ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

หนีไม่พ้น...ต้องรู้ภาษาต่างประเทศ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,140 ครั้ง
Advertisement

หนีไม่พ้น...ต้องรู้ภาษาต่างประเทศ

Advertisement

หนีไม่พ้น...ต้องรู้ภาษาต่างประเทศ

              หลายประเทศทั่วโลก ต่างวางแนวทางพัฒนาเด็กและเยาวชนให้สามารถพูด อ่าน และเขียนได้ตั้งแต่ 2 ภาษา (Bilingual) 3 ภาษา (Trilingual) หรือมากกว่า

แต่น่าแปลกที่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกากลับพบว่ามีการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศน้อยมาก กล่าวกันว่า มีเด็กอเมริกันน้อยกว่าร้อยละ 40 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาษาต่าง-ประเทศ สาเหตุที่ทำให้การพัฒนาภาษาต่างประเทศในสหรัฐฯ ไม่ก้าวหน้ามากนักในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือ อคติที่มีต่อชาวต่างชาติ จึงทำให้ความสนใจพัฒนาภาษาต่างประเทศมีน้อยตามไปด้วย อีกทั้ง ความสนใจที่มีต่อประเทศต่าง ๆ มีน้อยมาก เมื่อ ค.ศ. 2002 นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic-Roper) ได้สำรวจความสนใจของนักเรียนมัธยมในสหรัฐฯ พบว่า มีเพียงร้อยละ 17 เท่านั้น ที่สามารถระบุว่า ประเทศอัฟกานิสถานอยู่ตรงไหนบนแผนที่โลก และการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อ ค.ศ. 2006 พบว่า เด็กอเมริกันที่มีอายุระหว่าง 18-24 ปี เกือบครึ่งคิดว่า ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าประเทศใดอยู่ตรงไหน และมากกว่า 1 ใน 3 คิดว่าไม่จำเป็นเลยที่ต้องเรียนภาษาต่างประเทศ มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้น ที่คิดว่าจำเป็นอย่างมาก

 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีส่วนผลักดันให้สหรัฐฯ ต้องเร่งพัฒนาภาษาต่างประเทศคือ ความมั่น-คงระหว่างประเทศ และผลประโยชน์ทางธุรกิจ แอนน์ ซี เลวิส (Anne C. Lewis) ผู้มีส่วนสำคัญในการเขียนนโยบายการศึกษา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า เป็นเรื่องน่าอายที่สหรัฐฯ ได้ชื่อว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ แต่กลับถูกแยกจากโลกภายนอก เพราะการไม่รู้ภาษาและวัฒนธรรมของประเทศอื่น และเร็ว ๆ นี้ สหรัฐฯ อาจประสบกับปัญหาด้านการป้องกันประเทศและผลประโยชน์ธุรกิจ สอดคล้องกับตัวแทนจากภาคธุรกิจและการอุดมศึกษาของคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ (Committee for Economic Development) กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่แสดงความเห็นว่า ความเชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศเป็นพื้น-ฐานสำคัญในการเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ทั้งในด้านการทหารและธุรกิจ

ข้อเสนอและโครงการพัฒนาภาษาต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา

เริ่มตั้งแต่อนุบาล ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสอนภาษาต่างประเทศ ออกมาเสนอแนะว่า การพัฒนาภาษาต่างประเทศควรเริ่มต้นอย่างจริงจังตั้งแต่ระดับอนุบาล Rita Oleksak อดีตประธาน American Council on the Teaching of Foreign Languages (ACTFL) เสนอว่า ทางเดียวที่จะปิดช่องว่างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ คือ ทักษะภาษาต่างประเทศ ซึ่งควรเริ่มต้นพัฒนาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงอุดม-ศึกษา เพราะหากไปเริ่มต้นที่วัยทำงานจะไม่ประสบความสำเร็จ

ประสานความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (Department of Defense: DOD) กำลังตัดสินใจดำเนินโครงการพัฒนาภาษาจีนระดับมหาวิทยาลัยในมลรัฐออริกอน และโรงเรียนต่าง ๆ ในเมืองพอร์ตแลนด์ และปัจจุบันหลายมลรัฐเข้าร่วมโครงการ “Foreign Language Assistance Program” ของกระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯ (U.S. Department of Education) และ National Security Language Initiative (NSLI) ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนกว่า 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาภาษาจีน อารบิก ฮินดี เกาหลี และรัสเซีย

