บทคัดย่อ
การพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (Reading Literacy) ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นตามแนวทางการประเมิน PISA โดยบูรณาการกระบวนการอ่านเชิงรุก (Active Reading Strategies) และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) ในบริบทการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โครงการนี้เป็นการต่อยอดการดำเนินงานจากกรอบการขับเคลื่อน PISA ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมุ่งเน้นการออกแบบและพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจ ประเมิน และใช้ประโยชน์จากข้อความหลากหลายรูปแบบ (ทั้งข้อความต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง) ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความฉลาดรู้ด้านการอ่านตามกรอบ PISA รวมถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับข้อความ ตั้งคำถาม วิเคราะห์ ตีความ และเชื่อมโยงความรู้เดิมกับข้อมูลใหม่ได้อย่างมีวิจารณญาณ การดำเนินการวิจัยจะประกอบด้วย การวิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการจำเป็นในการพัฒนาผู้เรียนด้านความฉลาดรู้ด้านการอ่าน การสร้างสรรค์และพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับแนวทาง PISA และกรอบของ สพฐ. การนำร่องใช้ชุดกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมาย และการประเมินผลสัมฤทธิ์ด้านความฉลาดรู้ด้านการอ่าน รวมถึงทัศนคติของผู้เรียนต่อการเรียนรู้ภาษาไทยเชิงรุก ผลการวิจัยที่ได้จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติสำหรับการส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ PISA ของผู้เรียนในระดับชาติอย่างยั่งยืน
๔. บทนำ
๔.๑ ความเป็นมาและความสำคัญ
ในโลกปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลเข้ามาอย่างมหาศาล ความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (Reading Literacy) จึงมิได้จำกัดอยู่เพียงความสามารถในการอ่านออกเขียนได้เท่านั้น แต่หมายถึงความสามารถในการทำความเข้าใจ ใช้ประโยชน์ และสะท้อนคิดจากข้อเขียนเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน พัฒนาความรู้และความสามารถของตน และมีส่วนร่วมในสังคม ซึ่งเป็นนิยามตามกรอบการประเมินของโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ (Programme for International Student Assessment: PISA) ขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) PISA ให้ความสำคัญกับการประเมินความสามารถของผู้เรียนในการทำความเข้าใจข้อความประเภทต่างๆ ทั้งข้อความต่อเนื่อง (เช่น เรื่องสั้น บทความ) และข้อความไม่ต่อเนื่อง (เช่น แผนภูมิ ตาราง แผนที่) เพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง
ที่ผ่านมา ผลการประเมิน PISA ด้านการอ่านของนักเรียนไทยยังคงเป็นประเด็นที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยที่อาจยังเน้นการอ่านเพื่อความจำหรือการตอบคำถามตามตัวอักษรมากกว่าการอ่านเพื่อทำความเข้าใจเชิงลึก การวิเคราะห์ตีความ และการประเมินข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับผลสัมฤทธิ์ PISA และได้กำหนดกรอบการขับเคลื่อน PISA เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ
ดังนั้น การส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านการอ่านจึงเป็นภารกิจเร่งด่วนที่ต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำกระบวนการอ่านเชิงรุก (Active Reading Strategies) ซึ่งกระตุ้นให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับข้อความ เช่น การตั้งคำถาม การสรุปความ การทำแผนผังความคิด และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมกันวิเคราะห์ และสร้างองค์ความรู้จากบทอ่าน มาบูรณาการเข้ากับการจัดการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้ง พัฒนาทักษะการคิดขั้นสูง และสามารถนำความรู้และทักษะการอ่านไปใช้ในการแสวงหาความรู้และดำรงชีวิตในสังคมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดำเนินงานภายใต้แนวคิดนี้จึงเป็นการต่อยอดจากกรอบการขับเคลื่อนของ สพฐ. เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนไทยมีความฉลาดรู้ด้านการอ่านตามแนวทาง PISA อย่างยั่งยืน
๔.๒ วัตถุประสงค์
1. เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาไทย ที่เน้นการส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านการอ่าน (Reading Literacy) ตามแนวทาง PISA โดยบูรณาการกระบวนการอ่านเชิงรุก และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เข้าด้วยกัน
2. เพื่อยกระดับความฉลาดรู้ด้านการอ่าน ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นให้มีผลสัมฤทธิ์ตามเกณฑ์ที่กำหนด
3. เพื่อสร้างเจตคติที่ดีและส่งเสริมความสนใจของผู้เรียนต่อการอ่านภาษาไทยผ่านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย
4. เพื่อพัฒนาแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ในการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยเพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านการอ่านตามแนวทาง PISA
๔.๓ เป้าหมาย
4.3.1. เชิงปริมาณ
1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคะแนนความฉลาดรู้ด้านการอ่านตามแนวทาง PISA สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับชาติที่ตั้งไว้
2. ผู้เรียนร้อยละ 75 แสดงพฤติกรรมการอ่านเชิงรุกและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
4.3.2 เชิงคุณภาพ
1. ผู้เรียนสามารถทำความเข้าใจสาระสำคัญของข้อความประเภทต่างๆ ได้อย่างถ่องแท้
2. ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ ตีความ และประเมินข้อความหรือข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ได้อย่างมีวิจารณญาณ
3. ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ข้อมูลจากข้อความเพื่อแก้ปัญหาหรือประกอบการตัดสินใจในสถานการณ์ที่หลากหลาย
4. ผู้เรียนแสดงออกถึงความกระตือรือร้น ความคิดริเริ่ม และความรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ภาษาไทยและการอ่าน