ขอบคุณ ภาพจากอินเทอร์เน็ต
...................................................
คอลัมน์ ‘เสียงจากชุมชน’
การตายของ ‘น้องทราย’ กับสิ่งที่... ทิ้งไว้
กางเขนดง รายงาน
เมื่อปลายปีที่แล้วมีรายงานข่าวที่น่าเศร้าสลดใจชิ้นหนึ่ง ในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบ้านเรา เกี่ยวกับ เรื่องของ น.ส.
อัญชา ต้องชู วัย 17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างตรัง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตรัง หลังจากการพยาบาลช่วยชีวิตล้มเหลว และนายแพทย์
สมนึก เชื้อทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพร้อมทีมงานได้แถลงข่าวชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดจากมีการติดเชื้อที่ปอดทำให้เลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก
การเสียชีวิตอย่างปัจจุบันทันด่วนและการอธิบายอย่างคลุมเครือทางการแพทย์ทำให้คุณ
ยายเชื้อ ต้องชู ผู้เป็นยายและญาติๆ รวมถึงแม่ของ “น้องทราย” รู้สึกอึดอัดและมีความกังขาค้างคาใจเป็นอย่างยิ่ง แต่โดยที่เป็นผู้สูงอายุและขาดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสิทธิทางด้านสุขภาพ สิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงไม่อาจดำเนินการใดๆ ให้เข้าใจเข้าถึงความจริงของสาเหตุการเสียชีวิตตามที่ใจมีความเรียกร้องต้องการได้
“ก่อนประชุมเพลิงศพน้องทราย ที่เมรุวัดควนสีนวล ตำบลนาข้าวเสีย อำเภอนาโยง จึงมีเพียงคำอธิษฐานว่า ถ้าหากการเสียชีวิตของน้องทรายเป็นไปตามเรื่องของน้องทรายเองก็ขอให้เพลิงเผาไหม้ร่างกายไปตามวาระ แต่หากการตายเกิดจากการกระทำของผู้อื่นแล้ว ขอให้น้องทรายทิ้งร่องรอยหลักฐานไว้... ปรากฏว่าหลังจากไฟมอดลงแล้วญาติเข้าไปดับธาตุเก็บอัฐิก็พบว่า... ปอดก้อนกลมไม่ยอมมอดไหม้ไฟ... ดังเช่นศพอื่นๆ ทั่วไป”
เสียงวิจารณ์ท่ามกลางความกังขาต่างๆ นานา จึงยิ่งเพิ่มความกดดันต่อจิตใจคุณยายเชื้อฯ เป็นอย่างมาก หลังสูญเสียหลานสาวไปท่านจึงมีชีวิตอยู่อย่างซึมเศร้า ว้าเหว่ และขาดการดูแลเยียวยาด้านจิตใจอย่างเข้าอกเข้าใจ เศร้าโศกอยู่กับสิ่งที่น้องทรายทิ้งไว้ตามแรงอธิษฐานนั้น
การเสียชีวิตของน้องทรายก็เช่นเดียวกับหลายๆ ชีวิตที่จากไปอย่างเงียบงัน แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุก ชาวจังหวัดเลย ที่พรรคเพื่อไทยพร้อมพันธมิตรเสื้อแดงและสมาชิกรัฐสภาให้ความสนใจ ติดตาม ตรวจสอบ ค้นหาความจริงอย่างเข้มข้นเพื่อความเป็นธรรมแก่ผู้จากไป ความจริงของสองมาตรฐาน หรือดับเบิ้ลสแตนดาร์ด หรือไม่มีมาตรฐาน มีอยู่อย่างดกดื่นหลากหลายกรณียิ่ง ในสังคมไทยยุคประชาธิปไตยจอมปลอมปัจจุบัน
|