การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก

                         บุคคล/องค์กรต้นแบบและบุคคลตัวอย่างที่ได้รับรางวัล  แบ่งเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ประเภทที่ ๑ รางวัล กำลังใจเพื่อผู้หญิงซึ่งมีประเภท รางวัลเกียรติยศ และรางวัลประเภทสื่อมวลชน  ประเภทที่ ๒ รางวัลหนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงซึ่งแบ่งเป็น ประเภทบุคคลเยาวชน ประเภทบุคคล  ประเภทองค์กร และประเภททีมงาน  และประเภทที่ ๓ รางวัลชมเชยหนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีรางวัลให้กับบุคคลและองค์กรที่สนับสนุนโครงการหนึ่งเสียงหยุดความรุนแรง

๑  รางวัลเกียรติยศ “กำลังใจเพื่อผู้หญิง” ได้แก่ดร. สายสุรี  จุติกุล

          เป็นผู้ผลักดันในระดับนโยบายเกี่ยวกับผู้หญิงและเด็กในหลายๆประเด็น อาทินำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ปี 2535 เป็นปีสตรีไทย ผลักดันกฎหมายลาคลอด  พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีพ.ศ.2537 นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการประจำอนุสัญญาว่าด้วยการจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุปรูปแบบ หรือ  CEDAW สหประชาชาติ

 ๒.รางวัลดีเด่น กำลังใจเพื่อผู้หญิง  ได้แก่๒.๑ ผู้จัดรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง  สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๓  ตามที่ฝ่าพระบาทได้มีพระดำริในการช่วยเหลือผู้ต้องขังสตรีที่ตั้งครรภ์และเด็กติดผู้ต้องขังผ่านโครงการกำลังใจ มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๙ ปรากฏว่ารายการผู้หญิงถึงผู้หญิงได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการนำเสนอข้อมูลของกลุ่มบุคคลเหล่านี้มาโดยตลอดรวมทั้งยังได้เข้าไปจัดกิจกรรมเพื่อให้กำลังใจกับผู้ต้องขังสตรีมาเป็นระยะ และนอกจากนี้ จากการที่เป็นรายการที่นำเสนอประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงและเมื่อฝ่าพระบาทได้รับเป็นทูตสันถวไมตรีก็ได้เข้ามามีส่วนช่วยในการกระตุ้นและสร้างจิตสำนึกให้คนไทยได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ผ่านทางรายการมาโดยตลอด  

๒.๒ ผู้จัดละครโบตั๋นกลีบสุดท้าย        เป็นละครดราม่าย้อนยุคจากบทประพันธ์ของ กานติมา ที่สร้างกระแสของการเชิดชูเกียรติให้กับผู้หญิง  ว่าลูกสาวในครอบครัวคนจีนก็สามารถเป็นคนเก่ง และคนดีไม่แพ้ลูกชาย ขอเพียงมีคุณธรรมนำชีวิต  และทุกคนในสังคมไม่ตั้งข้อรังเกียจในความเป็นหญิงของลูกสาวว่าด้อยกว่าลูกชาย  เราก็สามารถสร้างค่านิยมในการเลี้ยงลูกสาว และลูกชายได้อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นมิติที่ดีของการรณรงค์หยุดความรุนแรงในกระแสของสถาบันครอบครัว   ถือเป็นละครที่สร้างสรรค์ แนวครอบครัว และสังคม  เพื่อจรรโลงความรัก และความดีงามของสังคม  ซึ่งคุณณัฎฐนันท์   ฉวีวงศ์ ในฐานะผู้ผลิตละครเรื่องนี้ได้มีโอกาสอ่านนิยายเรื่อง “โบตั๋นกลีบสุดท้าย”   แล้วเกิดความชอบส่วนตัว เนื่องจากเป็นละครที่เกี่ยวกับครอบครัว นำเสนอถึงความรักของพ่อแม่ที่ต่อลูก และกตัญญูที่ลูกมีตอบแทนกับพ่อแม่ จึงได้นำไปเสนอสถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง ๓ เพื่อผลิตออกอากาศ

๒.๓ พระแทนคุณ  ฐานิสสโร  หรือนายแทนคุณ  จิตต์อิสระ  เป็นนักแสดงละครสร้างสรรค์เยาวชนที่ได้เปลี่ยนมาทำงานด้านการช่วยเหลือสังคมในประเด็นการช่วยเหลือเด็กและสตรี มาโดยตลอดตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ จนถึงปัจจุบัน เป็นผู้ที่นำหลักธรรมะเข้ามากล่อมเกลาจิตใจของเด็กและเยาวชนผ่านทางสื่อโทรทัศน์ในฐานะที่เป็นพิธีกร  โดยจะเห็นได้จากรายการต่างๆอาทิ รายการทำดีเพื่อพ่อทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที   รายการธรรมในใจทางสถานีโทรทัศน์ช่อง ๓ รายการช่อง ๕ หน้าหนึ่งทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง ๕ เป็นผู้พากษ์ภาพยนตร์การ์ตูนธรรมะเรื่องพระพุทธเจ้าในบท พระอานนท์    และเคยได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็นรางวัลเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ รางวัลศิลปินคุณธรรม รางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก  และกำลังนำหลักธรรมเข้ามาช่วยเหลือกลุ่มสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง  โดยปัจจุบันได้บวชเพื่อถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

๒.๔ นางสาวอรสม  สุทธิสาคร   เป็นนักสื่อสารมวลชนมาตั้งแต่อายุ ๑๘ ปีและต่อมาได้เปลี่ยนมาเป็นนักเขียนอิสระ มีความสนใจประเด็นงานเขียนสารคดีที่สะท้อนปัญหาสังคมและมองว่าในฐานะคนเขียนสารคดี คือหน้าที่และบทบาทที่พึงมีต่อสังคมในการเป็นสื่อที่นำเสนอเรื่องราวต่อสาธารณะ อันเป็นการนำเสนอความรู้ ความเป็นจริงกับสังคม โดยคิดว่าการนำเสนอถึง รากของปัญหา เป็นวิธีการในการทำให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคม รวมทั้งจะเป็นประตุบานแรกที่นำไปสู่การตระหนักนรู้ในการ่วมแก้ไขปัญหาและหาทางออกที่เหมาะสม   มีผลงานรวมเล่มที่เผยให้เห็นด้านมืดของสังคม และสะท้อนปัญหาความรุนแรงของผู้หญิงและเด็ก มากว่า ๓๐ เล่ม  อาทิ สนิมดอกไม้ ดอกไม้ราตรี สินค้ามีชีวิต  คำสารภาพ .....บาปบริสุทธิ์  คุก...ชีวิตในพันธนาการ  เป็นต้น และวางแผนที่จะดำเนินการเขียนสารคดีเล่มสะท้อนปัญหาความรุนแรงในครอบครัวโดยเก็บข้อมูลทั้งผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ เหยื่อและผู้แวดล้อม ในปี ๒๕๕๒  

๓.รางวัลดีเด่น หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงประเภทเยาวชน ได้แก่กลุ่มเยาวชนฟ้าใหม่ จ. เชียงใหม่   เป็นกลุ่มเยาวชนจำนวน ๑๕คนในชุมชนฟ้าใหม่ที่รวมตัวกันโดยใช้กระบวนการละครได้แก่ ละครซอ และการขับซอเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งชุมชนฟ้าใหม่มีปัญหาเกี่ยวกับการดื่มเหล้าของคนในชุมชน โดยเมื่อมีการดื่มจะเกิดปัญหาความรุนแรงขึ้นทุกครั้ง ซึ่งความรุนแรงมีทั้งทางกาย ใจ ดังนั้นจึงมีแนวคิด ที่รวมตัวกันโดยใช้เด็กและเยาวชนเป็นพลังเพื่อกระตุ้นให้ครอบครัวในการร่วมใจ ลด ละ  เลิก เหล้า เพื่อยุติความรุนแรง สร้างครอบครัวที่อบอุ่น ด้วยเชื่อมั่นว่า  “ถ้าเยาวชนเป็นคนดี จะสร้างชุมชนที่ดีให้สังคมได้”   นอกจากนี้ยังเริ่มโครงการ นักดื่มหน้าใหม่ในชุมชน โดยการสร้างค่านิยมใหม่ในชุมชนที่เมื่อมีงานเลี้ยงในชุมชนจะไม่มีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ ซึ่งประสบความสำเร็จในการดำเนินการมาโดยตลอด 

