จบไปหนึ่งเรื่อง มีแถมให้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็สำคัญมากเช่นกัน นั่นก็คือ การฝึกฟังจากรายการที่สอนเน้นเรื่องListeningโดยเฉพาะ ซึ่งผมได้รับการโวยวายจากแฟนๆฟุดฟิดฟอร์ฟันเป็นจำนวนไม่น้อย ว่าให้เน้นเรื่องนี้บ้าง โอ.เค. เราจัดให้เลยครับ
ลองเข้าไปที่นี่ครับ http://intereladsd.blogspot.com/2007/06/200.html ลองศึกษาดูให้ละเอียด ถ้าจะลองฝึกฟังการสนทนาที่มีSpeedหรือความเร็วในการพูดที่ช้านิดหนึ่ง(เ้หมาะกับชาวต่างชาติที่เรียนรู้การพูิดอังกฤษเป็นภาษาที่สอง อย่างเช่น คนไทยเรานี่แหละครับ)ก็ทำได้ โดยเมื่อเข้าไปในblogดังกล่าวข้างต้นแล้ว ให้คลิกไปที่ http://www.eslpod.com/website/index.php แล้วไปที่ Latest Podcasts จะมีบทสนทนามากมายหลายเรื่องให้เราเลือกคลิกเข้าไปฟัง ดีมากครับ หลังจากจบบทสนทนา ก็จะเป็นการอธิบายซ้ำ, แจกแจงขยายความอย่างละเอียดด้วยประโยคง่ายๆให้เราเข้าใจชัดเจนแจ่มแจ้ง และปิดท้ายด้วยบทสนทนานี้ที่ความเร็วปกติ(แบบที่ฝรั่งเจ้าของภาษาเขาพูดกัน) เรา Download ไปฟังที่ไหน เมื่ิอไรก็ได้ มีมากมายหลายหน้า ลองศึกษาดูนะครับ
หรือถ้าเราจะฝึกฟัง(ข่าว)ไปด้วย-อ่านไปด้วย(อันนี้ก็ดีมากครับ เป็นการอ่านข่าวด้วยความเร็วปกติ ที่เราจะรู้สึกว่า มันสนุกดี และจะไม่รู้สึกว่า มันเร็วเกินไป เพราะมีเนื้อข่าว(Script)ให้เราดูด้วย)ก็เข้าไปที่http://www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/newsenglish/index.shtml แล้วก็คลิกที่รูปลำโพง(Listen to the story) และยังมีแถมในตอนท้าย จะมีสอนการออกเสียงคำศัพท์บางคำในข่าวนั้น(Listen to the words)พร้อมคำแปลสั้นๆ ซึ่งมีประโยชน์มากครับ.
-เรื่องที่เรียน จะไม่น่าเบื่อ เพราะเป็นข่าวสารที่ทันสมัย ทันยุค ทันเหตุการณ์ และเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ยิ่งถ้าคุณเรียนรู้ เพื่อจะนำไปใช้ในชีวิตจริงละก็ จะพบว่า มีประโยชน์มากครับ.
-ในเว็บไซต์ข่าวเช่น BBC.ที่ยกมานี้(หรือเว็บข่าวเว็บอื่นๆ) ยังมีเรื่องอื่นๆที่ สนุกสนานและน่าสนใจอีกมากมายหลายหัวข้อ(หลายเรื่องครับและพวกเราก็อาจจะชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน) ให้เราคลิกเข้าไปดู ที่เป็นบทเรียนง่ายๆสนุกๆและช่วยในการเรียนรู้ ก็ยังมีอีกเยอะแยะ พวกเราลองคลิกๆหากันเองนะครับ
อยากให้พวกเรา ลองฝึกดู สัก 3-6 เดือน แล้วแจ้งผลการเรียน มาให้ทราบบ้างนะครับ
(เอ้อ! เกือบลืมไป..ยังมีอีกนิดหนึ่งครับ..ที่พวกเราควรจะต้องสนใจ นั่นก็คือ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่ออกในบ้านเรา เช่น บางกอกโพสต์และ ฯลฯ...เข้าเว็บหนังสือพิมพ์เหล่านี้ก็ได้ครับ เช่น bangkokpost.com (ถ้าเราไม่อยากซื้อ) แล้วเลือกอ่านข่าวที่เราสนใจ จะเข้่าใจได้ง่ายกว่าข่าวหรือเรื่องราวของต่างประเทศ(Print ออกมาเก็บไว้อ่านเมื่อมีเวลาก็ได้ครับ))(อยากย้ำตรงนี้ว่า ทุกครั้งที่คุณนั่งหน้าจอคอมฯและคิดถึงคำว่า"ข่าว"ละก็ ให้เข้าเว็บหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่ออกในบ้านเราก่อนเลย-เป็นอันดับแรก ถ้ายังอยากดูหนังสือพิมพ์ภาษาไทย-อนุญาตให้ดูได้เฉพาะหัวข้อข่าวเท่านั้น(อ่านผ่านๆ-เอาแบบเร็วๆ ห้ามเกิน 2 นาที) แล้วให้ไปอ่านแบบละเอียดในหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่ออกในบ้านเรา ดังกล่าวข้างต้น-ห้ามขัดขืนนะครับ..อ้ะๆๆ)
(แถมอีกเรื่องครับ พวกเราควรจะหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องที่เราสนใจมากๆมาติดตัวหรือไว้ใกล้ๆมือสักเล่ม-สองเล่ม ซึ่งถ้าเป็นเรื่องที่เราชอบ เราก็จะ็อยากอ่านและจะเข้าใจได้ไม่ยากครับ ยกตัวอย่างเช่นตัวผมเอง สมัยที่อยู่อเมริกา ผมจะชอบเล่นเทนนิสและชอบดูการถ่ายทอดเทนนิสและบาสเก็ตบอล(ในสมัยนั้น คนที่นั่น จะยังไม่รู้จักฟุตบอล(Soccer)ครับ ผมก็จะมีหนังสือเกี่ยวกับกีฬาสองชนิดนี้หลายเล่มครับ))
แถมแล้วก็แถมอีกครับ..ผ่างๆๆๆ!!!-มีข่าวดีมาแจ้งให้ทราบว่า มี Talking Dict.ให้ใช้ได้ฟรีสำหรับพวกเราทุกคนครับ..ไม่ต้องเสียเงินซื้อเป็นพันเป็นหมื่นกันอีกต่อไป..เป็นการออกเสียงให้พวกเราได้ฟังกันอย่างชัดเจน เหมือนมีเจ้าของภาษามานั่งออกเสียงให้ฟังอยู่ตรงหน้า. What more do you want? อัะๆๆ.. มีอยู่หลายเว็บครับ เช่น answers.com ใช้งานง่ายๆ โดยพิมพ์คำศัพท์ที่เราต้องการทราบความหมายลงไป-กด search ลองอ่านคำแปลและศัพท์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง แล้วคลิกที่รูปลำโพง เพื่อฟังการออกเสียง-อ้ะๆๆ..สนุกดีครับ..และถัดลงไปหน่อย ก็จะเป็นประโยคตัวอย่าง ซึ่งมีคำที่เราค้นหานั้นอยู่ด้วย..เราก็จะได้ฟังประโยคยาวๆครับ
.....ให้ลองเสิร์ชดูด้วยGoogleเพื่อหาเว็บอื่นๆเพิ่มเติมนะครับ(ผมจดเอาไว้หลายเว็บ) ..เลือกกันเอาเอง ผมขออนุญาต ที่จะไม่เชียร์รายหนึ่งรายใด ประเดี๋ยวเจ้าอื่นๆจะว่าเอา..(ถ้าหาไม่เจอ อี-แมว มาถามผมก็ได้ครับ)
อืม! หรือจะเป็นเรื่องจริง ที่ว่า "The best things in life are free."
ถ้าเป็นจริง อย่างที่คนทั้งโลกเขาเชื่อกัน ก็ดีนะครับ แต่ก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า
If the best things in life are free, then what do we need money for?
เอิ๊กส์ๆๆๆ..
ลองดูนะครับ แล้วอย่าลืม อี-แมว มาคุยกันบ้างนะครับ
รักและเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน