ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

หุ่นดี..กับวิธีกินแบบหยินหยาง...


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,139 ครั้ง
Advertisement

หุ่นดี..กับวิธีกินแบบหยินหยาง...

Advertisement

กฎการกินแบบหยิน-หยาง
กฎการกินแบบหยิน-หยา
 




หลักการกินแบบหยิน-หยาง


กินอย่างไรให้ดูหุ่นสวย/หรือสมาร์ท แล้วยังอารมณ์ดี อีกต่างหาก.........


ศาสตร์การกินที่มีมานานของจีน ให้คุณได้มากกว่าการลดน้ำหนัก ด้วยแนวคิดพื้นฐานที่ว่า “อาหารแต่ละชนิดมีกระบวนการย่อยแตกต่างกัน” ถ้ารู้จักเลือกกินอาหารที่เข้ากัน ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะทำหน้าที่ได้เต็มที่ สามารถดูดซึมอาหาร เผาผลาญ และขับของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากเพื่อการเผาผลาญอาหารที่รับประทานเข้าไปให้มีความสมดุลแล้ว ปฏิกิริยาต่ออารมณ์จิตใจก็มีผลเช่นเดียวกัน สุดท้ายแล้วการเลือกรับประทานอาหารที่ส่งผลต่อความสมดุลย์ทั้งร่างกายและจิตใจจะส่งผลให้มีความงามของรูปร่าง ความอ่อนวัยของผิวพรรณ และมีอายุยืนยาวนานได้


อาหารประเภทแป้ง


- ไม่ควรกินแป้งกับอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ไม่ควรกินขนมปังที่ทาด้วยแยม ราดน้ำผึ้ง หรือโรยน้ำตาล เพราะน้ำตาลจะไปป้องกันการผลิตเอนไซม์ไทอะลิน ซึ่งทำหน้าที่ย่อยแป้ง ให้เลือกเป็นทาเนยที่ทำจากน้ำมันมะกอก เนยถั่ว หรือชีส


- ไม่ควรกินอาหารจำพวกแป้งกับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำพวกผลไม้รสเปรี้ยว น้ำส้มสายชู เช่น กินก๋วยเตี๋ยวห้ามใส่น้ำส้มสายชู เพราะจะไปขัดขวางการหลั่งเอนไซม์ไทอะลิน ซึ่งทำหน้าที่ย่อยแป้ง


อาหารประเภทโปรตีน


- ไม่ควรกินโปรตีนกับอาหารที่มีไขมันหรือน้ำตาลสูงในมื้อเดียวกัน เช่น ไม่ควรดื่มน้ำหวานหลังหรือระหว่างกินสเต๊ก หรือกินกุ้งชุบแป้งทอดจิ้มน้ำสลัดหรือมายองเนส เพราะโปรตีนจะทำให้ระบบการย่อยน้ำตาลช้าลง ซึ่งน้ำตาลควรได้รับการซึมผ่านเข้าสู่ร่างกายทันทีที่กินเข้าไป และไขมันจะไปขัดขวางให้การย่อยโปรตีนช้าลง


- ไม่ควรกินโปรตีนกับอาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดจำพวกผลไม้รสเปรี้ยวในมื้อเดียวกัน เช่น กินไข่ดาว แฮม ตามด้วยน้ำส้ม เป็นต้น เพราะความเป็นกรดจะไปกำจัดการหลั่งของน้ำย่อยเป๊ปซิน ซึ่งมีหน้าที่ย่อยโปรตีน


- ไม่ควรกินโปรตีนกับแป้ง เช่น ไข่กับขนมปัง สเต๊กกับเฟรนซ์ฟราย เพราะความเป็นกรดและด่างที่ต่างกันมาก จะไปขัดขวางระบบการย่อยอาหาร


- ไม่ควรกินโปรตีนต่างชนิดในมื้อเดียวกัน เช่น เนื้อวัวกับเนื้อไก่ หรือเนื้อหมู่กับเนื้อปลา ให้เลือกกินเนื้อสัตว์ที่อยู่ในประเภทเดียวกัน เช่น เนื้อวัวกับเนื้อแกะ เนื้อไก่กับเนื้อเป็ด เนื้อปลากับเนื้อกุ้ง หรืออาหารทะเลชนิดอื่น


ผลิตภัณฑ์นมและของหวาน


- ไม่ควรดื่มนมหรือโยเกิร์ตพร้อมมื้ออาหารซึ่งจะทำให้เกิดแก๊สในช่องท้อง


- ไม่ควรกินของหวานหรือผลไม้หลังมื้ออาหาร เพราะจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง


อาหารที่ส่งผลต่ออารมณ์ของมนุษย์


อาหารที่ส่งผลต่อการเพิ่มของระดับชีโรโทนินในสมอง เป็นอย่างยิ่งคือ อาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต อาหารจำพวกแป้งจำนวนมาก เช่น ข้าว อาหารประเภทเส้นทั้งหลาย เช่น พาสต้า, บะหมี่, มะกะโรนีฯลฯ ขนมหวานสามารถช่วยเพิ่มระดับชีโรโทนินในสมองและตามมาด้วยความสุขสบายและลดภาวะวิตกกังวล สิ่งนี้ได้พยายามอธิบายว่าทำไมผู้คนทั่วไปจึงรู้สึกง่วงในเวลาบ่ายหลังรับประทานอาหารกลางวันมื้อใหญ่ๆ เช่น กินข้าวหรือเส้นพาสต้า ขนมหวานประเภทลอดช่องมา เป็นเช่นนี้ก็เพราะร่างกายได้หลั่งสารชีโรโทนินในสมองพลอยทำให้ง่วงได้


อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตส่งผลโดยตรงต่อระดับชีโรโทนินในสมองเป็นเพราะ Tryptophan ซึ่งทริปโตเฟนเป็นกรดอามิโนตัวหนึ่งที่สร้างชีโรโทนินให้กับสมองนั่นเอง โดย Tryptophan พบมากในกล้วยหอม


มีสารเคมีของสมองอีกตัวหนึ่งที่สำคัญที่เป็นผลกระทบมาจากอาหารนั่นคือ โดปามีนและนอร์อิทิเนฟริน ซึ่งสารดังกล่าวมีส่วนช่วยให้คนเรารู้จักตื่นตัวมีปฏิกิริยาไวต่อสิ่งกระตุ้น มีความเป็นไปได้ 2 สาเหตุที่ทำให้เกิดปฏิกิริยานี้คือ 1) ระดับชีโรโทนินถูกระงับโดยอาหารจำพวกโปรตีนสูงที่ส่งผลต่อความตื่นตัวและสมาธิของคนเรา หรือ 2) ระดับโดปามีนและนอร์อิทิเนฟริน ถูกเพิ่มโดยอาหารโปรตีนสูง


ช็อกโกแลตเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการหลั่งชีโรโทนินและเอนดอร์ฟิน(Endorphin) ในร่างกาย โดยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดี สิ่งนี้อาจจะอธิบายได้ว่าบางคนที่กินช็อกโกแลตจะรู้สึกได้เลยว่าคนนั้นกำลังอยู่ในอาการเหงาและกำลังต้องการคลายความเหงา (จริงหรือเปล่าลองนึกทบทวนดูค่ะ)


อาหารที่ส่งผลเร็วไห้เกิดปฏิกิริยาในเวลาอันสั้น คือการรับประทานทูน่ามื้อกลางวันช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและมีสมาธิภาใย 2-3 ชั่วโมงหลังรับประทานเช่นเดียวกับการรับประทานพาสต้าผสมซอสมะเขือเทศ ก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายภายใน 2-3 ชั่วโมงเช่นกัน


ขนาดของมื้ออาหาร


อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความตื่นตัวของผู้คนคือ ขนาดของอาหาร อาหารเที่ยงมื้อหนักที่มีปริมาณคลอเลสเตอรอล 1,000 ขึ้นไป เช่น ในแฮมเบเกอร์ 2 ชิ้น มันฝรั่งทอด หรืออาหารที่ดูดซึมได้ช้าย่อยยาก เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง จะเป็นสาเหตุทำให้มีกระแสเลือดไหลเวียนในกระเพาะสูง ใช้เวลานานในการย่อย ส่งผลทำให้กระแสเลือดไหลเวียนไปสมองน้อยลง ทำให้เรารู้สึกง่วง ซึม เพลียได้


อารมณ์ขั้วบวกและการลดภาวะวิตกกังวล


กลุ่มของการชีวเคมีของสมองที่ส่งผลให้เกิดอารมณ์และการอยากอาหารคือ Endorphin แอชเคอร์นั้นเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นที่ออกฤทธิ์คล้ายยีน ที่จะช่วยให้มีอารมณ์ขั้วบอกเพิ่มความทนต่อความเจ็บปวด และลดภาวะวิตกกังวล เอนดอร์ฟินช่วยลดความเจ็บปวด ออกฤทธิ์ระหว่างออกกำลังกาย ผลของมันรู้จักกันดีในนาม “สารกระตุ้นสำหรับนักวิ่ง”


