ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เรื่อง....ค่างๆ...ครูๆ...(อย่าเพิ่งเถียง..อ่านก่อน...)


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,141 ครั้ง
Advertisement

เรื่อง....ค่างๆ...ครูๆ...(อย่าเพิ่งเถียง..อ่านก่อน...)

Advertisement

รู้หรือ (ไม่) รู้

 
 

ลิงก็คือลิง ค่างก็คือค่าง

 
  รู้หรือ (ไม่) รู้ -  ลิงก็คือลิง ค่างก็คือค่าง  
  หลาย ๆ คนเข้าใจว่าลิงกับค่างเป็นสัตว์พวกเดียวกัน ความจริงแล้ว ถึงสัตว์ทั้งสองพวกนี้จะอยู่ในอันดับไพรเมตเหมือนกัน และมีลักษณะคล้ายกัน แต่ลิงก็คือลิง และค่างก็คือค่าง ค่างจะมีรูปร่างลำตัว แขน ขา และหางยาวกว่าลิง ไม่มีถุงข้างแก้มสำหรับเก็บอาหารอย่างลิง ในไทยมีค่างอยู่ทั้งหมดสี่ชนิด คือ ค่างดำ ค่างหงอก ค่างแว่นถิ่นเหนือ และค่างแว่นถิ่นใต้
ค่างที่พบในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดเป็นค่างแว่นถิ่นใต้ ปรกติแล้วค่างแว่นถิ่นใต้มีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าดงดิบแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางตอนใต้ของพม่า ภาคใต้ของไทย เรื่อยมาถึงมาเลเซียและหมู่เกาะใกล้เคียง เนื่องจากค่างทุกชนิดอยู่ในสถานภาพที่ถูกคุกคาม จึงนับว่าเป็นสัตว์ที่หาดูตัวได้ยาก แต่ที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดยังมีค่างแว่นถิ่นใต้หาอาศัยอยู่หลายฝูง โดยเฉพาะบริเวณบ้านพัก ดังนั้น ใครมาเที่ยวสามร้อยยอดแล้วพลาด "ค่างโชว์" ก็นับว่าโชคร้ายมากเลย
 
Home

   
     ค่างแว่นถิ่นเหนือ
     พฤศจิกายน 2551
หน้าแรกสารคดี
อีการ์ด
 

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย คาโรลา บอร์รีส์ และแอนเดรียส คูนิก
ภาพถ่ายโดย เริงฤทธิ์ คงเมือง และอรุณ ร้อยศรี
 