๔.รางวัลดีเด่น หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงประเภทบุคคล  ได้แก่

๔.๑  กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน   ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ พญ. เพ็ญศรี  พิชัยสนิธ   เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอนามัยแม่และเด็ก  ผู้เป็นกำลังสำคัญในการทำงานด้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก ทั้งเชิงรับและเชิงรุก  มายาวนานกว่า 20 ปี อาทิได้ดำเนินโครงการที่ดูแลผู้หญิงที่ถูกข่มขืนอย่างครบวงจรหรือที่เรียกว่า  ศูนย์กนิษฐ์นารี   โครงการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กก่อนวัยเรียน  โครงการเสริมสร้างทักษะชีวิตด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธ์ในวัยรุ่นซึ่งได้สร้าง หลักสูตรการเรียน การสอนให้กับโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร  เคยได้รับรางวัลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สตรีดีเด่นจากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานสตรีแห่งชาติ นักสังคมสงเคราะห์ดีเด่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี 

๔.๒ กลุ่มภาคราชการ   ศ. นพ. รณชัย  คงสกนธ์ รองคณบดีคณะแพทย์  โรงพยาบาลรามาธิบดี   จากประสบการณ์ทำงานด้านจิตแพทย์ทำให้รับรู้และเห็นสภาพปัญหาด้านความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กอย่างชัดเจน  ได้ร่วมงานกับมูลนิธิเพื่อนหญิง ได้ทำวิจัยเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว จนกระทั่งเป็นผู้จัดตั้งโครงการรณรงค์ลดความรุนแรงในครอบครัวตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็น หน่วยจัดการความรู้เรื่องความรุนแรงในครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี   เป็น ผู้นำแนวคิดความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่เรื่องส่วนตัว สังคมต้องตระหนัก  และสอดส่องดูแลช่วยเหลือกัน  อันเป็นที่มาของการจัดตั้งนำร่องชุมชนรอบโรงพยาบาลรามาธิบดีหรือ  “ชุมชนนารีรักษ์” เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาความรุนแรงในครอบครัว   และยังแต่งหนังสือที่เกี่ยวข้องอีกหลายเล่ม อาทิ ความรุนแรงในครอบครัว   นิติจิตเวชศาสตร์ เป็นต้น 

๔.๓ กลุ่มผู้นำชุมชน  นางรัตนา  สาระคุณ  กำนันตำบลโนนหนามแท่ง จ. อำนาจเจริญ    ด้วยตำบลหนามแท่ง  จังหวัดอำนาจเจริญมีลักษณะชุมชนที่ถือความสัมพันธ์แบบชายเป็นใหญ่และในชุมชนก็ประสบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่สืบเนื่องมาจากการดื่มเหล้าของกลุ่มชาย  และต่อมากำนันรัตนาก็ได้ประสบปัญหากับตนเองเนื่องด้วยสามีติดเหล้าและเกิดอุบัติเหตุ จึงเป็นเหตุให้กำนันหันมาแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอย่างจริงจัง และได้มีการรวมตัวในกลุ่มผู้หญิงประมาณ ๕-๖ คน ภายใต้ชื่อ กลุ่มเพื่อหญิงอำนาจเจริญ โดยช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก และเป็นแกนนำรณรงค์สร้างวัฒนธรรมงานเลี้ยงไม่มีเหล้าทั่วภาคอีสาน เพื่อยุติความรุนแรงในครอบครัว นอกจากนี้ยังสร้างชุมชนนี้ให้เป็นชุมชน ลด ละเลิกเหล้า อย่างแท้จริง

