|
Advertisement
|
บทคัดย่อ
การพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ของผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเป็นแกนหลักของการประเมิน PISA โดยบูรณาการกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-based Learning) และการส่งเสริมการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เข้ากับการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ภายในห้องเรียน โครงการนี้เป็นการต่อยอดการดำเนินงานจากกรอบการขับเคลื่อน PISA ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ การออกแบบและประเมินผลการสืบเสาะหาข้อมูล และการตีความหลักฐานและข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ การดำเนินการวิจัยจะประกอบด้วย การวิเคราะห์บริบทและความต้องการจำเป็นในการพัฒนาผู้เรียนให้มีความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ การสร้างสรรค์และพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และสื่อการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวทาง PISA และกรอบของ สพฐ. การนำร่องใช้ชุดกิจกรรมกับกลุ่มตัวอย่าง และการประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ รวมถึงทัศนคติของผู้เรียนต่อการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เชิงรุก ผลการวิจัยที่ได้จะนำไปสู่การเสนอแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) สำหรับการพัฒนาความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของผู้เรียนไทย เพื่อตอบสนองเป้าหมายการยกระดับคุณภาพการศึกษาตามแนวทาง PISA อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ
ความเป็นมาและความสำคัญ
ปัจจุบัน ความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ (Scientific Literacy) ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นทักษะสำคัญยิ่งสำหรับพลเมืองในศตวรรษที่ 21 ที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างมีเหตุผลและรับผิดชอบ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) โดยโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Programme for International Student Assessment: PISA) ได้ให้นิยามความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไว้ว่า เป็นความสามารถในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ การออกแบบและประเมินผลการสืบเสาะหาข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และการตีความหลักฐานและข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการทำความเข้าใจลักษณะของวิทยาศาสตร์ในฐานะรูปแบบหนึ่งของความรู้และกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ตลอดจนการตระหนักถึงบทบาทของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการหล่อหลอมสังคมและสิ่งแวดล้อม และความเต็มใจที่จะมีส่วนร่วมในการพิจารณาประเด็นทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับตนเองในฐานะพลเมืองที่ผ่านมา ผลการประเมิน PISA ของนักเรียนไทยยังคงเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นการท่องจำเนื้อหามากกว่าการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้และได้กำหนดกรอบการขับเคลื่อน PISA เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ ดังนั้น การส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์จึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry-based Learning) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ และ การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียน มาบูรณาการเข้ากับการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง และสามารถนำความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างแท้จริง การดำเนินงานภายใต้แนวคิดนี้จึงเป็นการต่อยอดจากกรอบการขับเคลื่อนของ สพฐ. เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนไทยมีความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ตามแนวทาง PISA อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
|
โพสต์โดย ครูมัท : [6 ธ.ค. 2568 (11:25 น.)] อ่าน [802] ไอพี : 1.2.170.128
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
Advertisement
|
|
| |
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
| |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,601 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 37,571 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,954 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 63,338 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 2,943 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,100 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 47,669 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 20,268 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 118,585 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 10,906 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 40,397 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 16,187 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 14,787 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 23,331 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,845 ครั้ง 
| |
|
เปิดอ่าน 11,489 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 15,910 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 1,816 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 22,821 ครั้ง 
| เปิดอ่าน 5,220 ครั้ง 
|
|

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|