ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ความสำคัญของจิตวิทยาต่อวิชาชีพครู


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,832 ครั้ง
ความสำคัญของจิตวิทยาต่อวิชาชีพครู

Advertisement

ความสำคัญของจิตวิทยาต่อวิชาชีพครู

ผู้ช่วยศาสตราจารย์เขียน วันทนียตระกูล

            การเป็นครูนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องมีความรู้ทางวิชาการเพื่อจะสอนนักเรียนเท่านั้น แต่ครูยังจะต้องเป็นผู้ช่วยนักเรียนให้พัฒนาทั้งทางด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ อารมณ์  และสังคมด้วยดังนั้น  ครูต้องเป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นแก่นักเรียน  เพื่อนักเรียนจะได้มีความเชื่อและไว้ใจครู  พร้อมที่จะเข้าพบครูเวลาที่มีปัญหา  นอกจากนี้ครูจะต้องเป็นต้นฉบับที่ดีแก่นักเรียน  ถ้าหากจะถามนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถม จนถึงนิสิตนักศึกษาขั้นมหาวิทยาลัย  ว่ามีใครบ้างในชีวิตของนักเรียนที่นักเรียนยึดถือเป็นต้นฉบับ  นักเรียนส่วนมากจะมีครูอย่างน้อยหนึ่งคนยึดเป็นต้นฉบับหรือตัวแบบและนักเรียนจะยอมรับค่านิยมและอุดมการณ์ของครู  เพื่อเป็นหลักของชีวิต อิทธิพลของครูที่นักเรียนยึดเป็นต้นฉบับจะติดตามไปตลอดชีวิต

            มีผู้กล่าวว่า  ครูเปรียบเสมือนศิลปินที่ปั้นรูป  เพราะครูทุกคนมีส่วนในการพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียน  แต่ผลงานของครูไม่เหมือนกับปฏิมากรที่พองานแต่ละชิ้นสำเร็จก็เห็นผลงาน อาจจะตั้งให้ชมได้  หรือถ้าไม่ชอบอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมได้  ส่วนครูนั้นจะต้องรอจนนักเรียนกลับมาบอกครูว่าครูได้ช่วยเขาอย่างไร  หรือมีอิทธิพลต่อชีวิตเขาอย่างไร  และบางครั้งการรอก็เป็นการเสียเวลาเปล่าเพราะแม้ว่านักเรียนบางคนจะคิดถึงความดีของครู แต่ก็คิดอยู่ในใจไม่แสดงออก จึงทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าอาชีพครูเหมือนเรือจ้างที่มีหน้าที่ส่งคนข้ามฟากเท่านั้น ซึ่งเป็นเครื่องชี้ถึงทัศนคติทางลบที่มีต่ออาชีพครูจึงมีส่วนทำให้คนบางคนตัดสินใจเลือกอาชีพครูเป็นอาชีพสุดท้าย

            นิสิตและนักศึกษาที่เลือกเรียนวิชาที่จะเป็นครู เมื่อเรียนจบแล้วอาจจะไม่เป็นครู ถ้าหากมีอาชีพอื่นให้เลือก  ดังนั้นอาชีพครูจึงประกอบด้วยคน 2 ประเภท  คือผู้ที่รักอาชีพครู และต้องการเป็นครูจริงๆ และผู้ที่ต้องเป็นครูด้วยความจำใจ  ครูประเภทนี้บางคนได้พบว่าอาชีพครูเป็นอาชีพที่มีรางวัลทางใจที่ได้ช่วยเหลือนักเรียนให้เรียนรู้หรือเปลี่ยนพฤติกรรม ช่วยให้นักเรียนมีพัฒนาการทั้งด้านสติปัญญาและบุคลิกภาพ  จึงทำให้รู้สึกว่าเลือกอาชีพที่ถูกแล้ว  แต่ครูบางคนมีความรู้สึกว่าตนเลือกอาชีพผิดและต้องทนอยู่เพราะอยากมีงานทำและอยากมีเงินใช้แต่ไม่มีความสุข  ครูประเภทนี้มีอันตรายเปรียบเสมือนฆาตกรฆ่านักเรียนทางด้านจิตใจอย่างเลือดเย็น  ทำให้นักเรียนมีความรู้สึกต่ำต้อย และคิดว่าชีวิตของตนไม่มีค่า เป็นบุคคลที่ไม่มีประโยชน์  ไม่มีความสามารถและอาจจะต้องออกจากโรงเรียนด้วยการเรียนไม่สำเร็จ  มีชีวิตที่ประสบแต่ความผิดหวัง  ไม่สามารถที่จะมีชีวิตที่ก้าวหน้าได้ โดยครูเองก็ไม่ทราบ  ดังเช่นกรณีของเด็กชายคนหนึ่ง สมมติชื่อว่าเด็กชายแดง