๕.รางวัลดีเด่น หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงประเภทองค์กร ได้แก่

๕.๑ กลุ่ม องค์กรพัฒนาเอกชน  มูลนิธิผู้หญิงเป็นองค์กรสนับสนุนและช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกกระทำความรุนแรง  ให้ที่พักชั่วคราว  ให้คำปรึกษาแนะนำด้านกฎหมาย เพื่อการเยียวยาทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสร้างเครือข่ายในการรณรงค์ให้สังคมได้ตระหนักถึงปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิง  การค้าหญิง  เพื่อผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่มีปัญหา  ตลอดจนผลักดันให้เกิดนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อผู้หญิง  โดยดำเนินการศึกษาวิจัย   เช่น  ติดตามการบังคับใช้พระราชบัญญัติปราบปรามการค้าประเวณี  และพระราชบัญญัติการค้าหญิงและเด็ก  เป็นต้น  สำหรับผลงานที่เป็นที่ยอมรับของสังคม  คือ  การรณรงค์ต่อต้านเพลงและกิจกรรมที่เป็นความรุนแรงต่อผู้หญิงในระดับชุมชน  การผลิตสื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันแก้ไขความรุนแรงต่อผู้หญิง  เช่น  หนังสือคู่มือหญิงไทยในต่างแดน  หนังสือคู่มือวัยรุ่น  สื่อการศึกษาสำหรับการจัดกิจกรรมกับกลุ่มผู้หญิง  นอกจากนี้ยังได้มีแผนงานที่จะติดตามให้ความช่วยเหลือกรณีที่ผู้หญิงต้องคดีจากการต่อสู้ป้องกันตนเองจากสามีที่ทำร้ายทุบตีใช้ความรุนแรง  และร่วมกับเครือข่ายผู้หญิงในการจัดทำร่างกฎหมายส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาคทางเพศฉบับประชาชน 

๕.๒   ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรี  โรงพยาบาลชุมพรอุดมศักดิ์เป็นศูนย์ที่มุ่งมั่นสร้างเครือข่ายเพื่องานช่วยเหลือเด็กและผู้หญิงในจังหวัดชุมพร  โดยเป็นต้นแบบดีเยี่ยมของศูนย์พึ่งได้ (OSCC) ประจำภาคใต้  รวมทั้งสร้างนวัตกรรมผู้ชายเลิกเหล้า  ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก  จัดทำหนังสือเลิกเหล้า  ชุมชนสร้างสุข  เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์พึ่งได้ต้นแบบ  เป็นหน่วยงานระดับจังหวัดที่มีบทเรียนที่ดีในการทำงาน  ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนสร้างแกนนำผู้ผ่านพ้นความรุนแรงและต้นแบบผู้ชายร่วมยุติความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก  ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์แก่สังคม  จึงได้นำผลงานวิชาการของศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและสตรีไปเผยแพร่ในโอกาสต่าง ๆ  ทั้งนี้ เพื่อต้องการยกระดับการทำงานให้พัฒนาก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย  อันจะนำไปสู่การมีแนวทางการทำงานร่วมกันในการคุ้มครอง  ป้องกันและแก้ไขช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรงต่อไป 

๖.รางวัลดีเด่น หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงประเภททีมงาน ได้แก่

ศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก  ชุมชนไทยเกรียง

๗ .รางวัล ชมเชย หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงประเภท เยาวชน ได้แก่ เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมบ้านกาญจนาภิเษก

ประเภท บุคคลทั่วไป  ได้แก่ นางสาวอรุณี ศรีโต ที่ปรึกษาชุมชนไทยเกรียงและนางอังคนึง   เล็บนาค  ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง  กรมราชทัณฑ์

ประเภทองค์กร ได้แก่ วิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ กรุงเทพมหานคร วชิรพยาบาล   สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์   ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรี จังหวัดนนทบุรี   และกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม