เหตุเพียงหนึ่ง ฤาจะลุกลามถึงคนส่วนใหญ่ ...ใคร่ตริตรอง
.......................
นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่นจับกุม น.ส.ทิพย์สุดา ชนุกาญจน์ หรือครูหมอก อายุ 42 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) กาฬสินธุ์ เขต 3 ขณะนัดรับเงิน 3 หมื่นบาท จากนายประยูร มานนท์ ครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านเขวา ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เพื่อแลกกับการแก้ผลคะแนนการประเมินวิทยฐานะให้ผ่านการประเมินเลื่อนวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษว่า การจะเพิกถอนหรือพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของ น.ส.ทิพย์สุดา ต้องรอกระบวนการสืบสวนสอบสวน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้เสร็จสิ้นก่อน แต่ในระหว่างนี้จะมีการพิจารณาถึงการต่อใบอนุญาตของครูคนดังกล่าว โดยจะมีการขึ้นบัญชีกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมด้วย ซึ่งคุรุสภาจะมาพิจารณาอีกครั้งว่าจะให้ต่อใบอนุญาตหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คุรุสภา กำลังจัดทำระเบียบคุรุสภาเรื่องการพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพชั่วคราวของข้าราชการครูที่ทำผิดและระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราวไม่เกิน 5 ปี
ด้านนายประเสริฐ งามพันธุ์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามักจะมีคนร้องเรื่องข้าราชการครูถูกเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการผ่านประเมินวิทยฐานะ แต่เมื่อสำนักงาน ก.ค.ศ.ลงไปตรวจสอบก็จะไม่พบหลักฐาน แม้ว่าบางกรณีรู้อยู่ว่าผิด ซึ่งการแก้ปัญหาเรื่องนี้ลำพังสำนักงาน ก.ค.ศ. คงไม่สามารถแก้ปัญหาได้เองหมด จะต้องอาศัย ผอ.สพท.ผู้บริหารสถานศึกษาและข้าราชการครูช่วยกันสอดส่อง การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมครูคนดังกล่าวได้ถือเป็นเรื่องดี เพราะที่ผ่านมายังไม่สามารถจับกุมตัวใครได้ ส่วนที่ครูรายดังกล่าวซัดทอดว่าร่วมมือกับกรรมการประเมินเพื่อแก้ไขคะแนนนั้น หากมีความชัดเจนว่ากรรมการประเมินเกี่ยวข้อง สำนักงานก.ค.ศ.ก็จะต้องไปดำเนินการกับกรรมการคนนั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการประเมินวิทยฐานะ แต่นี่เป็นเพียงแค่ส่วนน้อย ระบบการประเมินและเลื่อนวิทยฐานะที่มีอยู่แล้วไม่ได้เสียหายอะไร.
ขอบคุณ...ไทยรัฐออนไลน์ ครับ