มาดูแลฟันผุกันเถอะ
เมืองไทยได้ชื่อว่าเป็น “สยามเมืองยิ้ม” พบเจอกันเป็นต้องยิ้มทักทายกัน แต่รอยยิ้มของเราจะสวยสดใสแค่ไหน ส่วนสำคัญหนึ่งก็มาจากอวัยวะภายในช่องปากนั่นคือ “ฟัน” ของเรานั่นเอง แต่เอ…..ถ้าเราเริ่มรู้สึกปวดฟันเราอาจกำลังเสี่ยงกับโรคฟันผุได้ หลายคนคงอยากรู้แล้วใช่มั๊ยค่ะว่าโรคฟันผุเป็นอย่างไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร เรามาช่วยกันสำรวจและป้องกันโรคฟันผุกันดีกว่าค่ะ
* จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคฟันผุ ?
ปกติฟันเราจะมีสีขาวอมเหลืองและผิวฟันเรียบ แต่ถ้าเป็นรอยขาวขุ่นเมื่อเทียบสีกับสีฟันปกติ มีจุดสีดำบนฟัน หรือฟันเป็นรูและมีเศษอาหารติดอยู่ด้วยแล้วมักจะปวดฟันอยู่บ่อยๆ ถ้าใครมีอาการอย่างที่ว่ามาแสดงว่าฟันผุชัวร์
* โรคฟันผุเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิวฟัน ทำให้ผิวฟันมีการสูญเสียแร่ธาตุ สาเหตุมาจากกรดที่เกิดจากเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในคราบฟัน มีลักษณะเหมือนแผ่นฟิลม์บางๆ เกาะติดแน่นกับผิวฟัน เมื่ออยู่ในช่องปากนานๆเป็นเหตุให้ฟันมีการสูญเสียแร่ธาตุไปมากจึงเกิดฟันผุขึ้น
* คราบขาวๆ เหลืองๆ ที่ติดตามคอฟันหรือซอกฟันมันคืออะไรน่ะ ?
ถ้าคนทั่วๆไปจะเรียกขี้ฟัน แต่ถ้าคุณหมอฟันเค้าจะเรียกคราบจุลินทรีย์ค่ะ แล้วคราบจุลินทรีย์ก็คือเชื้อโรค เพราะฉะนั้นขี้ฟันจะประกอบไปด้วยสารพัดเชื้อโรคที่มาเกาะกลุ่มยึดติดกันแน่นอยู่ที่ตัวฟันและผิวของเหงือก ไอ้บรรดาเชื้อโรคที่อยู่ในขี้ฟันนี้แหละเป็นตัวการทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ
* วิธีกำจัดคราบจุลินทรีย์ให้หมดไปล่ะ ?
ข้อแรกเลยนะค่ะ ควรทำความสะอาดฟันทุกครั้ง หลังรับประทานอาหารด้วยการแปรงฟันให้ทั่วถึงทั้งด้านนอกและด้านในและบริเวณฟันที่ใช้เคี้ยวอาหารบ่อยๆ รวมทั้งใช้อุปกรณ์เสริมขัดฟัน เช่น ไหมขัดฟันที่ช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ตามซอกฟันที่แปรงเข้าไม่ถึง และสิ่งที่สำคัญคือการเลือกรับประทานอาหารด้วย อาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลเป็นต้นเหตุให้คราบจุลินทรีย์สร้างกรดขึ้นมาได้บ่อยจนก่อให้เกิดฟันผุ ควรเลือกรับประทานผัก ผลไม้ นม เนย ถั่ว และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยๆจะดีกว่านะค่ะ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวเมื่อทานเสร็จแล้วก็ควรแปรงฟันค่ะ
* ฟลูออไรด์ ช่วยให้ฟันไม่ผุได้จริงหรือ ?
จริงสิค่ะ เราลองสังเกตดูว่าในยาสีฟันทุกยี้ห้อจะมีส่วนผสมของฟูออไรด์อยู่ด้วย เพราะฟูออไรด์เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อฟันโดยตรง ช่วยให้ฟันแข็งแรง และป้องกันฟันผุได้จริง
* ป้องกันฟันผุยังไง ?
1.งดอาหารหวาน ลูกอม ท๊อฟฟี่ หรือถ้ากินแล้วควรบ้วนปาก แปรงฟันทุกครั้ง
2. แปรงฟันให้ถูกวิธี
3. ตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ และย้อมสีคราบฟันจะช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ที่ติด ค้างตามตัวฟันได้
3. สำหรับคนที่ผิวฟันไม่แข็งแรง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุสูง ควร ใช้ฟลูออไรด์ เพื่อช่วยให้ฟันคงทนต่อกรด
4. ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจช่องปากและฟันทุกๆ 6 เดือนนะจ๊ะ
* สำหรับใครที่ฟันผุแล้ว ขอแนะนำว่าหมอฟันเท่านั้นที่ช่วยเราได้ .....เพราะ
- หากอยู่ในอาการเริ่มต้นหมอฟันสามารถรักษาฟันผุเราได้
- ฟันที่ผุเป็นโพรงไม่มากนัก หมอจะอุดฟันให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ลุกลาม
- สำหรับฟันกรามของใครอยู่ในอาการน่าเป็นห่วงหรือกลัวว่าฟันกรามจะผุ หมอจะใช้วัสดุเคลือบหลุมร่องฟันไว้เพื่อป้องกันฟันผุ
- ส่วนฟันที่ผุทะลุโพรงประสาทฟัน และเกิดฝีหนองที่ปลายรากอาจทำให้หน้าบวมได้ หมอจะเจาะระบายหนองและรักษารากฟัน แต่ถ้าไม่ได้อาการลุกลามมากขึ้นก็ต้องถอนฟันค่ะ
เมื่อรู้สาเหตุของการเกิดโรคฟันผุแบบนี้แล้ว ก็อย่ามัวปล่องให้ฟันผุนะค่ะ ควรรีบดูแลเอาใจใส่ฟันและช่องปากให้มีสุขภาพฟันที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเราโดนถอนหมดก่อนนะจ๊ะ ...เดี๋ยวยิ้มแล้วไม่สวย
ขอบคุณที่มาข้อมูล