Advertisement
วันศุกร์ ที่ 10 เมษายน 2552
สแกนกรรม เผยอดีตชาติ หยั่งรู้ด้วยทิพย์เนตร
Posted by drnakamon.pu , ผู้อ่าน : 1315 , 20:26:19 น. | หมวดหมู่ : drnakamon
พิมพ์หน้านี้
หลังรายการตีสิบหยิบเอาเรื่องราว "อาจารย์เอ๋ - กฤษณา สุยะมงคล" ผู้ที่เพียงแค่เห็นหน้าก็สามารถ "สแกนกรรม" บ่งบอกได้ว่าชาติที่แล้วเคยทำบาปอะไรไว้ และมีผลกรรมอะไรที่จะต้องชดใช้ มาร่วมพูดคุยในรายการ ก็ทำเอาใครๆ ก็อยากรู้รายละเอียดแบบเจาะลึก วันนี้กระปุกดอทคอมเลยจะพาไปให้ค้นหาคำตอบให้ตาสว่าง
อาจารย์เอ๋ หรือ กฤษณา สุยะมงคล ผู้หญิงธรรมดาที่มีญาณทิพย์ติดตัวมาตั้งแต่เด็กโดยที่เธอเองไม่รู้ตัว จนเมื่ออายุ 27 ปี ก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีญาณทิพย์ เพราะช่วงนั้นพบกับความผิดหวังและความตกต่ำ ทำให้เธอหันเหชีวิตเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งธรรม นับแต่นั้นมา การจุดประกายรับรู้ในพลังแห่งญาณทิพย์จึงเกิดขึ้น และทำให้เธอมี "ตาทิพย์" สามารถมองเห็น "กรรมเก่า" ในอดีตชาติของบุคคลทั่วไปได้ รวมทั้งเธอยังสามารถใช้ญาณพิเศษนี้สื่อสารกับดวงวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวร เพื่อรับทราบถึงความต้องการในสิ่งที่ต้องชดใช้ให้กันไม่ว่าจะติดค้างกันมาในภพชาติใดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่คำบอกเล่าก็อาจจะทำให้ใครหลายๆ คนเชื่อได้ ทางรายการตีสิบจึงได้ยกตัวอย่างของการ "สแกนกรรม" มานำเสนอ โดยเชิญ "คุณเจี๊ยบ" ผู้ชมที่อยู่ในห้องส่งขึ้นมา "สแกนกรรม" โดยให้อาจารย์มองหน้า ซึ่งเพียงแค่นี้อาจารย์เอ๋ก็สามารถบอกได้ว่า คุณเจี๊ยบเป็นทหารกลับชาติมาเกิด ฉะนั้นในชาตินี้เวลาจะทำอะไรก็ต้องสู้ชีวิต ส่วนกรรมที่ส่งมาคือจะต้องทำอะไรๆ เองทุกอย่าง ทำมาหากินเอง ปรึกษาใครไม่ได้ ทั้งๆ ที่คุณเจี๊ยบช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา แต่คนอื่นกลับไม่เหลียวแล ประมาณว่าทำดีก็ไม่ได้ดี และจะทำอะไรก็ต้องทำคนเดียว ร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ ซึ่งคุณเจี๊ยบก็ยอมรับว่าเป็นความจริง พร้อมๆ กับน้ำตาไหลอาบแก้ม ซึ่งเป็นการระบายออกถึงความทุกข์ที่เก็บงมไว้คนเดียว
ทั้งนี้ อาจารย์เอ๋ แนะวิธีแก้กรรม คือ ต้องแก้ในใจตัวเองก่อน หมั่นสวดมนต์ภาวนาแล้วชีวิตจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในส่วนของเรื่องสุขภาพนั้น อาจารย์เอ๋มองเห็นภาพว่า คุณเจี๊ยบจะมีปัญหาที่กระดูกบริเวณหลัง เวลาเดินไปไหนจะลำบากมาก เพราะเวลาไปไหนจะไปคนเดียว ทั้งๆ ที่มีครอบครัว แต่ไม่เคยชวนใครไปไหน ซึ่งคุณเจี๊ยบก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง งานนี้ทำเอาหลายๆ คนถึงกับขนลุก ด้วยบุคลิกที่เป็นคนพูดตรงๆ ไม่ค่อยอ้อมค้อมของอาจารย์เอ๋
ปัจจุบัน อาจารย์เอ๋ สแกนกรรมให้กับบุคคลทั่วไป และผู้มีชื่อเสียงหลายต่อหลายท่าน ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทชั้นนำและวิทยากรบรรยายเรื่องกรรม ในมหาวิทยาลัยชื่อดังอีกหลายแห่ง โดยรายได้จากการสแกนกรรม เธอนำไปทำบุญและสร้างประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องตลอดมา
สนใจสแกนกรรม คลิกอ่านข้อมูลได้ที่
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมที่
