Advertisement
❝ รวมความว่า ความเซ็งคืออารมณ์พันทางที่ผสมผสานระหว่างความหงุดหงิด ความเบื่อ และความเอียน ความเซ็งมีถึงสามระดับ กล่าวคือ ผู้ที่มีความเซ็งขั้นธรรมดาเพราะไม่มีอะไรทำ ควรจับอะไรบางอย่างขึ้นมาทำแก้เซ็ง ผู้ที่เซ็งเพราะความเบื่อความจำเจ ก็ควรเติมเสน่ห์หรือใส่ผงชูรสลงในสิ่งจำเจนั้น ส่วนท่านที่เซ็งถึงขนาดเอียนชีวิต เพราะสูญเสียเป้าหมายของชีวิตกระทันหัน ก็ควรมองหาจุดประสงค์อันอื่น แล้วกล้าตัดสินใจเลือกทางใหม่ของชีวิต. ❞
สุดแห่งความเซ็ง
|
|
|
"ความเซ็งประการสุดท้าย" คือความเซ็งระดับสุดยอดที่เรียกกันว่า "ความเอียน" นั่นคือความเบื่อโลก หรือเอียนชีวิต ตรงกับคำว่า นิพพิทา หรือความหนายโลก ใครที่เอียนชีวิตจะมีความเซ็งชนิดถาวร มองเห็นโลกไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย ถ้าไม่ออกบวชหรือฆ่าตัวตาย ก็มีชีวิตอย่างหมดชีวิตชีวา ความเอียนชีวิตเกิดมาจากสาเหตุที่ว่า เป้าหมายในชีวิตได้พังทะลายลงอย่างกระทันหัน
บางครั้งเป้าหมายหรืออุดมคติในชีวิต ได้พังทะลายลงเพราะร่านิยมของเราเปลี่ยนแปลงไปเอง เป้าหมายที่เราเคยตั้งไว้กลายเป็นสิ่งที่ไร้คุณค่า ตัวอย่างคือ เจ้าชายสิทธัตถะ เคยมองตำแหน่ง จักรพรรดิว่าเป็นสิ่งชวนไขว่คว้า ต่อมาเมื่อทรงพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงของชีวิต พระองค์ทรงมองไม่เห็นคุณค่า ของความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิอีกต่อไป เป้าหมายชีวตเดิมได้พังทะลายลง ความเอียนชีวิตได้ครอบงำพระทัยของพระองค์ ดังนั้น จึงทรงหาเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิต คือ "ทรงปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า"
เป้าหมายชีวิตของคนธรรมดา อาจถูกทำลายได้ เพราะเห็นระบบสังคมที่ฟอนเฟะ หรือผู้นำที่ไม่เอาไหน ซึ่งทำให้คนอยู่ในสังคมอย่างหมดหวัง บางคนจึงทำตัวเป็นฮิปปี้ ผู้สูบกัญชายาเสพติด บางคนหมดศรัทธาในพ่อแม่ของตัวเอง ก็หันเข้าหายาเสพติด เขามียาเสพติดไว้จุดประกายชีวิตชีวาในหัวใจ ผู้หวังดีต่อเขาอาจให้การบำบัดทางกาย จนเขาพ้นอิทธิพล ของยาเสพติด แต่ใครจะรับประกันได้ว่าเขาไม่หวนกลับไปหกมันอีก เพราะนั่นเท่ากับฉุดเขาออกจากโลกฝันอันบรรเจิด เมื่อเขาเลิกใช้ยาเสพติด แล้วชีวิตเขาอาจจะเซ็งมาก จนเขาต้องกลับไปหายาเสพติดอีก ดังนั้น เขาควรได้รับการบำบัดทางใจอย่างรีบด่วน ด้วยการหาเป้าหมายเป็นหลัก ยึดในชีวิตของเขา
คนเอียนชีวิตอีกประเภทหนึ่ง คือ คนผิดหวังอย่างแรง เพราะเป้าหมายชีวิต ถูกสาเหตุภายนอกทำลาย เช่น นักเรียนผู้ทุ่มเทกับการเรียนอย่างมาก แต่ก็สอบตกอย่างพลิกล็อค นักธุรกิจผู้ประสบกับสภาพล้มละลายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว นายกรัฐมนตรีถูกคณะปฏิวัติจี้ให้สละเก้าอี้ อย่างกระทันหัน คนเหล่านี้เป็นผู้ผิดหลังอย่างแรงจนเกือบหมดอาลัยตายอยากในชีวิต มีสภาพเหมือนกับคนอกหัก คนผู้กำลังตกอยู่ในห้วงรัก ย่อมวาดวิมานในอากาศเขาสู้ถากถาง สร้างอนาคตรอใครคนหนึ่ง หยาดเหงื่อแรงงานทุกหยดหยาดหลั่งแล้วเพื่อสร้างรังรักสำหรับใครคนนั้น แต่แล้ววันที่ฝ้าไม่ปราณีก็มาถึง