Advertisement
23 พฤษภาคม 2552
โรคหนังแข็ง (scleroderma)
|
|
กรณีหญิงวัย 57 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์ ที่ป่วยเป็นโรคหนังแข็ง (scleroderma) หลังถูกแมลงกัด ไม่ได้เกิดจากแมลงมีพิษ หรือเป็นโรคอุบัติใหม่แต่อย่างใด
โดยโรคดังกล่าวพบมานานแล้ว และจะเกิดเฉพาะบุคคลที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีโอกาสเป็นเพียง 1,000 ต่อ 67 ล้านคนเท่านั้น ผู้ป่วยรายนี้แสดงอาการหลังถูกแมลงกัดนั้น อาจเป็นเพราะมีสารบางอย่างในแมลงที่ไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงาน แต่ระบบที่ผิดปกติทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนที่ผิวหนังในปริมาณที่มากเกิน จนผิวหนังแข็งขาดความยืดหยุ่น สร้างความเจ็บป่วยให้กับผู้ป่วยได้
ผู้ป่วยมีสภาพซูบผอม เหลือเพียงหนังหุ้มติดกระดูก อยู่ใต้ถุนบ้าน มานานกว่า 3 ปี ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติทั่วไป มีลูกชายวัย 38 ปีคอยดูแลผู้เป็นแม่ ในสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก ฐานะยากจน
ทางผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ได้ประสานโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ นำรถกู้ชีพโรงพยาบาลอุตรดิตถ์พร้อมแพทย์ พยาบาล รับตัวผู้ป่วยรายดังกล่าวเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2552 แพทย์เข้าตรวจดูอาการของของผู้ป่วยหลังเข้ารับการรักษาตัวที่ตึกอายุรกรรมหญิง พบว่าอยู่ในระยะขั้นรุนแรง คือ ลุกลามไปทั่วทั้งตัว จึงทำการเอ็กซเรย์ปอด และหัวใจพบว่าหัวใจโต ปอดมีเริ่มมีผังผืนเกาะ และแข็งตัว จากการตรวจคลื่นสะท้อนหัวใจพบว่ากลีบของลิ้นหัวใจเริ่มแข็งตัว กล้ามเนื้อหัวใจการบีบตัวน้อยลง เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หากไม่รับการรักษาจะทำให้คนไข้มีอาการหัวใจวายเฉียบพลันได้ แต่เมื่ออยู่ในความดูแลของแพทย์อาการของโรคจะไม่ลุกลาม และจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่หายขาด เพราะเป็นโรคที่ไม่มียารักษาเฉพาะ เพียงแค่บรรเทาให้ทุเลา ส่วนผิวหนังที่แข็ง ตกสะเก็ด ใช้ครีมทาผิวช่วยทำให้ผิวหนังเริ่มนุ่มขึ้น
|
|
|
ลักษณะของโรค
โรคหนังแข็งเป็นโรคที่พบได้น้อย แต่ทำให้เกิดอัตราความพิการสูง ในคนไทยพบอุบัติการของโรคประมาณ 1/100,000 คน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงอายุ 40-50 ปี อัตราส่วนของเพศหญิงมากกว่าเพศชายประมาณ 2 : 1
โรคหนังแข็งมี 3 ระยะ คือ ระยะการอักเสบ บุคคลทั่วไปสามารถสังเกต และรับรู้ได้ คือปวดตามข้อ ผิวหนังตึง และปวม ระยะที่ 2 ผิวหนังเริ่มแข็ง หากถูกความเย็นจะซีดและกลายเป็นสีดำ ระยะที่ 3 ถือว่ารุนแรง ปรากฏผิวหนังแข็ง และมีสีดำไปทั่วทั้งตัว ตกสะเก็ด หนังหุ้มกระดูก และกระทบต่อการทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ ที่สำคัญของร่างกาย หากคนไข้อยู่ในระยะที่ 1-2 สามารถรักษาได้ทันท่วงที จะทำให้ดีขึ้น และสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้
โรคหนังแข็งเป็นโรคเรื้อรังไม่ทราบสาเหตุ อาการของโรคมีได้หลายแบบขึ้นกับความรุนแรงของโรค โดยมีลักษณะที่สำคัญคือ มีสะสมของผังผืดคอลลาเจนที่ผนังหลอดเลือด และอวัยวะภายในร่างกายมีการแข็ง และหนาตัวของผิวหนัง การแข็งตัวของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงผิวหนัง และอวัยวะภายใน เช่น หลอดอาหาร ปอด หัวใจ และไต ทำให้เกิดอาการที่ระบบนั้นๆ
