ปัจจุบันคนไทยมีอายุยืนขึ้นทำให้พบโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายได้มากขึ้นโดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน และโรคอัมพาตโรคดังกล่าวมีสาเหตุจากการที่หลอดเลือดแข็งตัว (atherosclerosis) และหลอดเลือดตีบตันซึ่งพบได้เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น
ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัวเราสามารถควบคุม และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะนี้ได้ไม่ยากโดยเฉพาะถ้าเริ่มป้องกันหรือรักษาตั้งแต่อายุประมาณ 35-40 ปีจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และโรคอัมพาตในวัยชราได้อย่างมาก
โดยทั่วไปการตรวจไขมันในเลือดจะตรวจสารต่าง ๆดังต่อไปนี้
1.โคเลสเตอรอล (Cholesterol) เป็นส่วนสำคัญของไขมันความหนาแน่นต่ำโคเลสเตอรอลเป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองและได้รับจากสารอาหารที่รับประทานเข้าไปโคเลสเตอรอลเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดเส้นเลือดแข็งตัว และตีบตันสารโคเลสเตอรอลนี้จะมีมากในไขมันสัตว์ ระดับปกติในโลหิตไม่ควรเกิน 200 มิลลิกรัมต่อ 100 ลบ.ซม. และถ้าพบว่าสูงมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อ 100 ลบ.ซม. ควรควบคุม และรักษาจากการศึกษาพบว่าถ้าลดระดับโคเลสเตอรอลลงได้ 1% จะทำให้โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบลดลงถึง 2%
2.ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ไขมันนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากอาหารที่รับประทานเข้าไปและอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการสังเคราะห์ในร่างกายในคนอ้วนระดับไตรกลีเซอไรด์มักจะสูงได้บ่อยๆ ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าไขมันตัวนี้เป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจถ้าพบว่ามีระดับสูงมาก หรือพบว่าสูงในคนที่มีโคเลสเตอรอลสูงอยู่แล้วเชื่อว่าโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบเพิ่มขึ้นจึงควรรักษา
3.เอชดีแอล (High density lipprotein – HDL) เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูงมีหน้าที่จับไขมันโคเลสเตอรอลในกระแสเลือดออกไปทำลายที่ตับ ดังนั้นถ้าระดับ HDL นี้สูง จะมีผลทำให้โอกาสเป็นโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ และโรคหลอดเลือดลดลงโดยเฉพาะถ้าระดับ HDL สูงเกิน 50 มิลลิกรัมต่อลบ.ซม. HDL จะสูงจากการออกกำลังกายและจากยาลดไขมันบางชนิด
เมื่อท่านตรวจพบไขมันในเลือดสูงโดยระดับโคเลสเตอรอลสูงกว่า 200 มิลลิกรัมต่อ ลบ.ซม.ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ หรืออุดตันโรคนี้เป็นโรคที่เป็นกันมากขึ้นและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงเป็นอันดับหนึ่งในปัจจุบัน
การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงเป็นกุญแจในการลดไขมันดังนั้นท่านจึงควรทราบว่าในอาหารแต่ละชนิดมีปริมาณไขมันโคเลสเตอรอลเท่าไรด้วย
1.ลดน้ำหนักตัวถ้าท่านอ้วนหรือมีน้ำหนักเกินโดยลดปริมาณอาหาร และออกกำลังกายอาหารที่มีไขมันสูงที่ท่านควรเลี่ยง เช่น ไข่แดง, ไข่นกกระทา, เครื่องในสัตว์, เนื้อสัตว์ส่วนที่ติดมันทุกชนิด, สมองสัตว์, อาหารทะเล เช่น หอยนางรม, ปลาหมึก ฯลฯ
2.ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมัน, อาหารทอดเจียวควรใช้น้ำมันพืชแทนน้ำมันจากสัตว์ เช่น เนย น้ำมันหมูน้ำมันพืชที่สกัดจากเมล็ดพืชจะมีกรดไลโนเลอิกที่เป็นตัวนำโคเลสเตอรอลไปเผาผลาญสูงกว่าน้ำมันที่สกัดจากเนื้อพืช
3.เครื่องดื่มจำพวกเบียร์ ขนมหวาน แป้งข้าวต่าง ๆจะสะสมเกิดเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้
4.ควรเพิ่มอาหารพวกผักใบต่าง ๆและผลไม้บางชนิดที่ให้ใย และกาก เช่น คะน้า ผักกาด ฝรั่ง ส้ม เม็ดแมงลัก ฯลฯเพื่อให้ร่างกายได้รับกากใยอาหารมากขึ้นกากใยเหล่านี้จะช่วยให้การดูดซึมของไขมันสู่ร่างกายน้อยลง
5.พยายามเปลี่ยนแปลงวิธีปรุงอาหารเป็นการนึ่ง ต้ม ย่าง อบ แทนการทอดหรือผัด
6.นมเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงหากจะดื่มควรใช้นมพร่องมันเนยแทนนมสด
เมื่อเราไม่สามารถงดการรับไขมันจากอาหารหรือหยุดการสร้างของร่างกายได้ก็ยังมีวิธีการช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีที่สุด คือการออกกำลังกาย
การออกกำลังกาย
เพื่อให้มีผลต่อการเผาผลาญพลังงานและลดปริมาณไขมันในเลือดนั้นต้องเป็นการออกกำลังที่สม่ำเสมอ มีการต่อเนื่องครั้งละ 20-30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง สำหรับการออกกำลังที่ดีที่สุดเพื่อเพิ่มสมรรถภาพของปอด และหัวใจ คือ การเดินเร็ว จ๊อกกิ้ง เต้นรำ การขี่จักรยานซึ่งหากคุณมีอาการของโรคหัวใจอยู่แล้ว หรือมีอายุมากกว่า 40 ปีขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนว่าควรออกกำลังกายชนิดใด และมากน้อยเพียงไรจึงจะเหมาะสมสำหรับท่าน เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับประโยชน์อย่างเดียวโดยไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ
ถ้าท่านมีภาวะไขมันโคเลสเตอรอลสูงควรหลีกเลี่ยง อาหารที่มีโคเลสเตอรอลมากกว่า 200 มก./100 กรัม ควรทานจำนวนโคเลสเตอรอล 300 มก/วัน
เมื่อท่านควบคุมอาหารลดน้ำหนักตัวและออกกำลังกายแล้วยังไม่สามารถจะลดระดับไขมันให้เป็นปกติแพทย์จะแนะนำให้ยาเพื่อลดไขมัน
การตรวจโลหิตวัดระดับไขมัน ควรทำอย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งถ้าตรวจพบว่ามีระดับปกติ แต่ถ้าสูงหรือขณะที่ได้รับการรักษาด้วยอาหาร ออกกำลังกายลดน้ำหนักตัว หรือรับประทานยาลดโคเลสเตอรอลท่านจะต้องตรวจโลหิตตามกำหนดที่แพทย์แนะนำ เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา
อย่างลืมตรวจโลหิตว่าโคเลสเตอรอลสูงไป หรือ เฮส ดี แอลต่ำไปเสียแต่วันนี้