ในหนังสือ สุขใจกับลูกวัยรุ่น ดังนี้
  • บ่นหรือพูดซ้ำๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองกังวล
  • แสดงความโกรธ หงุดหงิด และก้าวร้าวใส่พ่อแม่ ด้วยโทษว่า สาเหตุของปมด้อยนั้นมาจากพ่อแม่
  • แสดงความก้าวร้าวต่อผู้อื่น หรือต่อสังคม เช่น ละเมิดกฎของโรงเรียน มีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน ทะเลาะกับครู จับกลุ่มยกพวกตีกัน
  • คบเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายกัน
  • รักสวยรักงาม แต่งกายยั่วยวน ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เป็นการเสริมความมั่นใจให้ตัวเอง สร้างปมเด่นเพื่อกลบปมด้อย
  • ซึมเศร้า ท้อแท้ หมดหวัง และมองโลกในแง่ร้าย  ขี้ระแวง  ขี้อิจฉา
อย่าลืมสังเกตดูนะคะ  ยิ่งรู้เร็ว ก็ยิ่งตั้งรับได้ทันท่วงที..!!!

 

 

ขอบคุณที่มาข้อมูล                                                     343491.gif

                                                                                                 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 23 พ.ค. 2552


ปมด้อยนี้...ได้แต่ใดมา...>>>>> ปมด้อยนี้...ได้แต่ใดมา...>>>>>

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สารพัดผัก

สารพัดผัก


เปิดอ่าน 6,390 ครั้ง
ทางสายกลาง ..

ทางสายกลาง ..


เปิดอ่าน 6,391 ครั้ง
  ประโยชน์ของเปลือกกล้อย

ประโยชน์ของเปลือกกล้อย


เปิดอ่าน 6,391 ครั้ง
"ผมแตกปลาย" ทำไงดี

"ผมแตกปลาย" ทำไงดี


เปิดอ่าน 6,390 ครั้ง
น้ำใจ...คลายร้อนได้

น้ำใจ...คลายร้อนได้


เปิดอ่าน 6,387 ครั้ง
ระวังคนหลอกลวง

ระวังคนหลอกลวง


เปิดอ่าน 6,394 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ก๊าซไข่เน่า..แก้นกเขาไม่ขัน

ก๊าซไข่เน่า..แก้นกเขาไม่ขัน

เปิดอ่าน 6,393 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สงครามกาแฟ !!
สงครามกาแฟ !!
เปิดอ่าน 6,391 ☕ คลิกอ่านเลย

เวลา...  ปัจจัยแห่งความสุข
เวลา... ปัจจัยแห่งความสุข
เปิดอ่าน 6,389 ☕ คลิกอ่านเลย

ดื่มเบียร์ต้านมะเร็ง....
ดื่มเบียร์ต้านมะเร็ง....
เปิดอ่าน 6,404 ☕ คลิกอ่านเลย

นิสัย ๔ ม....ก่ออันตราย
นิสัย ๔ ม....ก่ออันตราย
เปิดอ่าน 6,393 ☕ คลิกอ่านเลย

รายละเอียดการตรวจโรค"หัวใจ" รู้ไว้ไม่เสียหาย  ช่วยเราได้เมื่อคับขัน
รายละเอียดการตรวจโรค"หัวใจ" รู้ไว้ไม่เสียหาย ช่วยเราได้เมื่อคับขัน
เปิดอ่าน 6,387 ☕ คลิกอ่านเลย

เคล็ดลับ.... ต่อต้านริ้วรอย
เคล็ดลับ.... ต่อต้านริ้วรอย
เปิดอ่าน 6,395 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
เปิดอ่าน 23,708 ครั้ง

เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย “10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง”
เก็บโลกไว้ให้ลูกหลานด้วย “10 วิถีใช้ชีวิตพอเพียง”
เปิดอ่าน 10,510 ครั้ง

เทคนิคการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
เทคนิคการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้
เปิดอ่าน 15,795 ครั้ง

รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง
รักษาอาการท้องเสียด้วยฝรั่ง
เปิดอ่าน 12,746 ครั้ง

ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
เปิดอ่าน 14,191 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