การดำเนินโรคในผู้ป่วยแต่ละรายจะแตกต่างกันมาก อาจใช้เวลาเพียง 1-2 เดือน หรือนานเป็นปีกว่าจะมาพบแพทย์ พวกที่มีการดำเนินโรคเร็วมักจะมีพยากรณ์โรคไม่ดี มักจะมีพยาธิสภาพของอวัยวะภายในร่วมด้วยบ่อย ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากอาการทางปอด หัวใจ และไต ซึ่งมักจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 ปีแรกหลังจากที่เริ่มมีอาการ
โรคผิวหนังแข็งเป็นโรคที่หายเองได้ และบางรายผิวหนังจะหายเป็นปกติได้ โดยเฉพาะรายที่มีการดำเนินโรคช้า และไม่มีพยาธิสภาพของอวัยวะภายใน ผิวที่แข็งตึงจะเริ่มอ่อนตัว และหายเป็นปกติ จุดประขาวจะจางลง แต่บางรายอาจเห็นร่องรอยของโรคผิวแข็งตกค้างใหัสังเกตเห็นได้อยู่บริเวณนิ้วมือ และใบหน้า
สาเหตุ
โรคหนังแข็งเป็นโรคในระบบเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ไม่ทราบสาเหตุ ทำให้มีเนื้อเยื่อพังผืดแทรกอยู่ในชั้นผิวหนัง และอวัยวะภายในมากผิดปกติ ความหมายของ “sclerodema” ตามศัพท์นั้นหมายถึง “ผิวหนังแข็ง” โดยไม่ได้จำกัดว่าจะเกิดจากสาเหตุใด อาจเกิดจากการสัมผัสสารเคมีหรือได้รับยาบางชนิด เกิดตามหลังการบาดเจ็บ หรือเกิดร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น เบาหวาน โรคทางเมตาบอลิกอื่นๆ หรือพบร่วมกับโรคมะเร็ง แต่ในทางปฎิบัติแล้วเมื่อกล่าวถึง scleroderma มักหมายถึงโรคหนังแข็งปฐมภูมิที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด
โรคนี้เป็นโรคเก่าแก่มีการกล่าวถึงตั้งแต่สมัยฮิปโปเครติส (460-370 ปีก่อนคริสตศักราช) แต่ได้รับการเขียนบันทึกบรรยายลักษณะของโรคโดย Curzio เมื่อปี ค.ศ. 1753 แต่ยังไม่มีการตั้งชื่อโรค จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1847 จึงได้มีการใช้ชื่อ sclerodermie เป็นครั้งแรกโดย Gintrac ชื่อนี้ดัดแปลงมาจากภาษาลาติน (scleros=hard, derma=skin) และได้มีการใช้ต่อมาเป็น scleroderma ในที่สุด
|
|
|
อาการ
อาการทางผิวหนัง ผิวหนังจะสีดำ กำมือไม่ได้ มือจะขาว หรือซีด ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดหดตัว ต่อมาจะมีสีม่วงหรือคลำ้เนื่องจากผิวหนังขาดออกซิเจน หลังจากนั้นผิวหนังจะมีสีแดงเนื่องจากเลือดจะไหลไปเลี้ยงเพิ่มขึ้น ผิวหนังจะเกิดอาการเหล่านี้เมื่อสัมผัสอากาศหรือน้ำเย็น อาจพบมีแผลจุดเล็กๆ ที่ปลายนิ้ว ผิวหนังที่เริ่มเป็นมักจะเกิดบริเวณมือ ต่อมาจะลามมาที่แขน หน้า และลำตัว ผู้ป่วยทำหน้าผากย่นไม่ได้ ยิ้มยาก ตามตัวพบด่างขาวเป็นจุด
หลอดอาหาร พบว่าผู้ป่วยร้อยละ 80 มีอาการกลืนลำบาก เจ็บเวลากลืน เนื่องจากการเคลื่อนไหวของหลอดอาหารน้อย หรือมีกรดไหลย้อน หรือหลอดอาหารอักเสบ การวินิจฉัยทำได้โดยการกลืนแป้งตรวจหลอดอาหาร จะพบว่าหลอดอาหารจะมีการบีบตัวน้อยลง ผังผืดที่ปอด พบได้บ่อยรองจากทางเดินอาหาร โดยพบได้ตั้งแต่ร้อยละ 40-90 ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่าย ความหลอดเลือดในปอดเพิ่มทำให้เกิดหัวใจห้องขวาวาย
หัวใจ และหลอดเลือด มักจะไม่ค่อยมีอาการจากการตรวจศพ พบว่าอัตราการเกิดโรคที่หัวใจพบได้ร้อยละ 30-80 หากมีอาการทางหัวใจพบว่าจะมีอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 70 ใน 5 ปี
ไต พบได้ร้อยละ 10-40 ของผู้ป่วย และพบว่ามีอัตราการเสียชีวิตสูง อาการของโรคไตมีสองชนิดคือชนิดเฉียบพลันผู้ป่วยจะปวดศรีษะ ความดันโลหิตสูง ตามัวลง และชนิดเรื้อรังผู้ป่วยจะมีอาการ
กล้ามเนื้อ และข้อ พบว่าผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ และมีการอักเสบของข้อ และมีหินปูนเกาะที่เอ็น
