Advertisement
สาวเกอิชายุคใหม่ เข้าวงการผ่านเว็บ-อีเมล์ |
ถ้าโลกเปลี่ยน แต่วิถีชีวิตของสตรีที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่ยุคโบร่ำโบราณไม่เปลี่ยน จะเกิดอะไรขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์นำเสนอเรื่องราวชีวิตของสาวโคโมโกะ เกอิชาฝึกหัด เพื่อให้คำตอบนี้
เมื่อ 8 ปีก่อน โคโมโกะเป็นเพียงเด็กสาววัยรุ่นญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
วันๆ ขี่จักรยานเล่นไปทั่วเมือง ไม่ก็ไปเล่นบิลเลียดกับเพื่อนๆ ในช่วงสุดสัปดาห์
แต่ตอนนี้ ชีวิตในวัย 23 ปีเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
โคโมโกะ สาวร่างเล็กสูงเพียง 150 เซนติเมตรกลายเป็นเกอิชา หญิงผู้ให้ความบันเทิงชั้นสูงแก่ลูกค้าชายที่นครเกียวโต เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น
อาชีพที่ค่อยๆ หายไปจากสังคมญี่ปุ่น หลังจากสร้างความภูมิใจให้กับเหล่าผู้หญิงที่ทำงานนี้มานานกว่าศตวรรษ ไม่ว่า การเต้นรำพื้นเมืองด้วยท่วงท่าสง่างาม รวมถึงทักษะเล่นดนตรี และสนทนาด้วยวาทะเฉียบคม น่ารัก
สิ่งที่เปลี่ยนไปในอาชีพนี้คือ หนทางเข้าสู่การฝึกเป็นอาชีพ ผ่านมาทางโลกการสื่อสารไฮเทค
เรื่องราวของโคโมโกะ ชื่อที่หมายถึง "ลูกพีชน้อย" ปรากฏในหนังสือเรื่อง "A Geisha"s Journey" (การเดินทางของเกอิชาคนหนึ่ง) เขียนและถ่ายภาพโดย นาโอยูกิ โองิโนะ กำหนดวางแผงในเดือนพฤษภาคมนี้
หญิงสาวเริ่มต้นค้นหาเรื่องราวของการเป็นเกอิชาทางอินเตอร์เน็ต และพบเว็บไซต์ www.e-koito.com เป็นของสำนักเกอิชาชื่อ โอกิยะ จัดทำโดยสาวเกอิชาชื่อโคอิโตะ
"ดิฉันอยากรู้จักเกี่ยวกับบ้านเกิดเมืองนอนมากขึ้น จึงเลือกช่องทางนี้" โคโมโกะให้สัมภาษณ์ขณะแต่งชุดกิโมโน แต่งหน้าขาว ตัดกับปากสีแดงสด
"อยากจะรู้จักประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมของญี่ปุ่นให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ไม่ใช่แค่ใส่ชุดกิโมโน แต่อยากจะมีชีวิตทุกๆ วันแบบที่คนญี่ปุ่นเป็นในอดีต"
วันหนึ่ง โคโมโกะเขียนอีเมล์ไปถึงโคอิโตะ ตามที่บอกไว้ในเว็บไซต์
"ดิฉันตื่นเต้นมากที่ได้เขียนอีเมล์ถึงโคอิโตะซังโดยตรง บอกกับเธอไปถึงความฝันของดิฉันที่อยากจะได้เป็นไมโกะ หญิงฝึกหัดเป็นเกอิชา แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร"
จากนั้นทั้งสองฝ่ายติดต่อเป็นระยะในช่วง 3 ปี จนกระทั่งโคโมโกะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จึงตัดสินใจมาญี่ปุ่น แม้ว่าพ่อแม่จะไม่เห็นด้วยเลย เพราะอยากให้ลูกสาวเรียนมหาวิทยาลัยและได้แต่งงาน
โคโมโกะ ในวัย 15 ปี มุ่งหน้ามายังนครเกียวโตทันที ซึ่งคุณแม่ นะสึ เล่าว่า ตอนนั้นไม่คิดว่าลูกสาวจะเอาจริง
"แม้เธอจะดูมุ่งมุ่น แต่ในโลกของเกอิชาแล้ว คุณต้องทำให้ตัวเองหายไปจากโลกภายนอก"
ในสัปดาห์แรก โคโมโกะเข้าไปอยู่ยังย่านมิยางาวะ-โช เป็นย่านเล็กๆ ที่มีถนนแคบๆ ก่อด้วยหิน บ้านแถบนั้นก่อสร้างด้วยไม้
บทเรียนแรกคือเรียนต้อนรับผู้คนอย่างสุภาพ สง่างาม ไม่ว่าจะเป็นการโค้งคำนับ ใส่กิโมโน และพูดสำเนียงแบบคนเกียวโต