เจ้าค่างแว่นตัวน้อยร้องโหยหวน มันอยู่กับป้ามานานชั่วโมงกว่าแล้ว แรกๆทุกอย่างก็ดูราบรื่นดี หลานกับป้านั่งติดกันขณะที่ป้าทำความสะอาดขนให้หลานอยู่พักหนึ่ง แต่ตอนนี้ป้าเกิดอยากจะไปไกลๆจากเจ้าหลานตัวน้อย ซึ่งยังเล็กเกินกว่า จะเดินหรือเล่นเองได้ และวันๆเอาแต่เกาะป้าแจไม่ยอมให้ไปไหน ป้าเลยเริ่มผลักไสไล่ส่งหลาน โชคดีที่ 5 นาทีหลังจาก เจ้าตัวน้อยร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย ป้าอีกตัวก็เข้ามาปลอบและยอมให้มันเกาะท้อง เสียงร้องจึงเงียบลงเกือบจะทันที ปริศนาการอุ้มชูสมาชิกใหม่ ภาพชีวิตเช่นนี้พบเห็นได้เกือบทุกวันในช่วงนี้ที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ เดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูตกลูกของค่างแว่นถิ่นเหนือ (Trachypithecus phayrei) ค่างแว่นตัวน้อยตัวนี้เป็นเพศหญิงอายุยังไม่ถึงสามสัปดาห์ แต่เกือบจะทันทีที่มันลืมตาดูโลก สมาชิกตัวอื่นๆในฝูงต่างช่วยกันประคบประหงมและคอยดูแล “แม่จำเป็น” เหล่านี้ค่อนข้างมีความอดทนน้อยกว่าแม่แท้ๆ ฉะนั้นจึงเกิดเรื่องไม่คาดคิดอยู่เนืองๆ จริงๆแล้ว เจ้าค่างแว่นน้อยตัวนี้ได้รับการเลี้ยงดูค่อนข้างสมบุกสมบันพอสมควร ในช่วงสามสัปดาห์แรกหลังออกจากท้องแม่ มันตกจากต้นไม้มาแล้วหลายครั้ง เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน และเพิ่งจะเมื่อวานนี้เองที่ค่างแว่นถิ่นเหนือเพศผู้ตัวหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นพ่อของมันมากที่สุด ได้เข้ามาอุ้มเจ้าตัวน้อยอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่ทันไรก็เตะมันตกลงมาไม่ต่ำกว่าหกเมตร เจ้าค่างแว่นตัวน้อยกระแทกพื้นอย่างจังจนแม่ต้องลงไปช่วยอุ้มขึ้นมา การให้ความสนใจในสมาชิกเกิดใหม่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับค่างแว่นถิ่นเหนือและลิงชนิดอื่นๆในวงศ์ย่อยค่างที่พบในเอเชียและแอฟริกา พฤติกรรมเช่นว่านี้น่าจะเกิดจากการที่ลูกค่างแว่นเกิดใหม่มีสีขนและผิวที่แตกต่างจากตัวเต็มวัยอย่างสิ้นเชิง ลูกค่างแว่นเกิดใหม่ดูน่ารักน่าเอ็นดูด้วยขนสีส้มสดและผิวหนังสีอ่อนๆ เรายังไม่เข้าใจอย่างแน่ชัดว่า เพราะเหตุใดเหตุการณ์ไม่คาดคิดจึงมักจะเกิดกับลูกค่างแว่นเวลาที่ไม่ได้อยู่ในอ้อมอกแม่ ปกติแล้ว ค่างแว่นตัวแม่ดูจะได้ประโยชน์จากการที่ค่างตัวอื่นเอาลูกของมันไปเลี้ยงบ้างเป็นครั้งคราว คล้ายๆกับเอาลูกไปฝากไว้ที่โรงเรียนอนุบาลนั่นเอง เวลาที่ลูกไม่อยู่ ตัวแม่จะกินได้เร็วขึ้นและมากขึ้น มีเวลาเข้าสังคมกับค่างตัวอื่นๆในฝูง จึงน่าจะเป็นได้ว่า บรรดาแม่บังเกิดเกล้าพร้อมที่จะให้ลูกๆมีรอยขีดข่วนหรือถลอกปอกเปิกบ้าง