Advertisement
อาการปวดหัวนั้น ไม่จำเป็นที่คุณต้องพึ่งยาเสมอไป ลองมาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติดูก่อนดีไหมคะ....
1. บำบัดด้วยน้ำ
วางถุงน้ำแข็งบนหน้าผาก หรือจะใช้ผ้าเย็น ๆ โพกศีรษะก็ได้ค่ะทำไปพร้อมกับการแช่เท้าในน้ำอุ่น ค่อย ๆเพิ่มความร้อนของน้ำขึ้น ใช้เวลา 15-20 นาที อาการปวดหัวจะทุเลาลงค่ะ
2. งดอาหาร
อาหารแสลงบางชนิด เช่น เนื้อรมควัน ชอคโกแล็ค ผงชูรส ไส้กรอก เบคอน และ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มักเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหัวได้
3. ใช้วิตามิน
การขาดวิตามิน B- COMPLEX อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ลองมองหาอาหารที่มี วิตามินบีมาก ๆ เช่น ผักโขม กะหล่ำปลีข้าวซ้อมมือ และอาหารธัญพืชต่าง ๆ
4. ขิง
มีงานวิจัยพบว่า ขิงมีคุณสมบัติในการแก้ไมเกรน หากมีอาการปวดหัวในช่วงบ่าย ๆ ลองจิบน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้ว ถ้าไม่สะดวกจะต้มเอง ขืงผงบรรจุซอง ก็สะดวกดีค่ะ
5. น้ำมันหอม
น้ำมันหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติในการลดความกระวนกระวายใจได้ ลองนำมานวดบริเวณขมับ ไรผม และต้นคอ จะช่วยผ่อนคลายได้
6. นวด
การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ หาใครสักคนมาคอยนวดที่ต้นคอและช่วงไหล่หรือจะนวดเองก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดค่ะ
7. ไปเดินเล่นสักห้านาที
การเดินเล่นจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินส์ ซึ่งเป็นยาแก้ปวดขนานเอก
8. ดนตรีบำบัด
ถ้าคุณปวดหัวจากความเครียด ในทางการแพทย์ค้นพบว่า ดนตรีช่วยบำบัด อาการได้ โดยเฉพาะดนตรีทีมีท่วงทำนองเรียบง่ายฟังสบาย ๆ อาจมีสรรพเสียง ของธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้องเกลียวคลื่น เสียงนก หรือลมฝน จะช่วยกล่อมจิตใจให้สงบนิ่งขึ้นช่วยลดความตึงเครียดได้
เป็นวิธีแก้อาการปวดหัว แบบธรรมชาติกันจริงๆ ใครชอบแบบไหนก็ลองทำดูนะคะ รับรองว่าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ถ้าทำทุกวิธีแล้วยังไม่หาย ก็ก็ถึงเวลาที่คุณควรไปพบแพทย์แล้วล่ะค่ะ
ปวดหัวจากความเครียด
มีอาการปวดบริเวณรอบศีรษะ รู้สึกมมึนๆเหมือนสมองถูกบีบ มักเกิดจากความเครียดหรืออาการอ่อนเพลีย การพักผ่อนให้เพียงพอหรือนวดบริเวณต้นคอและขมับจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวชนิดนี้ได้ หรือจะใช้วิธีการฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ และหายใจลึกๆและสำหรับการทำงานที่ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ควรจะหยุดพักเป็นระยะๆ รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดอาการปวดหัวชนิดนี้ได้ค่ะ
ปวดหัวจากแอลกฮอล์
มักมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา ,ถ้าคืนไหนคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์มากเกินไปก่อนเข้านอนควรจะดื่มน้ำตามมากๆด้วยเนื่องจากน้ำจะช่วยต้านฤทธิ์ของแอลกฮอล์ได้ส่วนรุ่งเช้าควรดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากเมาค้างได้
ปวดหัวจากไซนัส
จะมีอาการปวดบริเวณดั้งจมูกและเบ้าตาวิธีการบรรเทาอาการปวดหัวแบบนี้ ต้องพึ่งยาลดน้ำมูก เพื่อให้จมูกโล่ง หรืออาจจะใช้วิธีประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น การจิบเครื่องดื่มอุ่นๆก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าคุณมีไข้ ควรจะหาหมอด้วยนะคะ
ปวดหัวจากคาเฟอีน
จะมีอาการปวดตุ๊บๆบริเวณด้านบนของศีรษะอาการส่วนใหญ่จะคล้ายๆกับปวดหัวที่เกิดจากความเครียด ถ้าคุณปวดหัวแบบนี้ การพักผ่อนให้เต็มอิ่ม จะช่วยได้ดีทีเดียว การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และการนอนเป็นเวลาจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการปวดหัวชนิดนี้ได้แต่ถ้าคุณติดกาแฟ ก็ควรจะดื่มให้เป็นเวลา(เวลาเดียวกันทุกวัน) และดื่มเพียงวันละ1-2 แก้ว จะดีกว่า
ปวดแบบไมเกรน
จะมีอาการปวดตุ๊บๆ บริเวณศีรษะข้างใดข้างหนึ่งบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนนั้น เชื่อว่าเกิดจากระดับฮอร์โมนผิดปกติ อาหารบางชนิดอาจทำให้บางคนเกิดอาการไมเกรนกำเริบมากขึ้นได้ เช่น ไวน์แดง เนื้อสัตว์แปรรูป ผงชูรสการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่นร้อนอบอ้าวเกินไปความหิว ความตื่นเต้น การเดินทางหลายๆแห่งในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดไมเกรนได้คนที่เป็นไมเกรนบ่อยๆ จึงควรหมั่นสังเกตว่าเกิดจากปัจจัยอะไรจะได้หลีกเลี่ยงได้ การเข้านอนเป็นเวลา และหลับให้เต็มตา จะช่วยผ่อนคลายอาการไมเกรนได้ ส่วนเซ็กส์ที่สุขสมนั้น มีงานวิจัยยืนยันว่า เป็นยาขนานเอกในการบำบัดอาการไมเกรนกันทีเดียว
คนที่มีอาการปวดหัวเรื้อรัง ปวดหัวบ่อยๆ นักวิจัยเขาแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสาร Tyramines และ Nitrite เพราะบางคนอาจจะมีความไวต่อสารสองชนิดนี้ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดและระบบประสาท ทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
ช็อกโกแลต ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรน จะมีอาการกำเริบขึ้นทุกครั้งที่กินช็อกโกแลต คนที่ชื่นชอบช็อกโกแลต อย่าเพิ่งเศร้าใจนะคะ เพราะนักวิจัยเขาบอกต่ออีกว่า ช็อกโกแลตชนิดขาวกินได้ไม่ทำให้ปวดหัวหรอกค่ะ
ไวน์แดง ผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มไวน์แดง จะเกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรง บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนได้ เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มวอดก้ามะนาว ซึ่งไม่เกิดอาการดังกล่าว ผู้ที่มีอาการไมเกรนเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงไวน์แดงจะดีกว่า
กุนเชียง เนื้อแดดเดียว เป็นอาหารที่ผ่านกรรมวิธีทำให้มีสีแดงโดยเติมดินประสิวลงไป ซึ่งก็คือสาร Nitrite ที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการปวดหัวได้
ลูกชิ้นเด้งทั้งหลาย ผู้ผลิตบางรายจะใส่สารบอแร็กซ์ ซึ่งเป็นสารอันตราย ทำให้บางคนเกิดอาการปวดหัว คลื่นใส้ และอาเจียนได้
สารให้ความหวานแทนน้ำตาล สำหรับคนที่มีอาการปวดหัวเรื้องรัง ควรหลีกเลี่ยง เพราะผลการวิจัยระบุว่า ผู้ป่วยไมเกรนจะมีอาการกำเริบขึ้นเมื่อกินสารชนิดนี้เข้าไป
แม้อาการปวดหัว อาจจะไม่ได้เกิดจากอาหารเหล่านี้โดยตรง แต่สำหรับคนที่เป็นโรคปวดหัวเรื้อรัง ควรหลีกเลี่ยงจะดีกว่าค่ะ
ที่มา www.thaihealth.info/
วันที่ 19 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,199 ครั้ง เปิดอ่าน 7,192 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,434 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,163 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 5,387 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,260 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,978 ครั้ง |
เปิดอ่าน 3,842 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,788 ครั้ง |
|
|