Advertisement
เซ็งเพราะสภาพจำเจ
|
|
|
ความเซ็งระดับแรกนี้ยังน่ารัก เพราะเราพอปรับใช้ประโยชน์ได้ดังกล่าว แต่เราจไม่พบส่วนดีในความเบื่อ ซึ่งเป็นความเซ็งระดับที่สองเลย ความเบื่อเกิดมาจากสภาพจำเจ เช่น ทำงานเดิมทุกวัน เรียนที่เดิมทุกวัน หรือพบคนหน้าเดิมทุกวัน เหล่านี้สร้างความเบื่อหน่ายและเซ็งอย่างร้ายกาจ เพราะขัดกับสภาพในใจ ของเราที่ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ ตามปกติใจของคนเราชอบสิ่งแปลกใหม่ สิ่งใดที่ได้เป็นกรรมสิทธิ์แล้ว ก็แล้วกันไป เรามองข้ามของเก่าและสอดสายตา หาของใหม่ต่อไป ด้วยอำนาจตัณหา ไม่มีใครฟังคำเตือนที่ว่า "นกตัวเดียวในกำมือ ดีกว่านกสองตัวบนต้นไม้" น้อยคนจะสนใจสิ่งใกล้มือ สวนมากมักพยายามไขว่คว้าสิ่งไกลเกินเอื้อม สิ่งใดที่หามาได้โดยง่าย สิ่งนั้นดูจะมีค่าน้อย ดอกฟ้าที่ยังเกี่ยวอยู่บนกิ่งฟ้าจึงเป็นสุดที่รักสุดบูชา แต่วันใดที่ดอกฟ้าถูกเด็ดลงมาปักแจกัน นับตั้งแต่วันนั้นดอกฟ้าก็ลดค่าลงมาเทียมดอกหญ้า และภาวะจำเจนั่นเองอาจก่อให้เกิดความเซ็งในอดีตดอกฟ้า บางคนพอรู้สึกเบื่อสิ่งใดก็อยากหนีสิ่งนั้น นั่นก็เป็นวิธีแก้เซ็งที่ได้ผลชะงัด แต่ในทางปฏิบัติ เราทำได้ยาก ถึงเราจะเบื่อแสนเบื่อกับงานที่ซ้ำซากจำเจ เราก็ต้องทนทำเพื่อเงินเดือน หรือเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ในงาน บางคนถึงจะเบื่อหน้าคนที่บ้าน ก็ทิ้งเขาไปไม่ได้เพราะมีพันธะผูกพัน คือลูกตาดำ ๆ เสียแล้ว บางท่านแม้จะเซ็งกับชีวิตนักบวชเพียงใด ก็ต้องทนบวช เพราะเป็นถึงเจ้าฟ้าเจ้าคุณ การที่เราต้องทนกับภาวะจำเจต่อไปก็เพราะมีภาวะจำยอม บีบบังคับเรา ดังนั้น แม้จะเบื่อต่อสภาพจำเจเราก็ดิ้นไม่หลุด ทุกคนมีหัวโขนประจำตัว ใครสวมหัวโขนไปแล้วก็ถอดยาก และจะไม่เต้นไปตามบทบาทก็ไม่ได้ เหมือนอย่างเช็คสเปียร์กล่าวว่า "โลกนี้คือโรงละครใหญ่ ชายหญิงไซร้คือตัวละครนั่น"
เมื่อหนีความจะเจไปไม่ได้ เราก็ไม่ควรทนอยู่ด้วยความเบื่อ แต่ควรจะอยู่ด้วยไม่รู้สึกเบื่อหรือเซ็ง วิธีการก็คือ ขั้นแรกเราปรับใจให้ยอมรับและพอใจกับสิ่งจำเจนั้น มองหาเสน่ห์ในความจืดชืด คิดเสียว่า "เมื่อไม่มีสิ่งที่เราชอบ ก็ต้องชอบสิ่งที่เรามี" จากนั้นจึงหาวิธีเพิ่มเสน่ห์ให้กับสิ่งที่เรามี เช่น ถ้าเบื่องานประจำเราก็หาทางปรับปรุงขยับขยายงานนั้น เปิดแผนกใหม่ขึ้นมาบ้าง ไม่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม และที่สำคัญคือไม่กลัวการเสี่ยง ยึดติดว่า "ล้มแล้วก้าวไปข้างหน้า ดีกว่ายืนเต๊ะท่าอยู่กับที่" หรือถ้าทำงานประจำจนเครียด ควรหางานอดิเรกทำสลับฉาก บางคนเขียนหนังสือเป็นงานอดิเรก จนกลายเก็นนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ และบางท่านแม้จะมีงานประจำทำอยู่แล้ว ก็ยังรับตำเหน่งรัฐมนตรีเป็นงานอดิเรก เหตุนั้นการปรับปรุง กิจการภายในจึงเป็นวิธีแก้ความเบื่อได้ดี คนเบื่อบ้านก็อาจตกแต่งห้องใหม่อย่างมีศีลป์ โยกย้ายฟอร์นิเจอร์เสียบ้างบ้านจะได้ดูน่าอยู่ขึ้น หรือสำหรับผู้ที่เบื่อแฟน ก็อาจใช้วิธีเปลี่ยนบรรยากาศ ชวนกันไปทานอาหารนอกบ้าน ไปตากอากาศด้วยกันบ้าง หรือเซ็งหนักเข้าก็ชวนกันไปปิดทองลูกนิมิต แล้วอธิษฐานว่า "ชาติหน้าชาติไหน จงอย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลย" จะได้สิ่นเรื่องสิ้นราวไปเลย
|
วันที่ 22 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,133 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,153 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 56,107 ครั้ง |
เปิดอ่าน 33,355 ครั้ง |
เปิดอ่าน 42,385 ครั้ง |
เปิดอ่าน 34,244 ครั้ง |
เปิดอ่าน 43,851 ครั้ง |
|
|