เพื่อแลกกับการที่พวกมันได้อิ่มหมีพีมันมากขึ้น และมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสมาชิกตัวอื่นๆ ขณะที่เจ้าตัวน้อยก็อาจจะคุ้นเคยกับสมาชิกในฝูงเร็วขึ้น และอาจได้รับการช่วยเหลือจากสมาชิกตัวไหนก็ได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน แต่ข้อน่าข้องใจก็คือ ทำไมแม่แท้ๆถึงปล่อยให้ค่างตัวอื่นดูแลลูก และเพราะเหตุใดบรรดาแม่จำเป็นหรือแม่เฉพาะกิจถึงหมดความสนใจค่างแว่นตัวน้อยในเวลาอันรวดเร็ว เราพอจะเข้าใจได้ว่า แม่เฉพาะกิจที่อายุยังน้อยและอ่อนประสบการณ์อาจอยากฝึกเลี้ยงดูลูก แต่ไม่มีเหตุผลเลยสำหรับตัวผู้ที่โตเต็มวัยหรือตัวอื่นๆที่พากันมามุงดูสมาชิกใหม่ที่เพิ่งลืมตาดูโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศเมียที่มีลูกแล้วหรือกำลังจะมีลูก เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกมันมาช่วยดูแลสมาชิกใหม่ เพื่อแลกกับผลประโยชน์อย่างอื่นในอนาคต เป็นต้นว่าพวกมันหวังจะได้รับความช่วยเหลืออย่างเดียวกันในภายหลัง หรือความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นๆ ความพยายามที่จะไขปริศนาในเรื่องนี้เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้เราเริ่มการศึกษาวิจัยค่างแว่นถิ่นเหนือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว โครงการศึกษาวิจัยระยะยาว ปลายปี 2543 เราร่วมงานกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวสองคน และอาสาสมัครชาวอเมริกันหนึ่งคน หลังจาก ทำการสำรวจในช่วงแรกๆ ประกอบกับข้อมูลที่ได้จากการวิจัยของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เราก็ตัดสินใจเลือกจุดที่จะใช้ในการศึกษาวิจัย โดยพุ่งเป้าไปที่ค่างแว่นถิ่นเหนือฝูงหนึ่งซึ่งมีอยู่ประมาณ 15 ตัว ปกติแล้ว ค่างแว่นถิ่นเหนือเป็นสัตว์ที่ขี้อายมากและรู้จักใช้อุบายต่างๆเพื่อสลัดพวกเรา เช่น พวกมันจะปีนสูงขึ้นไปบนต้นไม้แล้วไม่ส่งเสียงเลยเป็นเวลาหลายชั่วโมงติดต่อกัน หลายครั้งที่เราเลิกติดตามโดยไม่เอะใจเลยว่าพวกมันอยู่เหนือหัวเรานี่เอง หรืออีกวิธีหนึ่งคือ พวกมันจะเผ่นหนีกันไปคนละทิศละทาง แยกกันเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย จนเหลืออยู่แค่ตัวหรือสองตัว จนพวกเราไม่สามารถติดตามได้ถูก วิธีนี้พวกมันน่าจะใช้เวลาหนีสัตว์นักล่าใหญ่ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าค่างแว่นถิ่นเหนือรู้จักมนุษย์และไม่อยากอยู่ใกล้ๆ เหตุผลหลักน่าจะเป็นเพราะพวกมันเคยถูกล่าก่อนหน้าที่สถานที่แห่งนี้จะได้รับการประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ค่างแว่นถิ่นเหนือเหล่านี้ค่อยๆไว้ใจเราทีละนิด