อาหารที่อุดมด้วยเอนดอร์ฟินก็คือ อาหารจำพวกที่มีสาร phynelethylanine พบมากในช็อกโกแลต ช็อกโกแลต เป็นสิ่งที่หลายคนหลายวัฒนธรรมชอบกินเป็นที่ทางร่างกาย บางรายงานวิจัยเคยศึกษาพบ ช็อกโกแลตช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น เพราะมันเต็มไปด้วย น้ำตาล ไขมัน phynelethylanine และคาเฟอีน น้ำตาลในช็อกโกแลตมีความสัมพันธ์กันกับการเพิ่มขึ้นของสรวีโรโทนิน และ phynelethylanine มีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของเอนดอร์ฟิน ด้วยเหตุผล 2อย่างดังกล่าวข้างต้นเราจึงเรียกปฏิกิริยานี้ว่า “สารเพิ่มความสุขของสมอง” และคาเฟอีนในช็อกโกแลตก็เป็นการกระตุ้นชั้นดีอีกด้วย


ส่งท้าย


กล่าวโดยสรุปแล้ว จะพบว่าหากต้องการสวยคงยากจะอารมณ์ดี แต่หากต้องการเป็นคนอารมณ์ดียากจะหุ่นสวย ด้วยว่าอาหารที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์นั้นดูจะเป็นอุปสรรคกับหุ่นงาม การปฏิบัติอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อค่อยๆปฏิบัติด้วยสติคงจะทำได้ไม่ยาก ว่าด้วยหลักการของความสมดุล หรือว่าทางสายกลางคงเป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายและปฏิบัติได้ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตนเองนะ............


โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 21 พ.ค. 2552


หุ่นดี..กับวิธีกินแบบหยินหยาง...

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สะอาดแบบรักษ์โลก

สะอาดแบบรักษ์โลก


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
ล้างพิษด้วย

ล้างพิษด้วย '....ถั่วดำ


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด

สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
ทาน...ความเห็นแก่ตัว

ทาน...ความเห็นแก่ตัว


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
หน้ามืดเพราะเมา

หน้ามืดเพราะเมา


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
รู้ไว้...ใช่ว่า

รู้ไว้...ใช่ว่า


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
บทคัดย่อการศึกษา CAI

บทคัดย่อการศึกษา CAI


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง
 แค่คิด(ดี)ก็ สวยแล้ว

แค่คิด(ดี)ก็ สวยแล้ว


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
นิทานธรรมะ ....... สามเณรน้อย

นิทานธรรมะ ....... สามเณรน้อย


เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง
คนฉลาด

คนฉลาด


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์

เทคนิคการสอนคณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ยินยอม ต้องผูกพัน
ยินยอม ต้องผูกพัน
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

นิทานเวตาล.... เรื่องที่ 8
นิทานเวตาล.... เรื่องที่ 8
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

Miss Tiffany
Miss Tiffany's 2009...กับบทสัมภาษณ์ที่น่าคิด
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

มีสื่อการเรียนการสอนของเด็กปฐมวัยขาย
มีสื่อการเรียนการสอนของเด็กปฐมวัยขาย
เปิดอ่าน 7,409 ☕ คลิกอ่านเลย

น้ำทับทิม......ทำหน้าเต่งตึง-ประโยชน์เพียบ
น้ำทับทิม......ทำหน้าเต่งตึง-ประโยชน์เพียบ
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

ฟักมีประโยชน์จริงหรือ ?
ฟักมีประโยชน์จริงหรือ ?
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คู่มือการปฏิบัติงานการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
คู่มือการปฏิบัติงานการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
เปิดอ่าน 21,839 ครั้ง

ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
ประเภทของเครื่องปรับอากาศ และวิธีใช้อย่างประหยัด
เปิดอ่าน 12,805 ครั้ง

ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6
ไฟร์ฟอกซ์ แซง ไออี 6
เปิดอ่าน 9,908 ครั้ง

AutoPlay Media Studio
AutoPlay Media Studio
เปิดอ่าน 24,603 ครั้ง

เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เดินหน้าปฏิรูป โครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ 59 โดย เพชร เหมือนพันธุ์
เปิดอ่าน 12,950 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