เมื่อรังรักถูกฟ้าผ่าเพราะใครคนนั้นตีจากไป เขาหยุดการสร้างตัวทันที ถ้ากำลังเรียนก็เลิกเรียน ถ้ากำลังทำงานก็ทิ้งงาน เขาไม่รู้จะสร้างอนาคตต่อไปทำไมหรือเพื่อใคร เขาคงอยากหลับฝันถึงความหลังครั้งก่อนเก่าดีกว่าลืมตาตื่นมาพบชีวิตจริงที่เลื่อนลอย คนอกหักจึงมีทั้งอดีตอันขมขื่น และปัจจุบันที่สุดเซ็ง ความเอียนไม่ว่าจะเป็นของคนประเภทใด ล้วนเนื่องมาจากการพังทะลายของเป้าหมายในชีวิต ถ้าเราประสบกับความเอียนเช่นนี้จะทำอย่างไร ชีวิตอันหมดที่หมาย มีสภาพไม่ผิดกับว่าวหลุดจากสายป่าน ดังนั้น ต้องประคองตัวให้ดีอย่าให้ความผิดหวังหรือความเอียนทำลายอนาคตหรือดับชีวิตของเรา ปลอบตัวเองด้วยคำของโบวีที่ว่า "แม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเสียไปแล้ว อนาคตก็ยังอยู่ และ สถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายที่สุดอย่างที่เราคาดคิด ในวันอารมณ์เสีย ทั้งสถานการณ์ก็ไม่ได้ดีที่สุดอย่างที่เราคาดคิด ในวันอารมณ์ดี" จากนั้นจึงสร้างเป้าหมายใหม่ให้กับชีวิต อย่างแช่มช้าแต่มั่นคง ข้อสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เราไม่ปล่อยชีวิตให้ล่องลอยไปตามยถากรรม เพราะถ้าขืนปล่อยไปเช่นนั้น สถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เราต้องรีบสร้างเป้าหมายใหม่ของชีวิต มาทดแทนสิ่งที่พังทะลายไป เหมือนอย่างพระพุทธองค์ ทรงเลือกโพธิบัลลังค์ แทนราชบัลลังค์ ส่วนมากคนเราไม่กล้าเลือกแนวทางชีวิตใหม่ อย่างที่พระพุทธองค์ทรงกระทำ เรากลัวว่าทางใหม่จะเลวร้ายกว่าทางเก่ าแล้วผิดหนักกว่าเก่า ความจริงนั้นเรามีเสรีภาพในการตัดสินใจเลือก ฌองปอล ชาตร์ ยืนยันว่า "มนุษย์ถูกสาปให้มีเสรีภาพ" ดังนั้น เราต้องใช้เสรีภาพในการเลือกแนวทางใหม่ของชีวิต แม้ภายหลังการณ์จะปรากฎว่า เราเลือกทางผิด เราก็ไม่เสียใจ คนที่ลังเลไม่ยอมตัดสินใจเป็นคนน่าสงสาร เขากลัวความเอียนไม่รู้จบน้อยกว่าความรับผิดชอบจากการตัดสินใจ เขามีลักษณะเหมือนคนผู้หลงทางกลางป่า แต่ไม่กล้าเลือกเดินไปตามทางสายใดสายหนึ่ง เพราะกลัวจะไปพบทางตัน คนชนิดนี้จะติดอยู่ในป่าจนตาย คนที่ขาดเป้าหมายใหม่ให้กับตัวเอง ก็จะเซ็งจนตายเช่นกัน.
รวมความว่า ความเซ็งคืออารมณ์พันทางที่ผสมผสานระหว่างความหงุดหงิด ความเบื่อ และความเอียน ความเซ็งมีถึงสามระดับ กล่าวคือ ผู้ที่มีความเซ็งขั้นธรรมดาเพราะไม่มีอะไรทำ ควรจับอะไรบางอย่างขึ้นมาทำแก้เซ็ง ผู้ที่เซ็งเพราะความเบื่อความจำเจ ก็ควรเติมเสน่ห์หรือใส่ผงชูรสลงในสิ่งจำเจนั้น ส่วนท่านที่เซ็งถึงขนาดเอียนชีวิต เพราะสูญเสียเป้าหมายของชีวิตกระทันหัน ก็ควรมองหาจุดประสงค์อันอื่น แล้วกล้าตัดสินใจเลือกทางใหม่ของชีวิต. |
|
วันที่ 22 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,407 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,209 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 13,691 ครั้ง |
เปิดอ่าน 97,328 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,953 ครั้ง |
เปิดอ่าน 22,881 ครั้ง |
เปิดอ่าน 1,642 ครั้ง |
|
|