กรรมทีปนี (กรรม 12 อย่าง) โดยท่านเจ้าคุณพระเทพมุนี (วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.9)
กรรมพาให้เกิด (ชนกกรรม)
กรรมสนับสนุนหรือกรรมอุปถัมภ์ (อุปัตถัมภกรรม)
กรรมเบียดเบียน (อุปปีฬกกรรม)
กรรมตัดรอน (อุปฆาตกกรรมหรืออุปเฉทกกรรม)
กรรมหนัก (ครุกกรรม)
กรรมใกล้ตาย (อาสันนกรรม)
กรรมที่ทำเป็นประจำ (อาจิณณกรรม) กรรมทีปนี (กรรม 12 อย่าง) โดยท่านเจ้าคุณพระเทพมุนี (วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.9)
กรรมพาให้เกิด (ชนกกรรม)
กรรมสนับสนุนหรือกรรมอุปถัมภ์ (อุปัตถัมภกรรม)
กรรมเบียดเบียน (อุปปีฬกกรรม)
กรรมตัดรอน (อุปฆาตกกรรมหรืออุปเฉทกกรรม)
กรรมหนัก (ครุกกรรม)
กรรมใกล้ตาย (อาสันนกรรม)
กรรมที่ทำเป็นประจำ (อาจิณณกรรม)
กรรมที่สักแต่ว่าทำหรือกรรมไม่เจตนา (กตัตตากรรม)
กรรมทันตาเห็นหรือกรรมที่ให้ผลชาตินี้ (ทิฐธรรมเวทนียกรรม)
กรรมที่ให้ผลชาติหน้า (อุปปัชชเวทนียกรรม)
กรรมที่ให้ผลชาติที่ 3 เป็นต้นไป (อปราปริยเวทนียกรรม)
กรรมที่ตามไม่ทัน (อโหสิกรรม)
การแก้กรรม-ตัดกรรมโดยวิธีของหลวงพ่อธรรมรส
การแก้กรรม-ตัดกรรมโดยวิธีของอาจารย์ฤาษีสมพิศ
การแก้กรรมโดยวิธีของหลวงพ่อจรัญ วัดอัพวัน จ. สิงห์บุรี คือการสวดมนต์และการเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐาน
กรรมที่สักแต่ว่าทำหรือกรรมไม่เจตนา (กตัตตากรรม)
กรรมทันตาเห็นหรือกรรมที่ให้ผลชาตินี้ (ทิฐธรรมเวทนียกรรม)
กรรมที่ให้ผลชาติหน้า (อุปปัชชเวทนียกรรม)
กรรมที่ให้ผลชาติที่ 3 เป็นต้นไป (อปราปริยเวทนียกรรม)
กรรมที่ตามไม่ทัน (อโหสิกรรม)
การแก้กรรม-ตัดกรรมโดยวิธีของหลวงพ่อธรรมรส
การแก้กรรม-ตัดกรรมโดยวิธีของอาจารย์ฤาษีสมพิศ
การแก้กรรมโดยวิธีของหลวงพ่อจรัญ วัดอัพวัน จ. สิงห์บุรี คือการสวดมนต์และการเจริญสมถะวิปัสสนากรรมฐาน
กรรม (12) โดย น.อ. ประยงค์ สุวรรณบุบผา
กรรม (กัมม์) คือการกระทำ (action, deed, volition) กรรมต้องมี เจตนาเช่นมีหลักทั่วไปอยู่ว่า “เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ” เรา (ตถาคต) กล่าวว่าการกระทำที่จัดเป็นกรรม ต้องประกอบด้วยเจตนา
กรรม 2
กุศลกรรม กรรมดี/บุญ
อกุศลกรรม กรรมชั่ว/บาป
กรรม 3
กายกรรม (3) คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในประเวณี
วจีกรรม (4) คือ ไม่พูดปด ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ
มโนกรรม (3) คือ ไม่โลภอยากได้ของเขา ไม่พยาบาทปองร้ายเขา เห็นชอบตามคลองธรรม
กรรม 12 ได้ทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล แบ่งเป็น 3 หมวด คือ
กรรมหมวดที่ 1 : กรรมให้ผลตามคราว/ตามเวลา (ปากกาล) มี 4
กรรมหมวดที่ 2 : กรรมให้ผลตามหน้าที่ (ตามกิจ) จำแนก เป็น 4
กรรมหมวดที่ 3 : กรรมให้ผลตามลำดับความแรงของการให้ผล
(ปากทานปริยาย) จำแนกออกไปเป็น 4
กรรมหมวดที่ 1 : กรรมให้ผลตามคราว/ตามเวลา (ปากกาล) มี 4 คือ
ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในปัจจุบันในชาตินี้ ภพนี้
อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในชาติหน้า/ภพหน้า
อปราปริยเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพต่อ ๆ ไป ในชาติต่อ ๆ ไป
อโหสิกรรม กรรมเลิกให้ผล ไม่ให้ผล ไม่มีผลอีกแล้ว
กรรมหมวดที่ 2 : กรรมให้ผลตามกิจ (โดยกิจ) ให้ผลตามหน้าที่ จำแนกออกไปเป็น 4 มี
ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกิด กรรมที่เป็นตัวนำให้เกิด
อุปัตถัมภกกรรม กรรมสนับสนุน หรือซ้ำเติมต่อจากชนกกรรม
อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคั้น กรรมที่มาให้ผลบีบคั้น ผลแห่งชนกกรรม และอุปัตถัมภกกรรม ให้แปรเปลี่ยนทุเลาลงไป บั่นทอนวิบากมิให้เป็นนาน
อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอน เป็นกรรมที่แรง เป็นกรรมฝ่ายตรงข้าม กับชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนผลของกรรมทั้ง 2 นั้น (ชนกกรรม และอุปัตถัมภกกรรม) ให้ขาดไปทีเดียว เช่นเกิดในตระกูลสูง มีความมั่งคั่งแต่อายุสั้นเป็นต้น
กรรมหมวดที่ 3 : กรรมที่ให้ผลตามลำดับความแรง แห่งการให้ผลของกรรม (ปากทานปริยาย) จำแนกออกไปเป็น 4 คือ
1. ครุกรรม กรรมหนัก ให้ผลก่อน กรรมหนักในทางกุศล ได้แก่สมาบัติ 8 กรรมหนักในทางอกุศลได้แก่อนันตริยกรรม 5
2. พหุลกรรม หรือ อาจิณณกรรม กรรมที่ทำมากคือทำบ่อย จนเป็นการชินชา ให้ผลรองลงมาจากครุกรรม
3. อาสันนกรรม คือ กรรมจวนเจียน หรือกรรมที่ใกล้จะตาย (กรรมทำเมื่อจวนจะตาย) จับใจอยู่ใหม่ ๆ ถ้าไม่มีกรรม 2 ข้อต้น (2 ข้อก่อน) คือ ครุกรรม และพหุลกรรม หรืออาจิณณกรรม ก็จะให้ผลก่อน
4. กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม กรรมสักแต่ว่าทำ คือกรรมที่ทำด้วยอ่อนเจตนา หรือมิใช่เจตนาอย่างนั้นโดยตรง ต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผลแล้วกรรมนี้จึงจะให้ผล
กรรม 12 หรือกรรม 3 หมวด ๆ ละ 4 นี้ มิได้มาในพระบาลีในรูปนี้ โดยตรง พระอาจารย์ในสมัยต่อมา เช่นพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นต้น ได้รวบรวมจัดเรียงเป็นแบบอย่างไว้ในภายหลัง
ผลร้ายผลดีต่าง ๆ เนื่องจากกรรม คือการกระทำของสัตว์
จากจูฬกัมมวิภังคสูตร สูตรว่าด้วยการจำแนกกรรมสูตรเล็ก
ผลดีของกรรม
1. มีอายุยืนเพราะ ไม่ฆ่าสัตว์
2. มีโรคน้อยเพราะ ไม่เบียดเบียนสัตว์
3. มีผิวพรรณดีเพราะ ไม่ขี้โกรธ
4. มีศักดามากเพราะ ไม่มักริษยา
5. มีโภคทรัพย์มากเพราะ ให้ทาน
6. เกิดในตระกูลสูงเพราะ ไม่กระด้าง ถือตัว แต่รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน
7. มีปัญญาดีเพราะ เข้าไปหาผู้รู้ครูอาจารย์ สมณพราหมณ์ ไต่ถามเรื่องกุศล อกุศล เป็นต้น
ผลร้ายของกรรม
1. มีอายุน้อยเพราะ ฆ่าสัตว์
2. มีโรคมากเพราะ เบียดเบียนสัตว์
3. มีผิวพรรณทรามเพราะ ขี้โกรธ
4. มีศักดาน้อยเพราะ มักริษยา
5. มีโภคทรัพย์น้อยเพราะ ไม่ให้ทาน
6. เกิดในตระกูลต่ำเพราะ กระด้าง ถือตัว ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน
7. มีปัญญาทราม เพราะไม่เข้าไปหาผู้รู้ครูอาจารย์ สมณพราหมณ์ ไต่ถามเรื่องกุศล อกุศล เป็นต้น
(คำถามคำตอบเรื่องผลร้ายผลดีของกรรมนี้ ผู้ถามคือ สุภมาณพ บุตรแห่งโตเตยยพราหมณ์ เข้าไปทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขณะประทับอยู่ ณ เชตวนาราม)
|
วันที่ 19 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,573 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 10,649 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,861 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,192 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,148 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,855 ครั้ง |
|
|