ผลักดันร่วมกันทั่วประเทศ มลรัฐต่าง ๆ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาภาษาต่างประเทศ เช่น มลรัฐ-มินนิโซตา ร่วมมือกับสภามหาวิทยาลัยมินนิโซตา (University of Minnesota) พัฒนาหลักสูตรพัฒนาการออกเสียงภาษาจีนให้ผู้เรียนเกรด 12 และสร้างเครือข่ายครูสอนภาษาจีน เพื่อช่วยพัฒนาการสอน การประเมินผลและการฝึกอบรม มลรัฐลุยเซียนา บังคับโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกโรงเรียนมีโปรแกรมการฝึกออกเสียงภาษาต่างประเทศวันละ 30 นาที สำหรับผู้เรียนเกรด 4 และ 6 สัปดาห์ละ 150 นาที สำหรับผู้เรียนเกรด 7 และ 8 มลรัฐแมสซาชูเซตส์ คณะกรรมการการศึกษาบังคับให้ทุกโรงเรียนต้องสอนภาษาจีนแมนดา-รินให้ผู้เรียนเกรด 8 มลรัฐเคนทักกี หน่วยงานด้านการศึกษาของมลรัฐเคนทักกี ได้บูรณาการภาษาต่างประเทศเข้ากับหลักสูตรพื้นฐานของโรงเรียน 1 ภาษาเป็นอย่างน้อย มลรัฐอิลลินอยส์ บังคับให้ภาษาต่างประเทศเป็นวิชาหนึ่งในหลักสูตรของโรงเรียน มลรัฐยูทาห์ จัดโปรแกรมนำร่องที่เรียกว่า “Critical language” สอนการวิเคราะห์องค์ประกอบภาษา เช่น ภาษาจีน อารบิก รัสเซีย ฟาร์ซีหรือเปอร์เซีย ฮินดี และเกาหลี ฯลฯ

ปัจจุบัน นานาประเทศตระหนักถึงความสำคัญของการมีทักษะภาษาต่างประเทศมากกว่ายุคก่อน ๆ เนื่องมาจากการค้าระหว่างประเทศและความมั่นคงระหว่างประเทศ คนทั่วโลกต้องติดต่อสื่อสารกันมากขึ้น ทักษะภาษาต่างประเทศจึงถือเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งไม่เพียงทักษะภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ปัจจุบันผู้คนต่างสนใจพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศที่ 3 หรือ 4 ภาษา ขึ้นอยู่กับความจำเป็น อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน อารบิก เยอรมัน รัสเซีย ฯลฯ

การพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศในไทย

ประเทศได้พัฒนาการเรียนการสอนทักษะภาษาต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ปรับหลักสูตรภาษาอังกฤษใหม่ และรัฐบาลได้จัดตั้งสถาบันภาษาอังกฤษ เพื่อติดตามปรับปรุงหลักสูตรภาษาอังกฤษในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และฝึกอบรมครูภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้วางยุทธศาสตร์ให้ผู้เรียนสังกัด สพฐ. เรียนภาษาต่างประเทศนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาจีน มาเลเซีย พม่า เวียดนาม และฝรั่งเศส อีกทั้ง ตามสถาบันสอนภาษาของเอกชนหลายแห่ง ต่างตื่นตัวรับความต้องการพัฒนาภาษาต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยเปิดสอนภาษาต่างประเทศที่ได้รับความนิยม เช่น เกาหลี จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเก่งภาษาที่ 2 หรือ 3 จะส่งเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนนานา-ชาติ หรือโรงเรียนที่เปิดสอน 2 ภาษา ซึ่ง ศธ.อนุญาตให้โรงเรียนที่มีความพร้อมเปิดสอนได้ แต่ให้อยู่ภายใต้ข้อกำหนดของ ศธ. โดยผู้ปกครองต้องเสียค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูงกว่าหลักสูตรทั่วไป เพราะโรงเรียนต้องจ้างบุคลากรที่เชี่ยวชาญภาษาต่างประเทศมาสอน และต้องจัดหาอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่เอื้อต่อการเรียนการสอน

         ผลที่เกิดขึ้นยังพบว่า การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของเด็กและเยาวชนไทย ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญ คือ ปัญหาการขาดแคลนครูภาษาอังกฤษที่มีคุณภาพ แนวทางแก้ไปขอเสนอ ดังนี้

การแก้ปัญหาขาดแคลนครูและพัฒนาครูภาษาต่างประเทศ ปัญหาการขาดแคลนครูภาษาต่างประเทศส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล และโรงเรียนขนาดเล็ก ศธ.อาจจัดทำสื่อการสอนในรูปแบบซีดี วีซีดี วิดีโอ เพื่อจัดส่งให้โรงเรียน หรือการสอนทางไกล ในส่วนโรงเรียนที่มีครูภาษาต่างประเทศเพียงพออยู่แล้ว แต่ขาดการสอนที่มีคุณภาพ ศธ.ควรฝึกอบรมทักษะการสอนรูปแบบใหม่ ๆ อยู่เสมอ อาจทำในรูปแบบการอบรมโดยตรง หรือการอบรมทางไกลตามความเหมาะสม

การพัฒนาหลักสูตรภาษาต่างประเทศ ศธ.ควรสนับสนุนงบประมาณศึกษาวิจัย เพื่อจัดทำหลัก-สูตรภาษาต่างประเทศที่เหมาะสมในแต่ละช่วงชั้น เช่น รูปแบบกิจกรรมและเนื้อหาในหลักสูตร ภาษาต่าง-ประเทศที่ควรสอนในแต่ละช่วงชั้น เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยทั่วประเทศได้รับการสอนผ่านหลักสูตรที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน

เพิ่มจำนวนครูสอนภาษาต่างประเทศหลายภาษา การที่รัฐบาลมีเป้าหมายพัฒนาผู้เรียนสังกัด สพฐ. เรียนภาษาต่างประเทศนอกเหนือจากภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาจีน มาเลเซีย พม่า เวียดนาม ฝรั่งเศส ฯลฯ คงไม่สามารถเป็นไปได้หากยังไม่มีครูเชี่ยวชาญในภาษาเหล่านั้นอย่างเพียงพอ ดังนั้น ศธ.ควรวางเป้า-หมายอย่างเจาะจงลงไปอีกว่า จะเพิ่มจำนวนครูที่สอนภาษาต่างประเทศแต่ละภาษาปีละกี่คน เพื่อให้เพียงพอต่อจำนวนโรงเรียนทั่วประเทศ อาจกำหนดให้มหาวิทยาลัยที่มีคณะศึกษาศาสตร์หรือครุศาสตร์เปิดหลักสูตรภาษาต่างประเทศหลายภาษา เพื่อผลิตครูสอนภาษาต่างประเทศให้เพียงพอ

สภาพยุคโลกาภิวัตน์ที่ทุกอย่างเชื่อมโยงกันในทุกด้าน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การศึกษา การบันเทิง การเมือง ฯลฯ ส่งผลให้ภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาสากล จะมีความสำคัญมากขึ้น ดังนั้น รัฐบาลไทยควรเร่งพัฒนาคนไทย ให้มีความพร้อมด้านทักษะภาษาต่างประเทศ โดยเริ่มวางรากฐานตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จนถึงช่วงวัยแรงงาน

ขอบคุณที่มาข้อมูลผู้เขียน ดร.นลินี ทวีสิน  ข้อมูลจาก www.vichakarn

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 20 พ.ค. 2552


หนีไม่พ้น...ต้องรู้ภาษาต่างประเทศ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เมื่อรักบังเกิด

เมื่อรักบังเกิด


เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง
กฎทอง 10 ข้อ ของคนรักกัน

กฎทอง 10 ข้อ ของคนรักกัน


เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง
วิธีแก้.....รองเท้ากัด

วิธีแก้.....รองเท้ากัด


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
ยุคทั้งสี่....ที่ควรรู้ไว้

ยุคทั้งสี่....ที่ควรรู้ไว้


เปิดอ่าน 7,201 ครั้ง
 ....จริงหรือ?????

....จริงหรือ?????


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
Box Office

Box Office


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
Happy New Year.

Happy New Year.


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

อยากผิวหน้าสวยจากธรรมชาติ....เชิญทางนี้ค่ะ...

อยากผิวหน้าสวยจากธรรมชาติ....เชิญทางนี้ค่ะ...

เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
เสียงร้อง..จากนักเรียน..เคล็ดลับการร้องเพลงให้ไพเราะ..
เสียงร้อง..จากนักเรียน..เคล็ดลับการร้องเพลงให้ไพเราะ..
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

สวยใสจากภายใน.....ด้วย 4 อาหารผิว
สวยใสจากภายใน.....ด้วย 4 อาหารผิว
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธีปอกเปลือกไข่ต้ม ให้สวยงามน่ากิน
วิธีปอกเปลือกไข่ต้ม ให้สวยงามน่ากิน
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

   วสันต์แห่งรัก.....พักตรงนี้...ที่มีเธอ
วสันต์แห่งรัก.....พักตรงนี้...ที่มีเธอ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ดูดวง.....แบบอินเดีย....นะนะนาย...จ๋า...
ดูดวง.....แบบอินเดีย....นะนะนาย...จ๋า...
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย

กระตุ้นสมองและความจำด้วย ......สุคนธบำบัด
กระตุ้นสมองและความจำด้วย ......สุคนธบำบัด
เปิดอ่าน 7,134 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
ผู้บริหารการศึกษาควรได้รับการปฏิรูปก่อน
เปิดอ่าน 12,103 ครั้ง

ไข้กาฬหลังแอ่น
ไข้กาฬหลังแอ่น
เปิดอ่าน 17,038 ครั้ง

ไข้เลือดออก ฉบับการ์ตูนเข้าใจง่าย สไตล์หมอหมึกดุ๋ย
ไข้เลือดออก ฉบับการ์ตูนเข้าใจง่าย สไตล์หมอหมึกดุ๋ย
เปิดอ่าน 23,854 ครั้ง

“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
“ไมโครกรีน” ผักจิ๋ว แต่คุณประโยชน์สูง...ทางเลือกใหม่ของผู้รักสุขภาพ “ทานน้อยแต่ได้ประโยชน์มาก”
เปิดอ่าน 34,799 ครั้ง

การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
เปิดอ่าน 71,373 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