พวกเราใช้เวลาเกือบปีกว่าฝูงแรกจะไว้ใจ ตอนนี้เรามีทั้งหมด 4 ฝูงที่ยอมใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตของมนุษย์ ตารางการทำงานของเราคือ ในหนึ่งเดือน เราต้องติดตามศึกษาแต่ละฝูงให้ได้อย่างน้อย 5 วัน เริ่มจากทีมงานชุดหนึ่งจะออกไปตามหาฝูงที่ต้องการติดตาม ปกติแล้ว ค่างแว่นถิ่นเหนือจะมีบริเวณที่พวกมันชอบอยู่เป็นพิเศษในเวลากลางคืนและทีมงานชุดนี้ต้องหาให้พบ แต่บริเวณที่ว่าก็มีอยู่มากมายทีเดียว เพราะค่างแว่นก็ไม่ต่างจากสัตว์ในตระกูลลิงอื่นๆที่ไม่ได้มีที่นอนเพียงแห่งเดียว นั่นหมายความว่า พวกมันจะไม่กลับไปนอนที่เดิมนั่นเอง ฉะนั้น จึงอาจเป็นเรื่องของโชคเหมือนกันเวลาที่เราหาพวกมันเจอ ครั้นพอเจอแล้ว พวกเราจะตามมันไปทุกที่จนกว่าค่างแว่นเหล่านี้จะได้ที่นอน หลังจากนั้นทีมงานชุดนี้จะกลับออกมาก่อนมืดค่ำ เช้าวันรุ่งขึ้น ทีมเดิมจะกลับเข้าไปหาพวกมันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง แล้วเฝ้าอยู่จนถึงเที่ยงวัน ก่อนที่ทีมที่สองจะเข้ามารับช่วงต่อ เพื่อให้ทีมแรกกลับไปพักผ่อนและบันทึกข้อมูล วิทยาทานจากค่างแว่นถิ่นเหนือ ระบบจีพีเอสช่วยให้เราระบุตำแหน่งของค่างแว่นถิ่นเหนือในป่าทุกๆครึ่งชั่วโมง เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน เราจะมีข้อมูลพอที่จะสรุปได้ว่า อาณาเขตของพวกมันกินพื้นที่ขนาดไหน พวกมันเดินทางไกลแค่ไหนในแต่ละวัน และโดยรวมแล้ว พวกมันต้องการใช้พื้นที่มากเพียงใดในการดำรงชีวิต นอกจากนี้ ระบบจีพีเอสยังช่วยให้เรารู้ด้วยว่า พื้นที่ไหนมีค่างแว่นเข้าไปใช้มากกว่าหนึ่งฝูง ซึ่งปกติแล้ว พวกมันจะไม่ค่อยใช้พื้นที่ทับซ้อนกันสักเท่าไหร่ และนานๆจะเจอกันสักที ในช่วงที่เรามีกำลังคนมากพอ เราจะพยายามติดตามฝูงค่างแว่นสองฝูงพร้อมๆกัน เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ในแง่ของการใช้พื้นที่ระหว่างฝูงต่างๆ เช่น พวกมันทำอย่างไรถึงแทบไม่เจอกันเลย จนเกือบจะดูเหมือนว่า พวกมันพยายามหลบเลี่ยงซึ่งกันและกัน และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พวกมันใช้กลวิธีใด เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกมันอาศัยฟังเสียงเรียกของบรรดาตัวผู้ในฝูง แต่เสียงนี้ก็ไม่ได้มีทุกวัน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เสียงเรียกนี้ไปได้ไกลแค่ไหนในป่าที่รกทึบ ยังมีอีกหลายคำถามที่รอให้เราค้นหาคำตอบ ซึ่งทำให้งานของเราน่าตื่นเต้น แต่ละวันที่อยู่ในป่ากับค่างแว่นเหล่านี้ เราก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพวกมันมากขึ้นทีละน้อยๆ

อ่านเรื่องราวทั้งหมดอย่างจุใจได้จาก นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย

ปรนัย...ปัญหาที่อยากให้ครู..แก้ไข


 

        ผมมองว่าสังคมไทยวันนี้เป็นสังคมปรนัย..จึงย่ำแย่
        "ปรนัย" ตามความหมายใน"พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒" ให้คำอธิบายตอนหนึ่งว่า ".....เรียกการสอบแบบที่ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นคําถามที่ต้องการคําตอบตายตัว..."
        เมื่อสังคมไทยกลายเป็น"สังคมปรนัย" ก็หมายความเป็นไปตามความหมาย นั่นคือ "..ผู้สอบมักไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นส่วนตัว.." ทำให้สังคมไทยวนและจมปลักอยู่ในวังวนน้ำเน่า ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง เพราะ"ทุกอย่าง" ถูกกำหนดให้"ประชาชน"มีส่วนร่วมเพียง"เลือก"ในสิ่งที่ถูกกำหนดมาแล้วแบบ"ตายตัว"
        การไม่มีปากมีเสียงและไม่มีโอกาสแสดงความเห็นจึงเป็นสิ่งที่น่าห่วงของสังคมไทย
        ปัญหานี้ อาจจะเป็นปัญหาเล็กๆสำหรับคนทั่วไป แต่นี่คือสิ่งที่จะต้องปลูกฝังตั้งแต่วันนี้ และคนที่จะต้องรับผิดชอบต่อจากพ่อแม่ที่ยังยึดหลักการเลี้ยงลูกแบบปรนัย คือหามาให้ลูกเลือกว่าจะเอาหรือไม่เอาก็คือ"ครู" ที่ควรจะเลิกสอนและออกข้อสอบแบบปรนัย แต่หันมาให้ความสำคัญกับการออกข้อสอบแบบ"อัตนัย"
        ใน"พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒" ให้ความหมายของอัตนัยไว้ว่า "...เปิดโอกาสให้แสดงความรู้หรือความคิดเห็นส่วนตัวได้, เรียกการสอบแบบที่ให้ผู้ตอบบรรยายแสดงความรู้หรือแสดง ความคิดเห็นของตนเอง.."
        นี่คือ"ความยาก"ของการออกข้อสอบประเภทนี้ที่"ครู"หลายคนไม่ชอบ
        ไม่ชอบเพราะการตอบแบบ"อัตนัย" คนตรวจข้อสอบจะต้องมี(ทั้ง)ความรู้และความเข้าใจในเรื่องนั้นๆมากกว่าคนตอบ และต้องสามารถ"เข้าใจ"ว่าคนตอบกำลังจะอธิบายอะไรในคำตอบนั้นๆ ซึ่งแน่นอนว่ายากกว่าการออกข้อสอบแบบ"ปรนัย" ที่มี"คำตอบสำเร็จรูป"ที่ครูแค่ตรวจว่านักเรียนเลือกข้อ ก. ข. ค.หรือ ง. ซึ่งส่วนใหญ่ข้อ ง.มักจะเป็น"ถูกทุกข้อ"
        การพัฒนาประเทศไทยวันนี้ จึงต้องเริ่มที่"ครู"..ที่ต้องกล้าออกข้อสอบอัตนัย
        วันนี้ 16 มกราคม เป็น"วันครู"..ผมจึงอยากเสนอสิ่งที่"ยาก"สำหรับหน่วยงานที่ผลิต"ครู" ว่าถึงเวลาหรือยังที่จะ"สอน"ให้คนที่จะเป็น"ครู" เรียนรู้และเข้าใจที่จะพัฒนาสังคมไทยให้เป็น"สังคมอัตนัย" ด้วยการสอนให้นักเรียนไทย"กล้า"ที่จะออกความเห็น มากกว่านั่งปั่นแปะประเภท "หัวคือข้อ ก. ก้อยคือข้อ ข."
        ครู...จึงเป็น"ผู้นำ"ที่แท้จริงในการพัฒนาประเทศ แต่เปลี่ยนประเทศไทยจาก"สังคมปรนัย"เป็น"สังคมอัตนัย"
        ถึงเวลาหรือยังครับครู !!!

 


 

โดย ลูกเสือหมายเลข9

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3113 วันที่ 14 พ.ค. 2552


เรื่อง....ค่างๆ...ครูๆ...(อย่าเพิ่งเถียง..อ่านก่อน...)

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ผิวหน้าสวย....ด้วยใบเตย

ผิวหน้าสวย....ด้วยใบเตย


เปิดอ่าน 7,151 ครั้ง
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ปก  แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้อง (คำนำ, สารบัญ)

ปก แนวทางการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้อง (คำนำ, สารบัญ)

เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
แนะนำสื่อออนไลน์
แนะนำสื่อออนไลน์
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย

ผู้หญิงคนเดียวในโลก
ผู้หญิงคนเดียวในโลก
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

การศึกษา คือหน้าตาของประเทศ
การศึกษา คือหน้าตาของประเทศ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

สาว"ขนตาสั้น"เฮ มียาปัดให้ยาวได้
สาว"ขนตาสั้น"เฮ มียาปัดให้ยาวได้
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ขออนุญาตเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ขออนุญาตเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย

น่าเห็นใจ.!! darling.ใครก็ไม่รู้
น่าเห็นใจ.!! darling.ใครก็ไม่รู้
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย
เปิดอ่าน 82,839 ครั้ง

หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
หยุดทำร้ายเด็กไทยโดยใช้ผลการสอบ O-NET ตัดสินเลื่อนชั้น(ได้-ตก)
เปิดอ่าน 14,186 ครั้ง

สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
สำนวนอังกฤษที่จำเป็นในการจัดการโปรเจ็ค
เปิดอ่าน 31,298 ครั้ง

แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู
แนะนำวิธีจัดโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับครู
เปิดอ่าน 19,548 ครั้ง

8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
8 วิธีกำจัดขาโต๊ะสนุ้ก
เปิดอ่าน 10,985 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