Advertisement
อาการปวดหลัง เป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่คนทำงานยุคนี้ต้องเผชิญ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าปล่อยปละละเลยให้ปวดหลังเรื้อรังจนไม่สามารถทำงานได้ การปวดหลังของคุณอาจไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป ในการสัมมนาเรื่อง “การรักษาอาการปวดหลังเรื้อรังโดยไม่ต้องผ่าตัด” ที่ไคโรฟิต ไคโรแพรคติกคลินิก แอท แบงค็อก เมดิเพล็ก ย่านเอกมัย เมื่อเร็วๆนี้ ดร.มนต์ทณัฐ โรจนาศรีรัตน์ ไคโรแพรคติกแพทย์ จากสมาคมแพทย์ไคโรแพรคติกแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงปัญหาการปวดหลังเรื้อรังว่า อาการปวดหลังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและในจำนวนผู้ที่ปวดหลังประมาณร้อยละ 20-30 จะพัฒนาเป็นอาการปวดหลังเรื้อรัง ทั้งนี้อาการปวดหลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ อาทิ ความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกสันหลัง, ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นรอบๆข้อต่อกระดูกสันหลัง และความผิดปกติของระบบประสาท ไปจนถึงสาเหตุยอดฮิตคือ มีอิริยาบถที่ผิดสุขลักษณะ และการที่ร่างกายแบกรับน้ำหนักมากเกินไป ส่งผลถึงหมอนรองกระดูกผิดสมดุลหรือหมอนรองกระดูกเคลื่อนได้ ทำให้การเคลื่อนไหว และข้อต่อต่างๆ ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับขั้นตอนการรักษานั้น คุณหมอมนต์ทณัฐ กล่าวว่า สามารถใช้ยาหรือไม่ใช้ยาควบคู่ไปกับวิธีรักษาฟื้นฟูก็ได้ แต่เพื่อผลทางการรักษาที่ดีกว่า ควรจัดปรับสมดุลโครงสร้าง ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกาย หรือใช้อุปกรณ์พยุงหลัง การฝังเข็ม การนวดคลายกล้ามเนื้อเพื่อบำบัด รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาการปวดหลัง เช่น การนอน การนั่ง การยืน และการเดิน ส่วนการผ่าตัดนั้นมีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องรับการรักษาด้วยวิธีนี้ เพราะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจุบันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์มีมากขึ้น ทำให้การรักษาโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการผ่าตัดอีกต่อไป วิธีการนี้คือ การลดการกดทับของหมอนรองกระดูก หรือ Spinal Decompression The rapy (SDT) เป็นวิธีการรักษาแบบใหม่ช่วยลดภาวะการรับน้ำหนักที่มากเกินไป พร้อมช่วยจัดเรียงแนวกระดูกสันหลังและฟื้นฟูหมอนรองกระดูกให้คืนสู่สภาพสมดุล
ด้าน นพ.อาลี เอส โมฮัมเมด จาก Harvard Medical School ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อธิบายถึงเทคโนโลยีลดการกดทับของหมอนรองกระดูก (SDT) ว่า เป็นการรักษาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เหมาะสำหรับรักษาอาการปวดคอ ปวดหลังเรื้อรัง และอาการปวดร้าวลงแขนหรือขา ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพราะปราศจากความเสี่ยงจากการฉีดยา การใช้ยาสลบ และการผ่าตัด โดยถูกออกแบบให้ลดแรงกดทับบนโครงสร้างที่อาจทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรังบริเวณกระดูกสันหลัง สามารถบรรเทาอาการปวดที่เกิดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน หมอนรองกระดูกเสื่อม และอาการปวดร้าวลงขา ซึ่งผู้ป่วยส่วนมากพบว่าอาการปวดและอาการอื่นๆ ได้บรรเทาลงและลดลงอย่างต่อเนื่องในระหว่างการบำบัดรักษาด้วยวิธีนี้
โอกาสนี้ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์การปวดต้นคอและหลัง และได้รับการรักษาด้วยวิธีไคโรแพรคติก ได้ ถ่ายทอดความรู้สึกให้ฟัง อย่าง อุ้ย-สุทัศนีย์ คุณผลิน เล่าว่า ชอบทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมงติดต่อกัน ท่านั่งก็อาจจะไม่ถูกหลักเท่าที่ควร เวลาออกไปข้างนอกยังชอบใส่สร้อยเส้นใหญ่ๆ ถือกระเป๋าใบโตๆ ใส่ของเยอะมาก ทำให้ปวดคอ ปวดไหล่ บางครั้งก็ปวดลามไปจนถึงศีรษะและมีก้อนแข็งๆบริเวณต้นคอด้วย สุดท้ายต้องไปพบแพทย์เข้ารับการรักษาด้วยไคโรแพรคติกแบบผสมผสานอย่างต่อเนื่องประมาณ 3 เดือน จึงดีขึ้นมาก
แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆที่หลายคนมองข้าม แต่ไม่ได้หมายความว่าภาวะผิดสมดุลเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นกับเรา การดูแลตัวเองในเชิงป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากพบว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะโครงสร้างผิดสมดุล ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆจะดีกว่า.
ที่มา women.thaiza.com/
|
วันที่ 16 พ.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,310 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,183 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 3,288 ครั้ง |
เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,238 ครั้ง |
เปิดอ่าน 49,338 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,291 ครั้ง |
|
|