|
|
|
เกณฑ์การวินิจฉัย
เกณฑ์หลัก ได้แก่ ผิวหนังส่วนลำตัวหรือแขนขาแข็งตัว หนาตัว และบวม
เกณฑ์การวินิจฉัยรอง ได้แก่ ผิวหนังที่นิ้วจะแข็ง กำมือลำบาก ปลายนิ้วมีแผล ปอดมีผังผืด
การวินิจฉัยประกอบไปด้วยเกณฑ์หลัก 1 ข้อ และเกณฑ์รองอย่างน้อย 2 ข้อ
การรักษา
การรักษาความผิดปกติที่ผิวหนังโดยใช้ยาขยายหลอดเลือด เพื่อลดอาการหดตัวของหลอดเลือด เพิ่มการหมุนเวียนของหลอดเลือดมากขึ้น นิยมใช้ยากลุ่ม calcium channel blocker และยากลุ่ม angiotensin II receptor type I antagonist นอกจากนี้มีรายงานการใช้ยากลุ่ม prostacyclin antagonist ได้ผลดีเช่นกัน
ยาลดการเกิดเยื่อพังผืด ช่วยลดการทำลายอวัยวะที่สำคัญ D-pennicillamine, colchicine และgamma interferon
ยาชื่อ relaxin ซึ่งเป็นโปลิเปปไทด์ และจัดเป็น cytokine growth factor ชนิดหนึ่งที่ยับยั้ง transforming growth factor beta overexpression ของโปรคอลลาเจนชนิด I และ II และเพิ่มการสร้างเอนไซม์ matrix metalloproteinase
ยาลดการอักเสบ หรือกดภูมิคุ้มกัน ได้แก่ glucocorticoids, azathioprine, cyclophosphamide
ผู้ป่วยควรจะได้รับอาหารที่เคี้ยวง่าย และมีโปรตีนสูง รวมทั้งควรจะได้รับวิตามินเสริม ไม่ควรรับประทานสารที่มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดตีบ รักษาร่างกายให้อบอุ่นรวมทั้งมือและเท้า ควรจะสวมถุงมือหรือถุงเท้าในฤดูหนาว หากมีอาการมาก อาจจะต้องแช่น้ำอุ่นทุก 4 ชั่วโมง การทำกายภาพบำบัดโดยการนวดด้วยน้ำอุ่น หรือการออกกำลังกาย ช่วยชลอการดำเนินของโรค ทาครีมบริเวณผิวหนังที่แข็ง และ หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้โรคเป็นมากขึ้น เช่น silica, chlorinated ethylens, solvents, plastic monomers
ที่มา : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพกรุงเทพ
|
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
![](http://www.teenee.com/thank/trd.jpg) |
โดย :ฟากฟ้าทะเลฝัน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม 2552 เวลา 14:03
วันที่ 23 พ.ค. 2552
Advertisement
![คุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์ คุณลักษณะของผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่พึงประสงค์](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,414 ครั้ง ![กินหอมหัวใหญ่.....ลดโรคไม่ติดต่อได้ กินหอมหัวใหญ่.....ลดโรคไม่ติดต่อได้](news_pic/p99039331626.jpg) เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง ![ฮีตสิบสอง ฮีตสิบสอง](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,402 ครั้ง ![งานวิจัย "บริหารจัดการคุณภาพกระบวนการแบบเดมมิ่งของโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วมนักเรียนออทิสติก โรงเร งานวิจัย "บริหารจัดการคุณภาพกระบวนการแบบเดมมิ่งของโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วมนักเรียนออทิสติก โรงเร](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,400 ครั้ง ![>>>>ทะเลที่สวยที่สุดในโลก !!!!! >>>>ทะเลที่สวยที่สุดในโลก !!!!!](news_pic/p37939071337.jpg) เปิดอ่าน 6,397 ครั้ง ![อยากรู้จักครูอัตราจ้างของเขต 2 ทุกคนค่ะ อยากรู้จักครูอัตราจ้างของเขต 2 ทุกคนค่ะ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,386 ครั้ง ![6 สหายนำสุขภาพดีมาสู่คุณ... 6 สหายนำสุขภาพดีมาสู่คุณ...](news_pic/p56144941411.jpg) เปิดอ่าน 6,395 ครั้ง ![เรายิ้มรับความเศร้าได้ เรายิ้มรับความเศร้าได้](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,405 ครั้ง ![จินตนาการของสุนทรภู่......