            เด็กชายแดง เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รู้สึกว่าชีวิตน่าเบื่อหน่ายเพราะตนเองเรียนไม่ดีแม้ว่าจะพยายามก็ได้แต่เพียงคะแนนพอผ่านเท่านั้น  ผู้ปกครองได้พาแดงไปพบนักจิตวิทยา เพื่อจะหาทางช่วยเหลือเด็กชายแดงให้เรียนดีขึ้น  นักจิตวิทยาได้บอกว่าตนพร้อมที่จะช่วยเหลือ  แต่ก่อนอื่นอยากจะให้บอกเหตุผลว่าทำไมจึงเรียนไม่ดี  แดงตอบว่า ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร  ที่เรียนไม่ดีคงเป็นเพราะโง่  นักจิตวิทยาถามต่อไปว่า ทำไมจึงคิดว่าตนเองโง่  เพราะถ้าโง่จริงก็คงจะสอบตกไปนานแล้วแดงเล่าให้นักจิตวิทยาฟังว่า  ตนเองเริ่มเรียนหนังสือไม่ค่อยดี ตอนอยู่ประถมศึกษาปีที่ 3 อ่านหนังสือไม่ได้  ครูก็ให้เรียนพิเศษตอนเย็นกับครูทุกวันเป็นเวลาหลายสัปดาห์  ครั้งหนึ่งครูพูดด้วยความไม่พอใจว่าฉันสอนเธอไม่ได้แล้วแดง เธอโง่เกินกว่าที่ฉันคาดแดงเล่าว่า คำพูดของครูติดอยู่ในสมองของเขามาตลอด  และทำให้คิดว่าเขาคงจะโง่จริงๆ เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าคำพูดของครูเพียงประโยคเดียว เป็นเสมือนดาบของเพชฌฆาตที่ฟาดฟันลงไปกลางดวงใจเด็ก  ทำให้เกิดแผลที่รักษาไม่หาย  ถ้าหากครูชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของเด็กชายแดงทราบหลักทางจิตวิทยาก็คงจะไม่พูดกับแดงเช่นนั้น  และถ้าครูทราบหลักการสอนที่ดี ครูก็คงจะช่วยเด็กชายแดงได้ เช่นครูอาจจะเลือกหนังสือที่ไม่ยากเกินไปให้อ่าน เมื่อเด็กอ่านได้ก็จะมีกำลังใจ  แล้วครูก็จะเพิ่มความยากขึ้นตามลำดับ  และครูควรจะบอกเด็กชายแดงว่าครูรู้ว่าเธออ่านได้  แต่หนังสืออาจจะยากเกินไปสำหรับเธอแล้วเปลี่ยนหนังสือทำให้เด็กมีสัมฤทธิผลเป็นขั้นๆ เด็กก็จะไม่มีปัญหาในการเรียน  เด็กก็จะมีความภูมิใจว่าตนประสบความสำเร็จได้  เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เด็กไม่ชอบวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย  ภาษาอังกฤษ หรือสังคมศาสตร์ อาจจะเนื่องมาจากทัศนคติทางลบต่อวิชา  แต่ละวิชา ซึ่งเป็นผลมาจากการมีครูสอนไม่ดี ไม่เข้าใจหลักจิตวิทยาที่จะช่วยนักเรียนให้มีสัมฤทธิผลตามศักยภาพของแต่ละบุคคล

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1756 วันที่ 16 พ.ค. 2552


ความสำคัญของจิตวิทยาต่อวิชาชีพครู ความสำคัญของจิตวิทยาต่อวิชาชีพครู

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เลิก....ดื่มน้ำเย็น

เลิก....ดื่มน้ำเย็น


เปิดอ่าน 6,423 ครั้ง
ตำรายา รักษาแผลเป็นนุ่ม

ตำรายา รักษาแผลเป็นนุ่ม


เปิดอ่าน 6,429 ครั้ง
คลิป...สอนคุณธรรมนำปัญญา

คลิป...สอนคุณธรรมนำปัญญา


เปิดอ่าน 6,503 ครั้ง
คนเราต้องการอะไรในชีวิต

คนเราต้องการอะไรในชีวิต


เปิดอ่าน 6,461 ครั้ง
ผมสวย.....ด้วยสมุนไพร

ผมสวย.....ด้วยสมุนไพร


เปิดอ่าน 6,439 ครั้ง
วันนี้วันอะไร?

วันนี้วันอะไร?


เปิดอ่าน 6,428 ครั้ง
ผญา...พาเพลิน

ผญา...พาเพลิน


เปิดอ่าน 6,659 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

คนแก่ไม่ค่อยปล่อยวาง ทำสมองเสื่อม..

คนแก่ไม่ค่อยปล่อยวาง ทำสมองเสื่อม..

เปิดอ่าน 6,424 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ครูไทย
ครูไทย
เปิดอ่าน 6,426 ☕ คลิกอ่านเลย

12เกร็ดความรู้เรื่อง....หมีแพนด้า:.......
12เกร็ดความรู้เรื่อง....หมีแพนด้า:.......
เปิดอ่าน 6,489 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่อง...ภาพการสักยันต์ อาจารย์หนู กันภัย......
เรื่อง...ภาพการสักยันต์ อาจารย์หนู กันภัย......
เปิดอ่าน 6,446 ☕ คลิกอ่านเลย

ปลาน้อยกับคนตกปลา
ปลาน้อยกับคนตกปลา
เปิดอ่าน 6,507 ☕ คลิกอ่านเลย

"ศิลปะแห่งธรรมชาติ"(สวย<<>>เพราะ)
"ศิลปะแห่งธรรมชาติ"(สวย<<>>เพราะ)
เปิดอ่าน 6,445 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลการทดสอบชี้ Norton 2010
ผลการทดสอบชี้ Norton 2010
เปิดอ่าน 6,446 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา
เปิดอ่าน 297 ครั้ง

อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้
เปิดอ่าน 21,644 ครั้ง

กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก
กลุ่มคน 1%ของโลก ครอบครองทรัพย์สินกว่าครึ่งโลก
เปิดอ่าน 11,124 ครั้ง

การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
การได้สารพิษ สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 8
เปิดอ่าน 15,463 ครั้ง

การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
การจัดทำสัญญาอนุญาตให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปศึกษาต่อภายในประเทศ
เปิดอ่าน 11,489 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