"ปีแรกของการเรียน ทุกๆ วันที่ผ่านไป ดูเหมือนว่า ดิฉันจะถูกดุว่าตลอดเวลา เรียกได้ว่าหน้าที่ของฉันคือถูกดุ"
โคโมโกะเล่าว่า ทุกๆ เย็นที่มีการรวมกลุ่มกัน ห้ามทำผิดอะไรทั้งนั้น และเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ว่าจะมาเรียนกันได้ทันที แต่ต้องเรียนมาจากทุกช่วงจังหวะของชีวิตประจำวัน เพื่อที่ว่าจะไม่ทำอะไรให้อับอายต่อหน้าแขก
บทเรียนแรกๆ ได้แก่ เต้นรำ ร้องเพลง ชงชา เล่นดนตรี ตามด้วยการสังสรรค์ ซึ่งเป็นงานจริงๆ ของเกอิชาที่ต้องทำตั้งแต่ช่วง 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน
เพียงวันเดียวในทุกๆ 2-3 เดือน โคโมโกะถึงจะมีโอกาสใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นปกติทั่วไป ที่ได้ออกไปดูหนัง
"ฉันได้การอบรมตอนแรกๆ ว่า ฉันจะสวยมหัศจรรย์ไม่ได้ จนกว่าจะรักษารอยยิ้มไว้ได้ เท่านั้นแหละความสวยจะปรากฏออกมา แต่จะทำอย่างนี้ได้...ต้องฝึก"
เมื่อถามถึงอนาคต โคโมโกะดูจะวิตกเหมือนกัน เพราะอาชีพนี้ไม่มีเงินบำนาญ ไม่อนุญาตให้แต่งงาน แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีลูกค้าชายเลี้ยงไว้เป็นภรรยาน้อย หรือบางคนเป็นแม้กระทั่งแม่เลี้ยงเดี่ยว
โคโมโกะบอกว่า อนาคตอยากมีลูก ดังนั้น อาจจะเป็นเกอิชาสัก 2 ปีพอ ตอนนี้ไม่มีแฟน เพราะยุ่งมาก และลูกค้าที่มาก็รุ่นพ่อทั้งนั้น
เกอิชาเคยเป็นอาชีพเฟื่องฟู ที่มีสาวๆ เป็นกันถึง 80,000 คนในปี 2471 แต่ทุกวันนี้เหลือเพียง 1,000 คน เพราะผลจากเศรษฐกิจ
ในช่วง 30 กว่าปีที่ผ่านมา เหล่าผู้บริหารบริษัทต่างๆ และนักการเมืองที่เคยเป็นลูกค้าประจำของเกอิชา หนีหายไปหาความบันเทิงราคาถูกกว่าอย่าง คาราโอเกะ หรือเที่ยวบาร์ เพราะการกินอาหารค่ำกับเกอิชาทุกวันนี้ ปาเข้าไปถึง 25,000 บาทต่อคน
คนในแวดวงเกอิชา รวมถึงโคโมโกะ เห็นว่า หนทางที่จะทำให้เกอิชาอยู่รอดได้ อินเตอร์เน็ตคือช่องทางที่ดีทางหนึ่ง
"ในสมัยโบราณ คนรู้จักเกอิชาผ่านการแนะนำกัน แต่ตอนนี้ผู้คนอาศัยข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อย่างย่านมิยางาวะ-โช เสนอตัวเองออกไปทางเน็ต ค่อนข้างยืดหยุ่นมากกว่าย่านอื่น เพราะอยากให้ผู้คนมาสนุกด้วยกัน และนี่ก็เป็นผลดีกับกับย่านนี้" เคียวโกะ ไอฮาระ ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลเกอิชา กล่าว
โคอิโตะ ผู้ฝึกสอนให้กับโคโมโกะ กล่าวว่า "ในเมื่อเวลาเปลี่ยนไป หากคุณยังเสนออะไรเดิมๆ มันไม่เป็นผลดี บริการที่คุณให้ต้องสอดคล้องกับยุคสมัย เราจำเป็นต้องปรับไปตามความต้องการของโลก หากเราไม่เป็นที่ต้องการอีก สิ่งที่เราทำได้อย่างเดียวก็คือ หายไป"
ข้อมูลจาก :
|
วันที่ 22 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,182 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,183 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 40,721 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,452 ครั้ง |
เปิดอ่าน 24,058 ครั้ง |
เปิดอ่าน 25,828 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,736 ครั้ง |
|
|