กรณีศึกษาที่ 1 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
คบกันมาตั้งหลายปีดีดัก แต่เพิ่งจะมารู้ตัวว่าเพื่อนรักแทงข้างหลังคุณจนมิดด้าม แถมยังทำหน้าแบ๊วใส่ ซื่อไร้มลทิน ประหนึ่งว่าไม่เคยทำร้ายกันมาก่อน
วิธีแก้
ข้อหนึ่ง วิธีของนางฟ้า ทำเป็นไม่รู้ซะ เพระถึงยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน คิดเสียว่าถ้าเราไม่บังเอิญไปรู้ก็ยังคงสนิทกันเหมือนเดิมได้ ไม่แน่ วันหนึ่งเขาอาจจะเสียใจก็ได้ที่ทำกับเราอย่างนี้
ข้อสอง ทำแบ๊วกลับไป แต่แอบกัดเล็ก ๆ เช่น "เนี่ย...วันก่อนไปได้ยินเชอรี่นินทายัยแก้วเข้า ต๊าย ! ตัวเองรู้มั้ย เห็นยัยเชอรี่หน้าตาดี ๆ อย่างนั้นอะนะ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะแทงเพื่อนข้างหลัง คนอย่างนี้เนี่ยคบไม่ได้ ถ้าชั้นเป็นยัยแก้วชั้นคงไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน แหม...หลงไปคบคนหน้าเนื้อใจ็ลำบากอย่างนี้ล่ะนะ" รับรองว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของคุณต้องจิกเกร็งอยู่ในใจจนตะคริวกินไปเลยล่ะ อยากแบ๊วดีนักต้องเจอแบบนี้ค่า
กรณีศึกษาที่ 2 เพื่อนกินแรง
การทำงานเป็นกลุ่มแบ๊วเพื่อนเอาเท้าราน้ำ ในขณะที่เราจ้ำพายสุดกำลังนั้นแสนจะเหนื่อยหนักหนาสาหัส บางครั้งก็เป็นเพื่อนสนิทก็ไม่รู้จะพูดจะอธิบายยังไงดี เพราะความจริงเป็นเรื่องที่พวกเขารู้อยู่แล้วว่าถ้าจะให้ถึงเป้าหมายโดยสวัสดิภาพ ทุกคนต้องเลิกเอาเท้าราน้ำ แล้วคว้าพายมาช่วยกันจ้วงเรื่องแบบนี้ต้องแก้ไขนะคะ ห้ามทำตัวเป็นนางเอกยุค ร.ศ.80 สมัยยังมาเลิกทาส ถึงคุณตรากตรำทำไปจนหลังแตกตายก็ไม่มีใครเห็นใจหรอกค่า
วิธีแก้
บอกกับเธอหรือเขาคนนั้นไปตรง ๆ แบบมีเหตุผล เช่น "จริงๆ เราก็ไม่ได้จะตำหนิเธอหรืออะไรนะ เพียงแต่ว่าการทำงานเป็นกลุ่มมันต้องช่วยกัน งานถึงจะเสร็จเร็วอีกอย่างนะเธอใช้โปรแกรมตัดต่อเก่งกว่าเราเยอะ ภาษาเธอก็ดีกว่า เนี่ยถ้าได้เอจัดการส่วนนี้กลุ่มเราต้องได้คะแนนดีแน่ ๆ เลย" ประมาณว่าชมด้วยหน่อยนึง
กรณีศึกษาที่ 3 เพื่อนทะเลาะกัน
คิดว่าทุกคนคงเคยตกอยู่ในสถาการณ์นี้มาก่อน คือเพื่อนในกลุ่ม ทะเลาะกัน แล้วพยายามจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ส่วนคุณเองก็ลำบากใจ ไม่รู้จะเลือกใครดี คุณควรพิจารณาด้วยเหตุและผลก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามการทะเลาะกันเป็นเรื่องของเพื่อนสองคนนั้น ถ้าคุณไม่ได้ไปหมางใจกับเพื่อนคนใดเป็นพิเศษก็ไม่ควรไปร่วมวงด้วย เพราะไม่ใช่กิจของคุณแต่อย่างใด
วิธีแก้
วางตัวเป็นปกติกับเพื่อนทั้งสองคน ถ้าทั้งสองฝ่ายพยายามบังคับให้คุณเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งควรบอกเค้าไปตรงๆว่า การที่พวกเขาทะเลาะกันนั้น คุณเข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล ส่วนคุณเองก็มีเหตุผลเหมือนกัน เหตุผลคือทั้งสองคนนั้นเป็นเพื่อนที่ดีของคุณมาโดยตลอดและคุณก็หวังว่าจะเป็นตลอดไป จะดีมากเลยถ้าทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันได้ แต่ถ้าตอนนี้ยังไม่พร้อมคุณก็รอได้ รอให้ทุกฝ่ายเย็นลงก่อนแล้วค่อยมาคุยกันอีกทีจะดีกว่า
กรณีศึกษาที่ 4 จับได้ว่าแฟนโกหก
คุณรักแฟนคนนี้มาก สวีทกันมาตลอด จู่ ๆ ก็มาค้นพบว่าแฟนคุณแอบไปเดทกับสาวอื่น นาทีที่รู้คุณรู้สึกเหมือนกำลังถูกทรยศหักหลัง อยากจะกระโดดถีบหน้าแฟนสักที แต่อย่าเพิ่งค่ะใจเย็นก่อน ถ้าคุณคิดว่าเขายังควรค่ากับความรักของคุณ ทำตามคำแนะนำของเดี๊ยนดีกว่า
วิธีแก้
ข้อหนึ่ง ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน อย่าเพิ่งโวยวายให้ไก่สะดุ้ง ต้องใจเย็นไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ ตะล่อมถามเป็นนัย ๆ ว่าที่เขาไปมีคนอื่นนี่เรารู้นะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้โทษเขาฝ่ายเดียว อาจจะมีบางอย่างที่เรายังไม่พร้อมสำหรับเค้ารึเปล่า ถ้ามีอะไรที่เรายังขาดก็บอกได้นะ เรายินดีรับฟัง แต่ขอแค่อย่าทำอย่างนี้อีก จะคบใครก็คบคนนั้นไปคนเดียวดีกว่า
ข้อสอง ถามเค้าตรง ๆ ว่าเพราะอะไรถึงทำอย่างนี้ แล้วบอกเค้าว่าครั้งนี้จะให้อภัย แต่ครั้งต่อไปอย่าทำอีก
กรณีศึกษาที่ 5 งานเยอะมาก จนจะทับคอหักตายแล้วววววววว.....
ตารางเรียนแน่นเอี๊ยดไม่มีเวลาว่าง ไหนจะต้องเรียนพิเศษ เรียนเปียโน เรียนบัลเล่ต์ แถมยังต้องอ่านหนังสือสอบอีกต่างหาก เรียกว่าได้นอนวันสามชั่วโมงก็หรูแล้วล่ะ
วิธีแก้
พักสักนิดถ้าคุณเริ่มล้า ผ่อนคลายด้วยสิ่งที่คุณรัก เช่นการฟังเพลง เล่นกับสุนัข แล้วค่อยกลับไปทำงานต่อ วิกฤติคือโอกาสที่ดี ถ้าคุณทำเต็มที่ก็ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังที่พลาดอะไรไป
กรณีศึกษาที่ 6 โดนเพื่อนจิกกัดอยู่ตลอดเวลา
เคยมั้ยคะ ขนาดไม่ได้ทำอะไรแค่หายใจยังผิด ประมาณว่าไม่ถูกใจ คุณเธอเลยต้องแสดงออกทั้งทางสีหน้าและแววตาว่าชั้นไม่พอใจนะยะหล่อน ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสถานการณ์นั้น เดี๊ยนมีมีวิธีเก๋ ๆ มาแนะนำ
วิธีนางฟ้า น้ำนิ่งไหลลึก ทำหน้าเย็นชาอย่าไปสะทกสะท้าน ทำเหมือนหล่อนไม่มีตัวตนมองผ่านหล่อนไปเลย คิดซะว่าหล่อนเป็นอากาศธาตุ แค่นี้หล่อนก็จุกตายแล้วจ้า
วิธีมนุษย์เดินดิน ถามเธอคนนั้นไปตรง ๆ ว่าเธอไม่พอใจอะไร เราเคยไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจรึเปล่า ถ้าสามารถคุยกันได้ก็คุยไป ถ้าคุยกันดี ๆ ไม่ได้ก็มึนใส่ไปเลยนะ คนพวกนี้มักจะมีปมด้อย ชีวิตไม่ค่อยมีความสุข เหลาขาดคนสนใจ ไม่มีใครรัก ทำบุฯแล้วกรวดน้ำให้หล่อนดีกว่า จะได้ไปผุดไปเกิดซะที
กรณีศึกษาที 7 มีปัญหาเรื่องการเรียน
การเรียนตกลง หรือเริ่มมีปัญหา เอนท์ฯไม่ติดอายเพื่อน รู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้จะไปยังไงต่อดี
วิธีแก้
อย่างแรก ปรับความคิดของคุณก่อน การเอนท์ไม่ติดเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดได้กับคนทั่วไป คนเอนท์ไม่ติดมีมากกว่าคนเอนท์ติดตั้งหลายเท่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดพิสูจน์ได้ว่า คนที่เอนท์ติดจะประสบความสำเร็จกว่าคนเอนท์ไม่ติด คนเอนท์ติดถ้าไม่ตั้งใจเรียน โดนไทร์ขึ้นมา จะแย่กว่าด้วยซ้ำ คุณสามารถปรึกษารุ่นพี่หรืออาจารย์ เพื่อมองหาทางเลือกอื่น ๆ เช่น ศึกษาต่อในมหาลัยเปิด ศึกษาต่อในต่างประเทศ หรือเบนเข็มไปทางด้านสายอาชีพแทน
กรณีศึกษาที่ 8 รู้สึกว่าครอบครัวไม่เข้าใจเรา
น้อง ๆ หลายคนชอบบ่นว่าเบื่อที่พ่อแม่ไม่ค่อยเข้าใจ ทำอะไรก็ไม่ดี ไม่อยากอยู่บ้าน เบื่อไปหมด พ่อก็ดุ แม่ก็ขี้บ่น ฯลฯ
วิธีแก้
ถามตัวเองก่อนว่าคุณเข้าใจคนอื่นดีหรือยัง ถ้าคุณจะไม่ให้พ่อแม่บ่น ก็ต้องทำให้เขาเลิกรักหรือรู้สึกเป็นห่วงคุณนั่นแหละ คนเรามีวิธีการแสดงออกความรักที่ไม่เหมือนกัน แต่คนสองคนที่ไม่มีวันไม่รักคุณ ไม่ว่าจะแสดงออกหรือไม่ก็ตามคือพ่อกับแม่ คุณอาจจะเคยได้ยินบ่อยแล้วที่ใคร ๆ บอกว่าบ่นเพราะเป็นห่วง ดุก็เพราะรัก แต่มันเป็นเรื่องจริง คนเราถ้าไม่รักไม่เป็นห่วงกันเค้าไม่คอยดูแลเรามาจนโตพอจะเถียงเค้าได้หรอกนะคะ เพราะฉะนั้น เวลาที่พ่อแม่ตักเตือนคุณควรรับฟังและนิ่งไว้ก่อน ถ้าสามารถนำไปปฏิบัติได้ก็ทำ แต่ถ้าไม่ได้ก็พยายามต่อไป อย่ามัวแต่คิดน้อยใจไปเลยจ้ะ
กรณีศึกษาที่ 9 เงินไม่พอใช้
มีเท่าไหร่ไม่เคยเหลือ แถมยังต้องเบิกล่วงหน้าอีกด้วย ตอนนี้สภาพกรอบยิ่งกว่าหมูแผ่น เปราะบางมากขนาดพอใช้วันต่อวัน (อันนี้ผู้เขียนเป็นบ่อยค่ะ) ถ้าขึ้นรถผิดสายต้องเดินกลับบ้านกันเลยทีเดียว
วิธีแก้
จัดระบบรายรับรายจ่ายใหม่ จดทุกอย่างที่จ่ายไปไม่ว่าจะเป็นค่าอะไร เลิกรสนิยมสูงถ้ารายได้คุณไม่พอจ่าย กระเป๋าอะไรที่ใส่เงินได้ก็ใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกุดจี่ หรือป้าดา สมัยนี้เงินทองหายากจะตายไปจะมาหรูไปเพื่ออะไรกันคะเพื่อน ๆ กระเป๋าจะกระจอกงอกเหง้าแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าในนั้นมีแบงค์อัดแน่นอยู่ความกระจอกก็ไม่สำคัญอะไร ถ้าคุณเลิกรสนิยมสูงไม่ได้จริง ๆ แนะนำให้ใช้วิธีค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ทยอยออม ถ้าคิดจะไปเซ็ทผมที่ร้านเมื่อไหร่ให้เข้าห้องน้ำไปสระผมแล้สออกมาเซ็ทเอง จากนั้นก็หยอดกระปุกไป 200ค่าเซ็ทผม สิ้นเดือนมาเปิดดูคุณอาจจะได้กระเป๋าใบใหม่โดยไม่ต้องเป็นหนี้ก็ได้นะ
ที่มา http://hazuki.exteen.com