ที่เป็นจริงในปัจจุบัน จินตนาการของสุนทรภู่......ที่เป็นจริงในปัจจุบัน](news_pic/p45078632137.jpg) เปิดอ่าน 7,329 ครั้ง ![หมั่นถอนวัชพืชในใจ หมั่นถอนวัชพืชในใจ](news_pic/p76843132232.jpg) เปิดอ่าน 6,397 ครั้ง ![วิธีคลายเครียด..... ทันใจ วิธีคลายเครียด..... ทันใจ](news_pic/p42440101623.jpg) เปิดอ่าน 6,391 ครั้ง ![ความบกพร่องของ พุทธบริษัท ความบกพร่องของ พุทธบริษัท](news_pic/p74950181838.jpg) เปิดอ่าน 6,395 ครั้ง ![คิดยังงัย...ก็เขียนไปแบบนั้น คิดยังงัย...ก็เขียนไปแบบนั้น](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,408 ครั้ง ![ชม...ธนบัตร ๑๐ บาท ....๔ สมัย ชม...ธนบัตร ๑๐ บาท ....๔ สมัย](news_pic/p96504941252.jpg) เปิดอ่าน 6,397 ครั้ง ![นิทานเวตาล เรื่องที่ ๑ นิทานเวตาล เรื่องที่ ๑](news_pic/p18951521337.jpg) เปิดอ่าน 6,518 ครั้ง ![อาถรรพ์.<><><> ของดินแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ปัญหาคาใจ ที่ไม่มีใครเฉลย... อาถรรพ์.<><><> ของดินแดนสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ปัญหาคาใจ ที่ไม่มีใครเฉลย...](news_pic/p81426831721.jpg) เปิดอ่าน 6,395 ครั้ง
|
![เข้าใจตัวเองหรือเข้าข้างตัวเอง...? เข้าใจตัวเองหรือเข้าข้างตัวเอง...?](news_pic/p32334221434.jpg)
เปิดอ่าน 6,395 ☕ คลิกอ่านเลย |
![@ ตีงู @ @ ตีงู @](news_pic/p86314690053.jpg)
เปิดอ่าน 6,398 ☕ คลิกอ่านเลย | ![เคล็ดลับ.....การเลือกของขวัญให้ถูกใจ.....ตามราศี เคล็ดลับ.....การเลือกของขวัญให้ถูกใจ.....ตามราศี](news_pic/p13494200636.jpg)
เปิดอ่าน 6,387 ☕ คลิกอ่านเลย | ![-->วิธีการล้างรถด้วยตนเอง -->วิธีการล้างรถด้วยตนเอง](news_pic/p38723960553.jpg)
เปิดอ่าน 6,398 ☕ คลิกอ่านเลย | ![9 วิธีสมองไบร์ท...แน่นอน!! 9 วิธีสมองไบร์ท...แน่นอน!!](news_pic/p36080291759.jpg)
เปิดอ่าน 6,393 ☕ คลิกอ่านเลย | ![การผิวปากเรียกลม ได้จริงหรือ...?????? การผิวปากเรียกลม ได้จริงหรือ...??????](news_pic/p76956980943.jpg)
เปิดอ่าน 6,514 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ยี้ ?ผ้าขี้ริ้วเช็ดครัว? อันตรายกว่าที่คิด ยี้ ?ผ้าขี้ริ้วเช็ดครัว? อันตรายกว่าที่คิด](news_pic/p65050171820.jpg)
เปิดอ่าน 6,401 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ ![การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7 การพิมพ์ TILDE ( ~ ) ใน Windows 7](news_pic/p53105821118.jpg)
เปิดอ่าน 15,322 ครั้ง | ![ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21 ภาวะผู้นำยุค 4.0 ในพลวัตศตวรรษที่ 21](news_pic/p75540131849.jpg)
เปิดอ่าน 34,457 ครั้ง | ![ฟื้นความทรงจำ ลำนำบทอาขยานย้อนยุค ฟื้นความทรงจำ ลำนำบทอาขยานย้อนยุค](news_pic/p18729470602.jpg)
เปิดอ่าน 65,317 ครั้ง | ![ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ? ชาวเน็ตร่วมพิสูจน์! คลิปพญานาคโผล่เล่นน้ำสกลนคร...จริงหรือ?](news_pic/p84620650644.jpg)
เปิดอ่าน 16,937 ครั้ง | ![ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย? ใครว่าการเขียนด้วยลายมือนั้นล้าสมัย?](news_pic/p13751480853.jpg)
เปิดอ่าน 55,866 ครั้ง |
|
|